Sponsor

13 มิถุนายน 2559

How to play Backgammon - กติกาและวิธีการเล่นแบ็กแกมมอน


แบ็กแกมมอน (Backgammon) หรือ สกาสากล คือ เกมกระดานสำหรับเล่นสองคนแบบทอยเต๋าที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ยาวนานกว่า 5,000 ปี และพบอยู่ในแทบทุกอารยธรรมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นที่อียิปต์โบราณ, อินเดีย, จีน ฯลฯ ขึ้นชื่อว่าเป็นเกมกระดานระดับราชาและเทวดา เล่นโดยใช้ลูกเต๋าในการทอยและใช้หมากในการเดิน ซึ่งผู้เล่นจะสลับกันเดินเพื่อนำหมากของตนออกจากกระดานและใช้กลยุทธ์เพื่อขัดขวางการเดินหมากของฝ่ายตรงข้าม
เกมกระดานที่มีการทอยเต๋าเข้ามาเกี่ยวข้องนั้นคล้ายกับชีวิตจริงของคนเรา ที่อาจเจอเรื่องไม่คาดฝัน สภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ หรือทรัพยากรต่างๆมากน้อยแบบที่เราควบคุมไม่ได้ ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น จากนั้นก็อยู่ที่ว่าเราจะจัดการกับทรัพยากรเท่าที่ได้มานี้ให้ดีที่สุดได้อย่างไร

อุปกรณ์การเล่น
  1. กระดานแบ็กแกมม่อน ซึ่งมีจุดวางหมาก 24 ตำแหน่ง (มักทำเป็นรูปสามเหลี่ยมแท่งยาว)
  2. ตัวหมาก 2 สี (เช่น ขาว กับ ดำ เป็นต้น) อย่างละ 15 ตัว
  3. ลูกเต๋า 6 หน้า 2 ลูก (ผลัดกันทอย) (หรือสำหรับการแข่งขันอย่างเป็นทางการ คือ 4 ลูก ใช้คนละ 2 ลูก ต่างคนต่างทอย)
  4. (อุปกรณ์เสริม) แก้วสำหรับทอยเต๋า 1 ใบ (หรือสำหรับการแข่งขันอย่างเป็นทางการ คือ 2 ใบ ใช้คนละใบ ต่างคนต่างใช้)
  5. (อุปกรณ์เสริม) ลูกเต๋าตัวคูณ Doubling cube 1 ลูก (เป็นเต๋าหกหน้าแบบพิเศษซึ่งจะเป็นตัวเลข 2, 4, 8, 16, 32, 64 แทนแต้มเต๋าแบบทั่วไป หากหาไม่ได้อาจใช้เป็นการเขียนตัวเลขแทนก็ได้) ใช้เฉพาะในกรณีที่เล่นโดยใช้กติกาเสริม
การจัดหมากก่อนเริ่มเกม
สำหรับผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจะมีมุมมองที่แตกต่างกัน ซึ่งในที่นี้ขอกล่าวถึงในมุมมองมาตราฐานที่นิยมทำเป็นภาพกันในตำราแบ็กแกมม่อนนะครับ (ซึ่งผู้เล่นอีกฝ่ายจะกลับซ้ายขวา ควรฝึกให้ชิดทั้งสองฝั่ง) ช่องสำหรับวางหมากจะเป็นรูปสามเหลี่ยมยาวๆ เรียกว่าจุด (point)
  1. ตำแหน่งเริ่มต้นของผู้เล่นจะอยู่ส่วนบนขวาสุดของกระดาน คือจุดที่ 24 วาง 2 หมาก
  2. ตำแหน่งวางหมากถัดมาอยู่ส่วนบนทางซ้ายสุด คือจุดที่ 13 วาง 5 หมาก
  3. ตำแหน่งถัดมาอยู่ส่วนล่างซ้าย จุดที่ 8 วาง 3 หมาก
  4. ตำแหน่งสุดท้ายอยู่ส่วนล่างขวา จุดที่ 6 วาง 5 หมาก
ทั้งสองฝ่ายก็จัดเช่นเดียวกัน แต่กลับด้านฝั่งกัน ตามภาพประกอบข้างล่างนี้เลยครับ

ตำแหน่งการวางหมากเมื่อเริ่มเกมจากมุมมองของฝ่ายดำ

จุดเริ่มต้นและทิศทางการเดินหมากของแต่ละฝ่าย
มุมมองที่เห็นนี้คือมุมมองจากผู้เล่นฝ่ายดำ

เป้าหมาย
นำหมากของตนออกจากกระดาน(bear off)ให้หมดก่อนฝ่ายตรงข้ามถือเป็นผู้ชนะ

วิธีการเล่น
  1. ทอยเต๋าเพื่อหาว่าใครจะเป็นคนเดินก่อน ด้วยการทอยเต๋า 1 ลูก ใครได้แต้มมากกว่าคนนั้นได้เดินก่อน ถ้าได้เท่ากันให้ทอยใหม่
  2. เมื่อได้ผู้เริ่มก่อนแล้ว ให้ใช้แต้มที่ทอยกันเมื่อกี้มาใช้ในการเดินตาแรกเลย เช่น ได้ 3 กับ 6 แต้ม ก็ให้เลือกเดินได้ 2 ครั้ง เป็นหมากตัวใดก็ได้ โดยเดินหมากที่เลือกเดินให้กระโดดไปที่อีก 6 จุดถัดไป หรือ 3 จุดถัดไป เดินแต้มไหนก่อนหลังก็ได้ จะเป็นหมากเดียวกันหรือเปลี่ยนเป็นหมากอื่นในแต้มถัดไปก็ได้ หลังจากตาแรกไปแล้วก็ผลัดกันทอยเต๋า 2 ลูกเองตามปกติ
  3. หากทอยได้แต้มเหมือนกันทั้งสองเต๋า จะได้เดิน 2 เท่า เช่น ทอยได้ 5 กับ 5 แต้ม จะได้เดิน 4 ครั้ง คือ เดินหมากใดก็ได้กระโดดไป 5 จุดถัดไป ได้ 4 ครั้ง จะหมากเดิมหรือเปลี่ยนหมากในแต่ละแต้มก็ได้
  4. ถ้าจุดที่จะกระโดดลงไปมีหมากของฝ่ายตรงข้าม 2 ตัวขึ้นไปอยู่ที่จุดนั้น เรียกว่าการบล็อค (Block) จะกระโดดลงจุดนั้นไม่ได้ แต่ถ้าจุดนั้นมีหมากของฝ่ายตรงข้าม 1 ตัว จะกระโดดลงไปได้ โดยหมากของฝ่ายตรงข้ามก็จะโดนกิน (Hit) คือให้หยิบหมากของฝ่ายตรงข้ามออกจากจุดนั้นแล้วนำไปวางไว้ที่บาร์ตรงกลางกระดาน
  5. หากฝ่ายใดมีหมากอยู่บนบาร์เมื่อถึงตาเดินแล้วทอยเต๋า จะต้องนำหมากบนบาร์ลงมาในกระดานก่อน จึงจะเลือกเดินหมากตัวอื่นได้(ถ้าต้องการ) โดยเริ่มนับจากมุมที่เป็นจุดเริ่มต้น เช่น ถ้าทอยได้ 1 กับ 3 แต้ม ก็ให้เดินหมากจากบนบาร์ลงมาในกระดาน สมมุติว่าเลือกเดิน 1 แต้มก่อนก็กระโดดลงในจุดเริ่มต้น คือ จุดที่ 24 มุมบนขวาสุด แล้วการเดินครั้งที่ 2 คือ 3 แต้มที่เหลือ จะเลือกเดินตัวเดิมหรือเปลี่ยนไปเดินตัวอื่นก็ได้
  6. หากทอยเต๋าแล้วไม่มีหมากตัวใดสามารถเดินได้เลยเพราะติดบล็อก ก็ต้องผ่านตานั้นไป คือไม่ได้เดิน แต่หากทอยเต๋าได้แต้มแล้วมีตำแหน่งที่เดินได้ก็ต้องเดินให้ครบตามที่ทอยได้ ไม่อาจขอผ่านเองได้ หากเดินได้แต้มเดียวก็ต้องเดินแต้มที่สูงกว่าถ้าเป็นไปได้

การเดินหมากออกจากกระดาน (Bear off)
  1. ต้องเดินหมากทั้งหมดมาถึงจุดโฮม(จุดที่ 6-1 หรือส่วนมุมล่างขวา)ก่อน จึงจะเริ่มเดินหมากออกจากกระดานได้
  2. ทอยเต๋าได้แต้มเท่าไหร่ก็เดินออกตามแต้มที่ทอยได้ เช่น หมากอยู่ที่จุดที่ 6 ก็เดินออกได้ด้วยการทอยได้ 6 แต้ม (ซึ่งก็จะเดินออกไปนอกกระดานพอดี) หรือ หมากอยู่ที่จุดที่ 1 ก็ต้องทอยได้ 1 แต้ม ก็เดินออกพอดี หากได้แต้มในตำแหน่งที่มีหมากอยู่ก็ต้องเดินหมากนั้นๆออกไปก่อน
  3. หากไม่มีหมากอยู่ในจุดที่ทอยได้แต้มพอดี หรือพูดง่ายๆคือทอยได้แต้มสูงกว่าตำแหน่งหมาก ก็ให้เอาหมากที่อยู่หลังสุดออกแทนได้ เช่น ทอยได้ 6 แต้ม แต่มีหมากอยู่ในจุดที่ 5 ก็ต้องเอาหมากในจุดที่ 5 ออกได้ หรือ หากทอยได้ 6 แต้ม แต่หมากทั้งหมดอยู่ที่จุดที่ 1 ก็เอาหมากจุดที่ 1 เดินออกได้ คือต้องเอาหมากตำแหน่งสูงสุดออกก่อนจนกว่าจะหมดแล้วลดหลั่นกันมาหากทอยได้แต้มสูงเกินตำแหน่งหมากนั่นเอง แต่หากทอยแต้มได้เท่าตำแหน่งหมากก็เลือกเดินได้ตามปกติ จะเดินออกหรือเดินจัดรูปกระบวนหมากก็แล้วแต่กลยุทธ์
ในภาษาอังกฤษยุคกลาง
Back แปลว่า กลับ
Gammon แปลว่า เกม
Backgammon ความหมายคือ เกมกลับบ้าน

ต้องนำหมากให้มาอยู่ในตำแหน่งบ้าน(Home)ทั้งหมดก่อน
จึงจะเริ่มเดินหมากออกได้

คิดแต้มตามรูปแบบของการชนะ ซึ่งมี 3 รูปแบบ
  1. ชนะแบบ ปกติ (Single Game Win) ได้ 1 แต้ม (ต่างฝ่ายต่างเดินหมากออกมาบ้างแล้ว แต่ของเราออกหมดก่อน)
  2. ชนะแบบ แกมม่อน (Gammon) ได้ 2 แต้ม (หมากของเราออกหมดแล้ว แต่อีกฝ่ายยังอยู่บนกระดานโดยไม่ออกเลยแม้แต่หมากเดียว)
  3. ชนะแบบ แบ็กแกมม่อน (Backgammon) ได้ 3 แต้ม (หมากของเราออกหมดแล้ว แต่อีกฝ่ายยังมีหมากอยู่บนบาร์นอกกระดาน)

เกมที่มีการทอยเต๋าหลายคนมองว่าเป็นเกมที่เกี่ยวกับโชค แต่การเล่นแบ็กแกมมอนจำเป็นต้องใช้ทักษะด้วย แน่นอนว่าย่อมมีเรื่องโชคเข้ามาเกี่ยวข้องส่วนหนึ่ง (และนั่นเอง บางตาต้องลุ้นระทึกกันเลยเชียว 555+) ทำให้การแข่งขันแบ็กแกมมอนจะไม่เล่นแค่กระดานเดียวแล้วตัดสินครับ แต่จะเล่นหลายรอบ โดยการกำหนดแต้มสะสม โดยทั่วไปมักจะกำหนดที่ 1 แต้ม, 3 แต้ม, 5 แต้ม, 7 แต้ม, 11 แต้ม, หรือ 15 แต้ม ใครได้แต้มรวมถึงแต้มที่กำหนดก่อนก็เป็นผู้ชนะ (หากเล่นแบบมีเดิมพัน ฝ่ายชนะจะได้เงินเท่ากับจำนวนเงินเดิมพันคูณกับแต้มสะสมที่ได้ ไม่สนับสนุนให้เล่นพนันกินเงินนะครับ)
ดังนั้น แม้กำลังจะแพ้ก็ยังไม่หมดหวัง เพราะเราสามารถทำให้ดีที่สุดได้ เพื่อแพ้ในแต้มที่น้อยที่สุดได้ และอย่าลืมว่าแต้มรวมยังไม่ครบก็ยังไม่นับว่าแพ้จริง แค่แพ้สมรภูมิ ไม่ได้แพ้สงคราม ยังมีโอกาสใหม่ในกระดานถัดๆไป ชีวิตคนเราก็เช่นกัน ยังอยู่คือยังมีโอกาส แม้จะแพ้ก็ขอให้แพ้ในท่าที่ชนะ

กติกาเสริม
ยังมีกฏพิเศษอีกอย่างหนึ่ง คือ ลูกเต๋าตัวคูณ Doubling Cube ซึ่งมีหน้าเต๋าเป็นตัวเลข 2, 4, 8, 16, 32 และ 64 นิยมใช้ในการแข่งขัน ใช้เป็นตัวคูณแต้มเมื่อชนะในรอบนั้น ช่วยเพิ่มความกดดันและตื่นเต้นให้กับเกมมากขึ้น โดยต้องทำการตกลงร่วมกันก่อนเริ่มเกมว่าจะใช้ Double หรือไม่ ซึ่ง Double คือการเพิ่มตัวคูณแต้มเป็นจำนวนเท่าทวีตามหน้าเต๋าพิเศษนั้นเมื่อจบเกม เริ่มตั้งแต่ 2, 4, 8, 16, 32 และ 64 เท่า และต้องเสนอตามลำดับ แต่ละฝ่ายสามารถเสนอ Double ครั้งแรกได้ตลอดการเล่นเมื่ออยู่ในตาของตัวเอง หลังจากทำการเสนอ Double แล้ว ถ้าคู่แข่งยอมรับก็ทำการแข่งต่อไป (และหากจะมีการเสนอ Double อีกครั้งก็ต้องเป็นฝ่ายตรงข้ามเสนอ ฝ่ายเดิมจะเสนอติดกันสองครั้งไม่ได้ ต้องผลัดกัน) เมื่อจบเกมฝ่ายชนะก็จะได้ แต้มในรอบนั้น = แต้มชนะ x เลขหน้าเต๋า Doubling Cube แต่ถ้าเสนอ Double แล้วคู่แข่งปฏิเสธ ก็จะได้แต้มคูณตามค่า Double ที่เสนอและชนะทันที แต่โดยทั่วไปไม่ค่อยใช้ Doubling Cube แต่ถ้าใช้ก็จะทำให้แต้มสะสมเพิ่มเร็วขึ้นและเกมมีสีสรรมากขึ้นครับ

ตัวอย่างเมื่อชนะหลังจากใช้ Doubling Cube
สมมุติว่าเสนอ Doubling Cube ตามลำดับจนถึงเลขหน้า 8 แล้วจบเกมคือมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะแล้ว
  1. หากชนะแบบปกติจะได้ 1 x 8 = 8 แต้ม
  2. หากชนะแบบเกมม่อนจะได้ 2 x 8 = 16 แต้ม
  3. หากชนะแบบแบ็กแกมม่อนจะได้ 3 x 8 = 24 แต้ม นั่นเองครับ

อ่านกติกาอาจจะดูงงๆ แต่จริงๆ Backgammon เล่นง่ายครับ ถ้าได้ลองเล่นสักทีจะเข้าใจเลยล่ะครับ งั้นมาลองเล่น Backgammon ออนไลน์ฟรี(เล่นกับคอมฯ) เพื่อจะได้เข้าใจวิธีการเล่นเพิ่มขึ้นครับ https://247backgammon.org/

สำหรับสายเกม Text mode ต้องไม่พลาด วิธีการเล่น Backgammon ใน BSD Games




แถม
Backgammon หรือสกาสากล อาจนับเป็นกระดานศึกที่ใกล้เคียงโลกแห่งความเป็นจริงมากที่สุดแล้ว ด้วยตัวหมากที่เป็นดั่งทหารซึ่งประจำการตามสมรภูมิต่างๆ หากทหารรวมกันเป็นกลุ่มก็จะแข็งแกร่งกว่าทหารที่อยู่โดดเดียว ซึ่งจะถูกจับเป็นเชลยได้ง่ายแล้วการจะหนีออกมาได้ก็ต้องสบโอกาสที่เหมาะสมจริงๆเท่านั้น ในภารกิจบนโลกแห่งความจริงย่อมคล้ายการทอยเต๋า ที่แม้เราจะเตรียมพร้อมมาอย่างดีแค่ไหนแต่ก็เอาแน่เอานอนกับสภาพดินฟ้าอากาศหรือโชคชะตาไม่ค่อยจะได้ บางครั้งสถานการณ์ก็บังคับ ถึงกระนั้นก็ต้องดำเนินการตัดสินใจให้ดีที่สุดเท่าที่สภาพดินฟ้าอากาศจะอำนวย ใช้ทุกสิ่งที่มี ความน่าจะเป็นต่างๆ และปรับตัวตามสภาพที่พบเจอซึ่งไม่อาจกำหนดได้
โชคชะตาจะโยนอะไรมาให้ในอีกนาทีถัดไป? ใครจะไปรู้ล่ะ ก็นี่แหละชีวิตไม่ใช่หรอ?
เอาเถอะ ถึงที่สุดแล้วใครจะว่ายังไรก็ช่าง เมื่อทำดีที่สุดแล้วก็คือทำดีที่สุดแล้ว ชะตาแต่ละคนไม่เหมือนกัน ขอให้ทำสุดฝีมือก็แล้วกัน

บางท่านอาจมองว่า "เกมที่ใช้ลูกเต๋ามันไม่ได้เป็นเรื่องของฝีมือเพียวๆ" ซึ่งก็เป็นความจริงตามนั้น เนื่องจากมีดวงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ก็บอกไม่ได้ว่าในชีวิตจริงของชัยชนะนั้นเป็นเรื่องของฝีมือล้วนๆ เพราะในชีวิตจริงมีความเป็นไปต่างๆที่เราไม่อาจกำหนดได้อยู่มากมาย อาจจะเรียกได้ว่าเรื่องราวในโลกนี้เป็นเรื่องของดวง+ฝีมือก็ได้ และบางครั้งคนที่ดวงดีกว่าก็อาจจะชนะคนที่มีฝีมือมากกว่าก็ได้ จะว่าไป ดวงดี ก็อาจนับเป็นความสามารถเฉพาะตัวที่เลียนแบบกันไม่ได้ เหมือนนักบาสที่เกิดมาสูงเตี้ยแตกต่างกัน ความได้เปรียบเสียเปรียบก็ย่อมต่างกันไปแม้จะฝึกมาเท่ากัน
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีโชคหรือไม่ ในชีวิตคนเราก็ทำได้เพียงทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้นั่นแหละครับ เพราะนั่นเป็นสิ่งเดียวที่พอจะฝึกกันได้ แต่จะปฏิเสธส่วนที่เรียกว่าโชคชะตาว่ามันไม่เกี่ยวข้องไม่ได้ เพราะมันก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้เห็นได้ชัดเจนเช่นกัน เมื่อมองในภาพกว้างเช่นนี้จึงยังคงนับได้ว่าเกม Backgammon มีความใกล้เคียงกับโลกแห่งความเป็นจริงมากที่สุดเกมหนึ่ง


Backgammon มีความเป็นไปได้ของตำแหน่งหมากที่แตกต่างกันทั้งหมด 18,528,584,051,601,162,496 รูปแบบ ซึ่งยังไม่รวมถึงความเป็นไปได้ที่เกิดจากการทอยลูกเต๋า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น