Sponsor

11 มีนาคม 2562

Hunt the Wumpus – ล่าปิศาจวอมปัส


Hunt the Wumpus เป็นเกมผจญภัยสไตล์ Text-based คือเล่นแบบข้อความล้วนๆ! เพราะเป็นเกมเก่าตั้งแต่ 1973 นู่นเลย สร้างโดยนาย Gregory Yob (June 18, 1945 – October 13, 2005) ชาวอเมริกัน เกมนี้เป็นแนว Turn-based โดยเนื้อเรื่องคือ เรารับบทเป็นผู้กล้าเข้าไปในถ้ำ เพื่อสังหารเจ้า Wumpus ด้วยลูกศรพิเศษ โดยต้องหลีกเลี่ยงหลุมลึกสุดอันตราย และโคตรค้างคาวที่บินไปทั่ว เกมนี้เป็นเกมแรกๆที่ถูกจัดอยู่ในแนว Survival Horror กระทั่งในปี 2012 นิตยสาร Time ได้จัดให้อยู่ใน 100 เกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลอีกด้วย

ตอนนี้เราอยู่ห้องที่ 14 มีลูกศร 5 ดอก และมีอุโมงค์ไปถึงห้องที่ 6, 11 และ 17

ตัวเกมจะเป็นถ้ำวงกตที่มีห้องอยู่ 20 ห้อง แต่ละห้องจะมีอุโมงค์ 3 อุโมงค์ซึ่งเป็นทางเดินไปสู่อีกห้อง ซึ่งใน 20 ห้อง จะมี 3 ห้องเป็นหลุมไร้ก้นที่ลึกลงไปถึงแกนโลก ตกทีเดียวคือตาย! และมีโคตรค้างคาวอีก 3 ตัวที่บินไปบินมาตามห้องต่างๆ ถ้าเจอมันเข้า มันจะโฉบพาเราไปทิ้งไว้ในห้องใดห้องหนึ่งแบบสุ่ม แล้วถ้าเราเดินไปเจอเข้ากับเจ้า Wumpus หรือมันมาเจอเรา มันก็จะเขมือบเราทันที! แถมเจ้า Wompus จะเดินไปเดินมาได้ทุกห้องโดยไม่ตกหลุมไร้ก้นซะด้วย(ไต่บนเพดานได้สินะ?)

เริ่มต้น เราจะเริ่มในห้องใดห้องหนึ่ง ซึ่งตัวเกมจะบอก และให้ข้อมูลว่าห้องข้างเคียงมีอะไร เช่นว่า *rustle* (must be bats nearby) -ได้ยินเสียงค้างคาว หรือ *whoosh* (I feel a draft from some pits) -รู้สึกถึงหลุม หรือ *sniff* (I can smell the evil Wumpus nearby!) -ได้กลิ่นเจ้า Wumpus ข้อมูลเหล่านี้ก็จะบอกให้เรารู้ว่า 3 ห้องข้างๆมีอะไร แต่ไม่รู้แน่ว่าห้องไหน

แนวคิดในการเล่นเบื้องต้น คือ ให้ลองเข้าไปก่อนห้องนึง แล้วดูข้อมูล ถ้ามีข้อมูลว่าจะเจอหลุม ให้กลับมาห้องเดิม แล้วเข้าไปอีกห้อง ทีนี้เราจะรู้แล้วว่าห้องไหนปลอดภัยบ้าง(ตอนเริ่มเกมต้องลองเสี่ยงก่อนเพราะไม่รู้อะไรเลย) ไปๆกลับๆทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วเลื่อนขึ้นไปดูห้องที่เคยเข้า ว่าห้องไหนปลอดภัย แล้วมันจะมีบางห้องที่เราไม่เคยเข้าเลย แต่เมื่ออยู่ข้างห้องจะมีข้อมูลบอกว่า รู้สึกถึงหลุม ทุกครั้งไป เราก็จะสรุปได้เลยว่าห้องนั้นเป็นหลุมแน่นอน(เพราะห้องรอบๆเคยเข้าหมดแล้ว) ซึ่งหลุมจะตายตัว ห้องไหนห้องนั้น ค่อยๆสำรวจจนครบ แต่ค้างคาว และ Wumpus จะเคลื่อนที่ได้ จึงอาจอยู่ห้องใดห้องหนึ่ง อาจจะย้ายห้องหรือยังอยู่ห้องเดิมก็ได้

เกมแรกที่เรายิงเจ้า Wumpus ได้ ตอนมันอยู่ห้องหลุม เพราะเราเดินเข้า 2 ห้องข้างเคียงแล้วไม่เจออะไร มีแต่ห้องหลุมนี่แหละ แถมได้กลิ่น Wumpus ก็พอสรุปได้ว่ามันอาจอยู่ห้องนั้นในตานั้นนั่นเอง แล้วก็ยิงโดนด้วย ดอกเดียวสิ้นชื่อ Wumpus ในตำนาน

เหลือธนูเพียงดอกเดียว แล้วยิงโดยด้วย!

คำสั่งในการเล่นนั้นง่ายมาก มีแค่ 2 คำสั่ง คือ m และ s โดย m คือ Move เดินไปห้องอีกห้อง โดยพิมพ์ m ตามด้วยเลขห้อง เช่น m1 คือ เข้าไปห้อง 1 และ s คือ Shoot ยิงธนู โดยพิมพ์ s แล้วตามด้วยเลขห้อง เช่น s1 คือ ยิงไปห้อง 1

เกมนี้มีหลายเวอร์ชั่นครับ แต่ละเวอร์ชั่นจะมีอุปสรรค์มากน้อยแตกต่างกันไป เวอร์ชั่นที่ผมเล่นเป็นของ BSD Games รุ่นคลาสสิคเก่าแก่(เปิด Terminal พิมพ์ wump เพื่อเข้าเกม) ปัจจุบันนี้ก็มีเวอร์ชั่นบนมือถือ ลองค้นหาคำว่า hunt the wumpus ก็จะมีให้เลือกหลายเจ้าเลย ลองหามาเล่นกันดูครับ คงจะถูกใจสายเกม Adventure/Puzzle/Quiz แน่นอน แล้วจะรู้ว่าทำไมเกมนี้ถึงเป็นตำนาน ;)
และหวังว่าบทความนี้คงจะเป็นแนวการเล่นเบื้องต้นให้กับมือใหม่ได้บ้างนะครับ

บทความนี้เท่านี้ก่อนครับ
ไว้เจอกันใหม่
สวัสดีครับ

แถม
มาดูคลิปการเล่นเวอร์ชั่นต่างๆกันครับ




เพิ่มเติม
https://en.wikipedia.org/wiki/Hunt_the_Wumpus

05 มีนาคม 2562

SimTower ทิวทัศน์อันคุ้ยเคย

SimTower on Linux Mint 19.1

SimTower เกม 16-bit ที่โด่งดังมากในสมัยก่อนครับ ภาพอาจจะไม่สวยงามมากนัก(แต่ก็สวยนะเอาจริงๆ) แต่เกมเก่าเก๋าที่ระบบการเล่นครับ ขึ้นชื่อว่าเป็นตระกูล Sim ของ Maxis ระบบเกมละเอียดมาก จำลองเรื่องสภาพแวดล้อมต่างๆได้ดีมากๆ จนขึ้นหิ้งคลาสสิคแทบทุกเกมเลยครับ และหลายเกมก็ซับซ้อนเอามากๆด้วย แต่เกมนี้เป็นเกมที่เริ่มเล่นได้ง่ายที่สุด แต่การจะลุถึงชั้นที่หนึ่งร้อยนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่กระนั้น ชั้นที่ร้อยก็เริ่มต้นที่ชั้นแรก งั้นเรามาระลึกความหลังกับเกมในตำนานกันครับ
🐧🍷

มียูทูปเปอร์ท่านหนึ่งได้ทำคลิปแนะนำการเล่นเอาไว้ มาดูไปด้วยกันเลยครับ

แถม
SimTower on Windows 3.11 in DosBox on Linux Mint 19.1
ในการเล่นบน Linux สำหรับ SimTower ver 1.0 ถ้าเล่นบน Wine จะมีปัญหาเซฟไม่ได้และไม่มีเสียง จึงต้องติดตั้ง patch เป็น SimTower ver 1.1b ก่อน ซึ่งทำยากมากครับ ดังนั้นควรเล่นบน Windows 3.11 ที่ติดตั้งลงใน DosBox จะทำงานได้สมบูรณ์ที่สุดครับ(วิธีนี้ใช้ได้ทุก OS) ซึ่ง Win 3.11 นั้นต้องติดตั้งไดร์เว่อร์การ์ดจอ S3 Video และการ์ดเสียง Sound Blaster 16 ด้วย เพื่อให้ได้ภาพและเสียงที่ดีที่สุด(ไม่ติดตั้งก็เล่นได้ครับ แต่ภาพจะแย่และไม่มีเสียง) โดยวิธีการติดตั้งก็ทำตามนี้ How to Install Windows 3.1 in DOSBox, Set Up Drivers, and Play 16-bit Games ได้เลยครับ
ด้วยวิธีนี้ เราก็สามารถเล่นเกมเก่าได้อย่างสมบูรณ์แบบแทบทุกเกมส์ที่เอามาเล่นแล้วล่ะครับ แม้จะต้องใช้กำลังภายในสักหน่อยนึง แต่คุ้มค่าแน่นอน