Sponsor

19 มิถุนายน 2568

แรงงาน จักรกล และโลกที่เปลี่ยนไป


บทความโดย กนกเกียรติ หริรักษ์หรรษา

วันนี้เราจะมาเจาะลึกแนวคิดสุดคลาสสิก แต่ยังคงร่วมสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นคือเรื่อง #การขูดรีดแรงงาน ในมุมมองของคาร์ล มาร์กซ์ หลายคนอาจจะคิดว่าเรื่องนี้เป็นของเก่าไปแล้ว แต่เชื่อไหมครับว่าในยุคที่เทคโนโลยีกำลังก้าวล้ำอย่างก้าวกระโดด ทั้ง AI และจักรกลกำลังจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้นเรื่อยๆ แนวคิดของมาร์กซ์กลับมีบางอย่างที่ผมเห็นว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง แล้วมันเกี่ยวข้องกันยังไง? และโลกในอนาคตที่เราไม่ต้องทำงานเลย อาจจะไม่ใช่แค่ความฝันลมๆแล้งๆอีกต่อไปแล้วรึเปล่า? วันนี้เราจะมาคุยกันครับว่าทำไม

#ความแตกต่างของการขูดรีดกับการค้าขาย
การขูดรีดในแนวคิดของมาร์กซ์ไม่เหมือนกับการค้าขาย การค้าขายเป็นการทำกำไรจากสินค้าอันมีมูลค่าแลกเปลี่ยนที่เหมาะสมอยู่ ซึ่งเป็นวิธีที่ทำกันมาเป็นปกติ แต่การขูดรีดเป็นการทำกำไรจากการกดขี่แรงงาน เช่น การกดค่าแรงให้ต่ำสุดขีด แรงงานจะมีกินข้าวหรือไม่มีกินข้าวก็ไม่เกี่ยว หรืออาจจะไม่ให้ค่าแรงเลยก็ได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรแรงงานก็ต้องมาทำงานให้ได้ในปริมาณงานที่เท่าเดิมหรือมากกว่าเดิม การขูดรีดจึงจำเป็นต้องใช้แรงงานมนุษย์ ไม่สามารถใช้จักรกลได้ เพราะจักรกลนั้นหากไม่จ่ายไฟหรือไม่เติมน้ำมันให้กับเครื่องจักร ก็บังคับให้มันทำงานให้ไม่ได้ แต่การใช้มนุษย์นั้นสามารถกดดันด้วยสภาพเศรษฐกิจและสังคมให้ยอมทำงานที่ไม่อยากทำและไม่เป็นธรรมได้

#ข้อจำกัดของจักรกลในการขูดรีด
ดังนั้น สำหรับจักรกลแล้วใส่พลังงานเข้าไปเท่าไหร่ก็ได้งานเท่านั้น แต่สำหรับมนุษย์สามารถขูดรีดได้มากกว่านั้น ด้วยมุมมองนี้ของมาร์กซ์จึงมองว่า หากต้องการร่ำรวยจากการขูดรีดแรงงานก็เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้จักรกลทั้งหมดในการผลิตงาน เพราะจักรกลขูดรีดไม่ได้

#อนาคตที่ไร้แรงงาน?
แต่หากผลิตงานโดยใช้จักรกลทั้งหมด ผู้คนก็จะไม่มีงานทำใช่มั้ย? น่าจะใช่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น การเมืองการปกครองจะต้องเปลี่ยนแปลงไป ประชาชนสามารถดำรงชีวิตโดยไม่ต้องทำงานแลกเงิน (ซึ่งเวลาว่างในแต่ละวันจะเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่เจ้าตัว) โดยรัฐต้องแจกเงินหรือคูปองให้ประชาชนใช้ จักรกลก็ผลิตสิ่งของให้ประชาชนมาเลือกจับจ่าย
แล้วพลังงานที่จะป้อนให้จักรกลล่ะ? ถ้าถึงยุคนั้นจริงๆ พลังงานและวัตถุดิบที่ป้อนให้กับจักรกลก็อาจจะมีจักรกลที่หาพลังงานหรือวัตถุดิบไว้ป้อนให้กับจักรกลเองในรูปแบบของพลังงานสะอาด จึงเป็นสังคมที่มีกินมีใช้ไม่หมดสิ้น นับว่าเป็นขั้นตอนหนึ่งเพื่อก้าวสู่อุดมคติของมาร์กซ์

#การปฏิวัติคอมมิวนิสต์และความเป็นจริง
ด้วยแนวคิดนี้ ในอดีต ทำให้เกิดการปฏิวัติคอมมิวนิสต์ขึ้น แรงงานทำการยึดโรงงาน ตั้งใจจะผลิตเองใช้เอง โดยคิดว่าจะทำให้เป็นจริงแบบนั้นได้ แต่น่าเสียดายที่ส่วนใหญ่กลายเป็นเผด็จการ และไม่อาจเป็นเช่นนั้นได้ แม้จะมีการผลิตแบบอุตสาหกรรมแล้วก็ตาม เนื่องจากเทคโนโลยีในตอนนั้นยังไม่พัฒนาพอ

#เครื่องพิมพ์ 3 มิติ จุดเปลี่ยนของแนวคิด
ถามว่ามันมีโอกาสเป็นไปได้จริงหรือไม่ ต้องบอกว่าการมาของเครื่องปริ้น 3 มิติทำให้แนวคิดนี้มีความเป็นไปได้มากขึ้น เพราะโรงงานในการผลิตสิ่งต่างๆเริ่มเข้ามาอยู่ในบ้านของแต่ละคนแล้ว จึงไม่ต้องขึ้นกับผู้นำในการจัดการโรงงาน (ซึ่งสุดท้ายผู้นำเหล่านั้นก็ทำเพื่อพวกพ้องตัวเองและเป็นเผด็จการในที่สุด) แต่อาจต้องรอให้เทคโนโลยีพัฒนาขึ้นกว่านี้อีกพอสมควร

#การขูดรีดในยุคเทคโนโลยี
กลับมาที่เรื่องการขูดรีดแรงงาน จากแนวคิดของมาร์กซ์ หากผู้มีอำนาจต้องการร่ำรวยจากการขูดรีดแรงงาน ก็จะไม่มีทางผลักดันให้การผลิตทุกภาพส่วนเป็นจักรกล 100% อย่างแน่นอน จักรกลจะเข้ามาก็เพียงเพื่อลดต้นทุนบางส่วนเท่านั้น แล้วส่วนที่เหลือก็ไปขูดรีดจากแรงงานเพิ่มเอา (เมื่อเทคโนโลยีใหม่ช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น แรงงานมักได้รับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นตามมา ซึ่งผลลัพธ์ก็แทบไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่)

ดังนั้น จากแนวคิดนี้ ในอนาคตอันใกล้ อย่างไรเสียประชาชนก็จะยังไม่ถูกจักรกลแย่งงาน เพียงแต่ต้องพัฒนาตัวเองให้ทำงานได้หลากหลายทักษะมากขึ้น โดยต้องมีความสามารถให้ได้เหมือน 2-3 คน+ ในคนคนเดียว และต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อที่จะรักษางานเอาไว้

#ทุนนิยมที่ปรับตัว สวัสดิการแรงงาน
แต่จะว่าไป แนวคิดของมาร์กซ์นี่ก็เก่ามากแล้ว ตอนนี้ทุนนิยมพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ หลายอย่างก็ผสมผสานข้อเรียกร้องของแรงงานเข้ามามากมาย ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการ สิทธิ์ในการลา วันหยุด เงินชดเชย เวลาทำงานวันละ 8 ช.ม. ฯลฯ ไม่ได้เน้นเอาแต่ขูดรีดโหดร้ายแบบยุคแรกอีกต่อไปแล้ว

#อนาคตอุดมคติที่อาจกลับมา
สุดท้ายนี้ ถ้าเครื่องปริ้น 3 มิติถูกพัฒนาให้ถูกลงและเข้าถึงได้ทุกบ้านในวันใด ไม่แน่ว่าแนวคิดในอุดมคตินี้ (ที่ทุกคนไม่ต้องทำงาน โดยเฉพาะงานที่ไม่อยากทำ และรัฐจะต้องเลี้ยงประชาชน) อาจจะถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง

แต่ใครล่ะ จะอยากให้มันเกิดขึ้นจริง...

18 มิถุนายน 2568

Emergency tent - เต็นท์ฉุกเฉิน ที่พักพิงยามจำเป็น

เต็นท์ฉุกเฉิน
ภาพจาก http://t.ly/JXlr7

ในการเอาตัวรอดในสถานการณ์ฉุกเฉิน (Survival) หนึ่งในสิ่งสำคัญ คือ ที่พักพิง (Shelter) ถ้าเป็นการ Bushcraft ก็อาจจะสร้างที่พักพิงขึ้นมาจากวัสดุธรรมชาติในป่ารอบตัว เพื่อดำรงชีพอยู่ในป่าต่อไป แต่ในกรณี Survival นั้น จะเน้นการเอาตัวรอดอย่างรวดเร็วเพื่อรอความช่วยเหลือต่อไป ทำให้อุปกรณ์ต่างๆต้องพร้อมสำหรับอย่างน้อย 3 วัน (72 ช.ม.)
ที่พักพิงจะเน้นไปการป้องกันร่างกายจากสภาพอากาศเพื่อช่วยรักษาพลังงานและอุณหภูมิแกนกลางของร่างกายให้คงที่ซึ่งสำคัญต่อชีวิต ไม่ว่าจะเป็นจากแดด ลม ฝน หมอก หรือน้ำค้าง หากมีเต็นท์มาตราฐานก็จะดีมาก แต่หากไม่มี การใช้เต็นท์ฉุกเฉิน (Emergency tent; Tube tent) ก็เป็นอีกตัวเลือกสำหรับการเอาตัวรอด
เต็นท์ฉุกเฉินมักจะเป็นวัสดุกันน้ำ บางเบาแต่ทนทาน มักจะใช้เชือกขึงระหว่างต้นไม้สองต้นแล้วหาอะไรมาขึงหรือทับไว้ที่มุม ตัวเต็นท์จะเป็นทรงท่อให้มุดเข้าไปนอน หรือหากไม่มีต้นไม้ให้ขึงเชือกก็อาจนำมาใช้เป็นถุงนอน ด้วยการซุกตัวเข้าไปเพื่อกันหนาวกันน้ำค้างได้ เต็นท์ฉุกเฉินพวกนี้สามารถพับเก็บและนำมาใช้ซ้ำได้จนกว่าจะขาด
เต็นท์ฉุกเฉินนับว่าเป็นอุปกรณ์อีกอย่างที่ควรมีติดไว้เผื่อใช้ในยามจำเป็น ใช้ได้ทั้งเป็นเต็นท์และเป็นถุงนอนเฉพาะกิจ

🛒เต็นท์ฉุกเฉินพร้อมเชือก https://s.shopee.co.th/8KdpTzhcoq, https://s.shopee.co.th/8KdpZDZfBS
🛒ผ้าห่มฉุกเฉิน, ผ้าห่มอวกาศ https://s.shopee.co.th/30cJDRbhJR
🛒เต็นท์ Mobi Garden https://s.shopee.co.th/1LU5lrfo3P






แถม
เต็นท์ฉุกเฉินส่วนใหญ่ไม่มีประตู แต่สามารถประยุกต์ปิดประตูได้ด้วยการ รวบขอบเต็นท์ทั้งสองด้านขยุ้มเข้ามาแล้วใช้เชือกหรือยางมัดเข้าด้วยกัน พื้นที่ข้างในอาจลดลงนิดหน่อย แต่ก็ช่วยปิดปากทางเต็นท์ได้ครับ
วัสดุของเต็นท์ฉุกเฉินนั้นมักจะเป็นวัสดุเดียวกันกับผ้าห่มฉุกเฉิน คือ เป็นวัสดุสังเคราะห์ที่กันอากาศเข้าออกเกือบจะ 100% ดังนั้น หากปิดสนิทเกินไปอาจทำให้ร้อนมากเกินไป (ยกเว้นในที่เย็น) หายใจไม่ออก และอาจเกิดความชื้นป็นหยดน้ำภายในได้ การมีช่องลมระบายอากาศบ้างจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

หนึ่งเสื้อกันฝนคือหนึ่งเต็นท์สำหรับหนึ่งคน

อุปกรณ์อีกอย่างที่น่าสนใจสำหรับชาว Bushcraft ซึ่งปกติเวลาจะทำที่พักก็มักจะใช้วัสดุธรรมชาติรอบตัว (สาย Hardcore) แต่หากประยุกต์จากของที่เตรียมไปด้วยก็จะสะดวกขึ้น นอกจากเต็นท์ฉุกเฉินแล้ว เสื้อกันฝนซึ่งควรจะนำไปด้วยอยู่แล้ว ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจที่จะนำมากางเพื่อทำเต็นท์ฉุกเฉินได้เช่นกัน หากของต่างประเทศมักจะเป็น Polish Lavvu ซึ่งเป็นเสื้อกันฝนทหารโปแลนด์ที่ออกแบบมาเพื่อประยุกต์เป็นที่พักในตัว แต่หายากในประเทศไทยและราคาแพงเพราะทำจากผ้าใบธรรมชาติ (แน่นอนว่าระบายอากาศดี) หากในไทยสามารถใช้เสื้อกันฝนค้างคาว (Poncho; แบบที่ไม่มีแขนเสื้อ) แทน ซึ่งควรมีขนาดที่กางเป็นแผ่นแล้วกว้างยาวประมาณ 140x200 cm+ หรือ 55"x78"+ ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งดี แต่ไซส์ส่วนใหญ่ในไทยจะประมาณนั้นบวกลบเล็กน้อย และควรมีตาไก่ที่มุมทั้งสี่เพื่อเอาไว้ปักหมุดหรือร้อยเชือกเพื่อขึงทรง (หากไม่มีตาไก่ก็อาจใช้หินหรือก้อนดินห่อด้วยมุมเสื้อฝนแล้วมัดเชือกขึงหรือทำห่วงสำหรับปักหมุดก็ได้) ยิ่งเบาก็พกพาสะดวก แน่นอนว่าควรเตรียมเชือกไปด้วยอย่างน้อย 5 m หรือไม่ก็หาไม้ค้ำเอา ส่วนหมุดก็ค่อยใช้กิ่งไม้แถวนั้น
การใช้เสื้อกันฝนประยุกต์เป็นเต็นท์นั้น ก็จะมีแค่หลังคาแต่ไม่มีแผ่นรองที่พื้นเหมือนเต็นท์ฉุกเฉิน และไม่มีประตู แต่ก็พอใช้เป็นที่พักฉุกเฉินกันแดดลมฝนน้ำค้างได้บ้าง และวางอุปกรณ์ไว้ภายในได้ หาก Bushcraft สองคน ใช้เสื้อกันฝนสองตัวมาต่อกันได้ก็จะเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้มากขึ้น
สำหรับคนที่ไม่อยากใช้ลายพรางทหาร แต่ก็ต้องการโทนสีที่กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมด้วย (แต่จะไม่เนียนเท่าลายพราง) ควรเลือกใช้ สีเขียวมะกอก สีแทน สีกากี สีน้ำตาล สีเทา สีเหล่านี้เป็นสีที่กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมทั่วไป ใช้สีใดก็ได้ แต่ว่าก็มีที่หลักๆของมันที่กลมกลืนเป็นพิเศษ เช่น
  • สีเขียวมะกอก อาจเข้าได้ดีเป็นพิเศษกับบริเวณพืชพรรณไม้เขียวชะอุ่ม
  • สีแทน สีกากี สีน้ำตาล อาจเข้าได้ดีเป็นพิเศษกับบริเวณหญ้าแห้ง ไม้แห้ง ดิน โคลน ทราย
  • สีเทา อาจเข้าได้ดีเป็นพิเศษกับบริเวณที่มีโขดหิน ดินทราย ใต้ร่มเงา เขตเมือง
แนวคิดของสีกลมกลืนนี้ก็สามารถใช้กับเครื่องแต่งกายได้ด้วยโดยไม่จำเป็นต้องใช้ลายพรางเสมอไป โดยเฉพาะสำรับพลเรือน หากต้องการแค่สีเดียวใช้หลากหลายก็แค่เลือกให้เหมาะกับบริเวณที่ใช้บ่อยเป็นหลักก็พอ เพราะสีเหล่านี้เข้ากับทุกสภาพแวดล้อมอยู่แล้วครับ

เสื้อกันฝนค้างคาวยังอาจใช้เป็นที่ดักน้ำฝนได้ โดยผูกเสื้อกันฝนให้หงายขึ้น และให้ส่วนหัวอยู่ตรงถังน้ำ เมื่อฝนตกเสื้อกันฝนก็จะทำหน้าที่เหมือนเป็นกรวยยักษ์พาน้ำไหลเข้าถังได้อย่างสะดวกนั่นเอง






ตรีเอกานุภาพศักดิ์สิทธิ์แห่งการดำรงชีพในป่า - อุปกรณ์ 3 อย่างที่จำเป็นสำหรับการ Bushcraft


คนสมัยก่อนบอกกันว่า ในการเข้าป่าต้องพกมีดไปด้วยจึงจะอยู่ป่าได้สะดวก เพราะมีดเป็นเครื่องมือที่จะใช้สร้างอะไรต่างๆจากวัสดุธรรมชาติได้หลายๆอย่าง แต่หากต้องการความพร้อมที่มากขึ้นอาจต้องพกสิ่งที่เรียกกันว่า The holy trinity (ตรีเอกานุภาพศักดิ์สิทธิ์) คือ มีด, พร้า (หรือขวาน), และเลื่อย ซึ่งอุปกรณ์สำหรับการเดินป่า Bushcraft โดยเรียงตามลำดับความสำคัญ

1. มีด
มีดพกใบตายขนาดเล็ก-กลาง (ความยาวใบมีด ~3.5-5.5 นิ้ว หรือ มาตราฐานอยู่ที่ 4 นิ้ว หรือประมาณความกว้างฝ่ามือ) ถือเป็นหัวใจของเครื่องมือ Bushcraft เลยก็ว่าได้ครับ หากพกอุปกรณ์ได้เพียงชิ้นเดียว มีดคือสิ่งที่ต้องมี ด้วยความอเนกประสงค์ของมันไม่ว่าจะเป็น
  • ตัดกิ่งไม้ทั่วๆไป
  • เหลาไม้ หรือแกะสลัก สำหรับทำของใช้จากวัสดุธรรมชาติ เช่น ช้อนไม้ ถ้วยชาม อาวุธ กับดัก แท่งไม้จุดไฟ เชื้อฟืน ฯลฯ ซ่อมแซมอุปกรณ์
  • เตรียมอาหาร แล่เนื้อ หั่นผักผลไม้ เปิดถุงขนม!
  • การปฐมพยาบาลเบื้องต้น (เช่น ตัดเทปพันแผล)
  • การป้องกันตัว (ในกรณีฉุกเฉิน)
https://s.shopee.co.th/8AK9xKK0pl
https://s.shopee.co.th/5pwEPHTUvp
https://s.shopee.co.th/708BnzWVL1
https://s.shopee.co.th/7phMqjYKMU

2. พร้า (หรือขวาน)
มีดพร้า มีดใหญ่ (ความยาวใบมีด ~8-12 นิ้ว หรือมาตราฐานที่ 12 นิ้ว) (หากเป็นขวานมักจะเลือกด้ามที่ยาวประมาณช่วงปลายนิ้วมือถึงหัวไหล่จะเป็นระยะที่ดีที่สุด) พร้าเหมาะสำหรับแถบป่ารกอย่างประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งป่าในเขตร้อนมักมีพืชพรรณหนาแน่น พร้าจึงเป็นเครื่องมือที่เข้ามาเติมเต็มสิ่งที่มีดพกทำได้ยากหรือไม่เหมาะสม โดยเฉพาะงานที่ต้องการแรงกระแทกหรือการตัดไม้ขนาดใหญ่ขึ้น เป็นเครื่องมือพื้นฐานการเกษตรในแถบนี้อยู่แล้ว
  • การบุกเบิกทาง ตัดฟันพงหญ้า เถาวัลย์ หรือกิ่งไม้ที่เกะกะ
  • การเตรียมพื้นที่ แผ้วถางบริเวณสำหรับตั้งแคมป์หรือสร้างที่พักพิง
  • สับไม้ฟืน ผ่าไม้ สำหรับก่อกองไฟ
  • โค่นต้นไม้ขนาดเล็ก-กลาง เพื่อสร้างที่พัก เตรียมไม้สำหรับสร้างโครงสร้าง เช่น เสา คาน
พร้าโดยทั่วไปมีน้ำหนักเบากว่าขวาน ทำให้พกพาและใช้งานได้สะดวก

Pollo M212 18" https://s.shopee.co.th/8fGCoNxjvn
BUCK MB-421 สแตนเลส https://s.shopee.co.th/40UZdDz4sN
PUMPKIN ขวานด้ามไม้ https://s.shopee.co.th/6fVKmktq2M

3. เลื่อย
เลื่อยมีบทบาทสำคัญในการตัดไม้ให้ได้ขนาดและรวดเร็ว โดยเฉพาะการตัดไม้ที่ต้องการความแม่นยำ หรือไม่ต้องการให้เกิดการปริแตกจากการสับ
  • ตัดท่อนไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่ามีด
  • สร้างโครงสร้างที่พัก ที่ต้องการการตัดตรงและเนียน
  • ลดแรงและพลังงานในการตัดไม้ท่อนใหญ่เมื่อเทียบกับการใช้มีดฟัน และเลื่อยอาจเข้าถึงได้ในจุดที่ไม่มีระยะสำหรับการเงื้อฟันด้วยมีด
แนะนำว่าควรเป็นเลื่อยประเภท เลื่อยดึง (Pull saw) เป็นเลื่อยที่จะกินเนื้อไม้เมื่อดึงเข้า (ฟันเลื่อยเฉียงเข้าตัว) จะไม่มีปัญหาดันเลื่อยแล้วใบโก่งสะดุด เนื่องจากเมื่อดันเลื่อยจะลื่น เมื่อดึงเลื่อยจะกิน
ความยาวใบเลื่อยควรจะยาวเป็น 3 เท่า ของเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อนไม้ที่ต้องตัด เพื่อให้มีระยะในการเลื่อยที่เหมาะสม ส่วนใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลางจะประมาณ 3 นิ้วสำหรับท่อนไม้ที่ใหญ่หน่อยที่อาจจะต้องเลื่อยในการเดินป่า ใบเลื่อยจึงควรยาวประมาณ 9 นิ้วเป็นอย่างน้อย
การใช้ในป่า ฟันเลื่อยหยาบใช้เลื่อยไม้สด จะจัดการเศษไม้เหนียวๆได้ดี ฟันเลื่อยละเอียดใช้เลื่อยไม้แห้งเศษละเอียดหรือที่ต้องการความเนียนสูง

เลื่อยพับ https://s.shopee.co.th/BISTEO4A5
เลื่อยญี่ปุ่น 2 คม 9.3 นิ้ว https://s.shopee.co.th/9UpW8ykJrE

หากพกไปทั้งสามอย่างนี้ก็จะสะดวก เนื่องจากแต่ละเครื่องมือได้แบ่งงานกันเป็นที่เรียบร้อย แต่หากไม่สามารถมีครบได้ ขอให้มีดพกสักเล่มไว้ก่อน ในกรณีใช้มีดเล่มเดียวทำทุกอย่าง ความหนาของใบมีดจะมีความสำคัญมากขึ้น ควรเป็นใบมีดที่หนาอย่างน้อย 2.5-5 ม.ม. หรือโดยเฉลี่ยประมาณ 3 ม.ม. กำลังดี น้ำหนักก็ไม่มากเกินไป หากใช้มีดสันบางควรมีมีดพร้าไปด้วยเพื่อช่วยในงานหนัก หากมีแต่มีดสันบาง (เช่น มีดทำครัว) แต่จำเป็นต้องลุยงานหนักจริงๆ ก็ต้องเรียนรู้การทำลิ่มจากวัสดุรอบตัวเพื่อใช้ตอกผ่าไม้หากจำเป็น
แต่ทั้งหมดทั้งมวล การมีอุปกรณ์ที่พร้อมและเหมาะสมกว่าย่อมสะดวกกว่าครับ

อุปกรณ์อื่นๆ เช่น
มีดพับ https://s.shopee.co.th/7KlSbxUA0v
หินลับมีด (สำหรับคืนคมภาคสนามใช้เบอร์ 800) https://s.shopee.co.th/5VJNsbd9YA
หม้อสนาม https://s.shopee.co.th/8KdZG8KDe3
กระติกน้ำหม้อสนาม https://s.shopee.co.th/AUi3qWjau8
ดั๊กท์เทป (เทปผ้า) https://s.shopee.co.th/4Ao0ObaZU1
ชุดปฐมพยาบาล https://s.shopee.co.th/5AgXar0XQb
น้ำมันเบบี้ออยล์ (สำหรับทากันสนิมอย่างปลอดภัยต่อการสัมผัส) https://s.shopee.co.th/3VYJVwGmTy
แท่งจุดไฟ https://s.shopee.co.th/yRQAs1AY
เตาพกพา https://s.shopee.co.th/yRRBFIjw
เสื้อกันฝนค้างคาง https://s.shopee.co.th/5VJoQ3xCVw
ตะเกียง https://s.shopee.co.th/30c30KV2rX, https://s.shopee.co.th/3LEwEs5m1M
เต็นท์ https://s.shopee.co.th/8fH0grHuPH
และ ฯลฯ

ก็เป็นอุปกรณ์เพิ่มเติมนอกเหนือจากอุปกรณ์หลัก ซึ่งก็นับว่าจำเป็นอยู่เหมือนกันโดยเฉพาะสำหรับคนเมืองอย่างเราที่จะเข้าป่าพักแรม จึงเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมตามความจำเป็นต่อไป

พกพาความรู้ให้มากกว่าอุปกรณ์

15 มิถุนายน 2568

Zombie Dice - เกมซอมบี้ล่าเหยื่อ

https://s.shopee.co.th/7KlF7fVYtl

Zombie Dice - เกมซอมบี้ล่าเหยื่อ เกมนี้เป็นเกมทอยเต๋าที่ประยุกต์มาจากเกม Zombie Dice โดยให้เราเล่นเป็นซอมบี้ล่าเหยื่อ ใครที่จับเหยื่อได้มากที่สุดคนนั้นชนะ (หรือจะจินตนาการเป็นการล่า ต่อสู้ หรือสงคราม ก็แล้วแต่จะจินตนาการได้เลยครับ) ใช้เพียงลูกเต๋า 13 ลูก (สามสี) เป็นเกมง่ายๆ เล่นสั้นๆ เล่นได้ทั้งครอบครัว

อุปกรณ์
  • ผู้เล่น 2 คนขึ้นไป
  • กระดาษและดินสอ (ไว้จดแต้ม)
  • ถุงหรือถ้วยใส่ลูกเต๋า
  • ลูกเต๋า 13 ลูก โดยแบ่งเป็น สีเขียว, เหลือ, แดง
    • ลูกเต๋าสีเขียว (เหยื่ออ่อนแอ) 6 ลูก
      • 4, 5, 6 = จับเหยื่อสำเร็จ
      • 2, 3 = เหยื่อวิ่งหนีไป
      • 1 = โดนยิงได้รับบาดเจ็บ
    • ลูกเต๋าสีเหลือง (เหยื่อทั่วไป) 4 ลูก
      • 5, 6 = จับเหยื่อสำเร็จ
      • 3, 4 = เหยื่อวิ่งหนีไป
      • 1, 2 = โดนยิงได้รับบาดเจ็บ
    • ลูกเต๋าแดง (เหยื่อแข็งแรง) 3 ลูก
      • 6 = จับเหยื่อสำเร็จ
      • 4, 5  = เหยื่อวิ่งหนีไป
      • 1, 2, 3 = โดนยิงได้รับบาดเจ็บ
การเล่น
ในตาของคุณ ให้สุ่มหยิบลูกเต๋าออกมาจากถุง 3 ลูก แล้วทอย ซึ่งแต่ละสีจะเป็นเหยื่อที่คุณบังเอิญเจอ

ถ้าได้ จับเหยื่อฯ ให้วางเต๋านั้นไว้ทางซ้าย
ถ้าได้ เหยื่อหนีฯ  ให้วางเต๋านั้นไว้ตรงกลาง
ถ้าได้ โดนยิงฯ ให้วางเต๋านั้นไว้ทางขวา (ถ้าทอยได้ โดนยิงฯ 3 ลูก จบเทิร์นทันที และได้ 0 แต้ม)

ทอยเสร็จให้เลือกว่าจะจบเทิร์นเพื่อจดแต้ม หรือ เล่นต่อ
  • ถ้าเลือกจบเทิร์น ก็นับว่า จับเหยื่อฯ ได้กี่คน แล้วรวมแต้มจดไว้ (เหยื่อหนึ่งคนต่อ 1 แต้ม) แล้วคืนเต๋าเข้าถุงทั้งหมด ให้คนต่อไปเล่น
  • ถ้าเลือกเล่นต่อ ให้หยิบเต๋าที่ทอยได้ เหยื่อหนีฯ (ที่วางไว้ตรงกลางเมื่อกี้) และสุ่มหยิบเต๋าจากถุงมาเพิ่มอีกให้ครบ 3 ลูก แล้วทอย เพื่อล่าใหม่ ได้แต้มอย่างไรก็จัดเรียงสะสมเต๋าเหมือนข้างต้น (วางซ้าย กลาง ขวา)
ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนว่าจะเลือกจบเทิร์นเพื่อจดแต้ม หรือได้เต๋าโดนยิงฯ ครบ 3 ลูก ซึ่งจะจบเทิร์นทันที และเทิร์นนั้นจะได้ 0 แต้ม เนื่องจากโดนยิงจนบาดเจ็บหนัก เหยื่อที่จับได้จึงหนีหายไปหมด แล้วคืนเต๋าเข้าถุงทั้งหมด ให้คนต่อไปเล่น

เมื่อมีคนแรกที่ จับเหยื่อฯ ได้ตั้งแต่ 13 คนหรือมากกว่า จะถึงว่าเทิร์นนั้นเป็นสุดท้าย คนอื่นๆก็จะได้อีกคนละ 1 เทิร์น เมื่อจบเทิร์นของคนสุดท้าย ให้เทียบแต้มว่าใครที่ จับเหยื่อฯ ได้มากที่สุด ก็จะเป็นผู้ชนะ

ระวังให้ดี
หากโดนยิงแล้วหนึ่งนัด
การเลือกเล่นอีกตา
อาจทำให้สูญเสียทุกสิ่งที่จับมาได้ในเทิร์นนั้นก็เป็นได้

การเล่นแบบประยุกต์ใช้นี้เป็นกรณีที่ต้องการเล่นแก้ขัดกับเต๋าที่มีอยู่ไปพลางๆ หากต้องการเล่นได้ให้อรรถรสมากขึ้นควรใช้ชุดเต๋า Zombie Dice ย่อมจะเล่นได้สะดวกขึ้นและได้อรรถรสมากขึ้นอย่างแน่นอน

🛒ลูกเต๋าอะครีลิค https://s.shopee.co.th/5AdiOkhO2T

มาลองดูวิธีการเล่นแบบคลิปกันครับ (ภาษาอังกฤษ)

อ้างอิง
https://www.sjgames.com/dice/zombiedice/img/ZDRules_English.pdf