Sponsor

18 มิถุนายน 2568

Emergency tent - เต็นท์ฉุกเฉิน ที่พักพิงยามจำเป็น

เต็นท์ฉุกเฉิน
ภาพจาก http://t.ly/JXlr7

ในการเอาตัวรอดในสถานการณ์ฉุกเฉิน (Survival) หนึ่งในสิ่งสำคัญ คือ ที่พักพิง (Shelter) ถ้าเป็นการ Bushcraft ก็อาจจะสร้างที่พักพิงขึ้นมาจากวัสดุธรรมชาติในป่ารอบตัว เพื่อดำรงชีพอยู่ในป่าต่อไป แต่ในกรณี Survival นั้น จะเน้นการเอาตัวรอดเพื่อรอความช่วยเหลือต่อไป ทำให้อุปกรณ์ต่างๆต้องพร้อมสำหรับอย่างน้อย 3 วัน (72 ช.ม.)
ที่พักพิงจะเน้นไปการป้องกันร่างกายจากสภาพอากาศเพื่อช่วยรักษาพลังงานและอุณหภูมิแกนกลางของร่างกายให้คงที่ซึ่งสำคัญต่อชีวิต ไม่ว่าจะเป็นจากแดด ลม ฝน หมอก หรือน้ำค้าง หากมีเต็นท์มาตราฐานก็จะดีมาก แต่หากไม่มี การใช้เต็นท์ฉุกเฉิน (Emergency tent; Tube tent) ก็เป็นอีกตัวเลือกสำหรับการเอาตัวรอด
เต็นท์ฉุกเฉินมักจะเป็นวัสดุกันน้ำ บางเบาแต่ทนทาน มักจะใช้เชือกขึงระหว่างต้นไม้สองต้นแล้วหาอะไรมาขึงหรือทับไว้ที่มุม ตัวเต็นท์จะเป็นทรงท่อให้มุดเข้าไปนอน หรือหากไม่มีต้นไม้ให้ขึงเชือกก็อาจนำมาใช้เป็นถุงนอน ด้วยการซุกตัวเข้าไปเพื่อกันหนาวกันน้ำค้างได้ เต็นท์ฉุกเฉินพวกนี้สามารถพับเก็บและนำมาใช้ซ้ำได้จนกว่าจะขาด
เต็นท์ฉุกเฉินนับว่าเป็นอุปกรณ์อีกอย่างที่ควรมีติดไว้เผื่อใช้ในยามจำเป็น ใช้ได้ทั้งเป็นเต็นท์และเป็นถุงนอนเฉพาะกิจ

🛒เต็นท์ฉุกเฉินพร้อมเชือก https://s.shopee.co.th/8KdpTzhcoq, https://s.shopee.co.th/8KdpZDZfBS
🛒ผ้าห่มฉุกเฉิน, ผ้าห่มอวกาศ https://s.shopee.co.th/30cJDRbhJR
🛒เต็นท์ Mobi Garden https://s.shopee.co.th/1LU5lrfo3P






แถม
เต็นท์ฉุกเฉินส่วนใหญ่ไม่มีประตู แต่สามารถประยุกต์ปิดประตูได้ด้วยการ รวบขอบเต็นท์ทั้งสองด้านขยุ้มเข้ามาแล้วใช้เชือกหรือยางมัดเข้าด้วยกัน พื้นที่ข้างในอาจลดลงนิดหน่อย แต่ก็ช่วยปิดปากทางเต็นท์ได้ครับ

ตรีเอกานุภาพศักดิ์สิทธิ์แห่งการดำรงชีพในป่า - อุปกรณ์ 3 อย่างที่จำเป็นสำหรับการ Bushcraft


อุปกรณ์สำหรับการเดินป่า Bushcraft ที่เรียกกันว่า The holy trinity (ตรีเอกานุภาพศักดิ์สิทธิ์) คือ มีด, พร้า (หรือขวาน), และเลื่อย โดยเรียงตามลำดับความสำคัญ

1. มีด
มีดพกใบตายขนาดเล็ก-กลาง (ความยาวใบมีด ~3.5-5.5 นิ้ว หรือ มาตราฐานอยู่ที่ 4 นิ้ว หรือประมาณความกว้างฝ่ามือ) ถือเป็นหัวใจของเครื่องมือ Bushcraft เลยก็ว่าได้ครับ หากพกอุปกรณ์ได้เพียงชิ้นเดียว มีดคือสิ่งที่ต้องมี ด้วยความอเนกประสงค์ของมันไม่ว่าจะเป็น
  • ตัดกิ่งไม้ทั่วๆไป
  • เหลาไม้ หรือแกะสลัก สำหรับทำของใช้จากวัสดุธรรมชาติ เช่น ช้อนไม้ ถ้วยชาม อาวุธ กับดัก แท่งไม้จุดไฟ เชื้อฟืน ฯลฯ ซ่อมแซมอุปกรณ์
  • เตรียมอาหาร แล่เนื้อ หั่นผักผลไม้ เปิดถุงขนม!
  • การปฐมพยาบาลเบื้องต้น (เช่น ตัดเทปพันแผล)
  • การป้องกันตัว (ในกรณีฉุกเฉิน)
https://s.shopee.co.th/8AK9xKK0pl
https://s.shopee.co.th/5pwEPHTUvp
https://s.shopee.co.th/708BnzWVL1
https://s.shopee.co.th/7phMqjYKMU

2. พร้า (หรือขวาน)
มีดพร้า มีดใหญ่ (ความยาวใบมีด ~8-12 นิ้ว หรือมาตราฐานที่ 12 นิ้ว) (หากเป็นขวานมักจะเลือกด้ามที่ยาวประมาณช่วงปลายนิ้วมือถึงหัวไหล่จะเป็นระยะที่ดีที่สุด) พร้าเหมาะสำหรับแถบป่ารกอย่างประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งป่าในเขตร้อนมักมีพืชพรรณหนาแน่น พร้าจึงเป็นเครื่องมือที่เข้ามาเติมเต็มสิ่งที่มีดพกทำได้ยากหรือไม่เหมาะสม โดยเฉพาะงานที่ต้องการแรงกระแทกหรือการตัดไม้ขนาดใหญ่ขึ้น เป็นเครื่องมือพื้นฐานการเกษตรในแถบนี้อยู่แล้ว
  • การบุกเบิกทาง ตัดฟันพงหญ้า เถาวัลย์ หรือกิ่งไม้ที่เกะกะ
  • การเตรียมพื้นที่ แผ้วถางบริเวณสำหรับตั้งแคมป์หรือสร้างที่พักพิง
  • สับไม้ฟืน ผ่าไม้ สำหรับก่อกองไฟ
  • โค่นต้นไม้ขนาดเล็ก-กลาง เพื่อสร้างที่พัก เตรียมไม้สำหรับสร้างโครงสร้าง เช่น เสา คาน
พร้าโดยทั่วไปมีน้ำหนักเบากว่าขวาน ทำให้พกพาและใช้งานได้สะดวก

Pollo M212 18" https://s.shopee.co.th/8fGCoNxjvn
BUCK MB-421 สแตนเลส https://s.shopee.co.th/40UZdDz4sN
PUMPKIN ขวานด้ามไม้ https://s.shopee.co.th/6fVKmktq2M

3. เลื่อย
เลื่อยมีบทบาทสำคัญในการตัดไม้ให้ได้ขนาดและรวดเร็ว โดยเฉพาะการตัดไม้ที่ต้องการความแม่นยำ หรือไม่ต้องการให้เกิดการปริแตกจากการสับ
  • ตัดท่อนไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่ามีด
  • สร้างโครงสร้างที่พัก ที่ต้องการการตัดตรงและเนียน
  • ลดแรงและพลังงานในการตัดไม้ท่อนใหญ่เมื่อเทียบกับการใช้มีดฟัน และเลื่อยอาจเข้าถึงได้ในจุดที่ไม่มีระยะสำหรับการเงื้อฟันด้วยมีด
แนะนำว่าควรเป็นเลื่อยประเภท เลื่อยดึง (Pull saw) เป็นเลื่อยที่จะกินเนื้อไม้เมื่อดึงเข้า (ฟันเลื่อยเฉียงเข้าตัว) จะไม่มีปัญหาดันเลื่อยแล้วใบโก่งสะดุด เนื่องจากเมื่อดันเลื่อยจะลื่น เมื่อดึงเลื่อยจะกิน
ความยาวใบเลื่อยควรจะยาวเป็น 3 เท่า ของเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อนไม้ที่ต้องตัด เพื่อให้มีระยะในการเลื่อยที่เหมาะสม ส่วนใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลางจะประมาณ 3 นิ้วสำหรับท่อนไม้ที่ใหญ่หน่อยที่อาจจะต้องเลื่อยในการเดินป่า ใบเลื่อยจึงควรยาวประมาณ 9 นิ้วเป็นอย่างน้อย
การใช้ในป่า ฟันเลื่อยหยาบใช้เลื่อยไม้สด จะจัดการเศษไม้เหนียวๆได้ดี ฟันเลื่อยละเอียดใช้เลื่อยไม้แห้งเศษละเอียดหรือที่ต้องการความเนียนสูง

เลื่อยญี่ปุ่น 2 คม 9.3 นิ้ว https://s.shopee.co.th/9UpW8ykJrE

หากพกไปทั้งสามอย่างนี้ก็จะสะดวก เนื่องจากแต่ละเครื่องมือได้แบ่งงานกันเป็นที่เรียบร้อย แต่หากไม่สามารถมีครบได้ ขอให้มีดพกสักเล่มไว้ก่อน ในกรณีใช้มีดเล่มเดียวทำทุกอย่าง ความหนาของใบมีดจะมีความสำคัญมากขึ้น ควรเป็นใบมีดที่หนาอย่างน้อย 2.5-5 ม.ม. หรือโดยเฉลี่ยประมาณ 3 ม.ม. กำลังดี น้ำหนักก็ไม่มากเกินไป หากใช้มีดสันบางควรมีมีดพร้าไปด้วยเพื่อช่วยในงานหนัก หากมีแต่มีดสันบาง (เช่น มีดทำครัว) แต่จำเป็นต้องลุยงานหนักจริงๆ ก็ต้องเรียนรู้การทำลิ่มจากวัสดุรอบตัวเพื่อใช้ตอกผ่าไม้หากจำเป็น
แต่ทั้งหมดทั้งมวล การมีอุปกรณ์ที่พร้อมและเหมาะสมกว่าย่อมสะดวกกว่าครับ

อุปกรณ์อื่นๆ เช่น
หินลับมีด (สำหรับคืนคมภาคสนามใช้เบอร์ 800) https://s.shopee.co.th/5VJNsbd9YA
หม้อสนาม https://s.shopee.co.th/8KdZG8KDe3
กระติกน้ำสนาม https://s.shopee.co.th/AUi3qWjau8
ดั๊กท์เทป (เทปผ้า) https://s.shopee.co.th/4Ao0ObaZU1
ชุดปฐมพยาบาล https://s.shopee.co.th/5AgXar0XQb
น้ำมันเบบี้ออยล์ (สำหรับทากันสนิมอย่างปลอดภัยต่อการสัมผัส) https://s.shopee.co.th/3VYJVwGmTy
แท่งจุดไฟ https://s.shopee.co.th/yRQAs1AY
เตาพกพา https://s.shopee.co.th/yRRBFIjw
ตะเกียง https://s.shopee.co.th/30c30KV2rX, https://s.shopee.co.th/3LEwEs5m1M
และ ฯลฯ
ก็เป็นอุปกรณ์เพิ่มเติมนอกเหนือจากอุปกรณ์หลัก ซึ่งก็นับว่าจำเป็นอยู่เหมือนกันโดยเฉพาะสำหรับคนเมืองอย่างเราที่จะเข้าป่าพักแรม จึงเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมตามความจำเป็นต่อไป

พกพาความรู้ให้มากกว่าอุปกรณ์

15 มิถุนายน 2568

Zombie Dice - เกมซอมบี้ล่าเหยื่อ

https://s.shopee.co.th/7KlF7fVYtl

Zombie Dice - เกมซอมบี้ล่าเหยื่อ เกมนี้เป็นเกมทอยเต๋าที่ประยุกต์มาจากเกม Zombie Dice โดยให้เราเล่นเป็นซอมบี้ล่าเหยื่อ ใครที่จับเหยื่อได้มากที่สุดคนนั้นชนะ (หรือจะจินตนาการเป็นการล่า ต่อสู้ หรือสงคราม ก็แล้วแต่จะจินตนาการได้เลยครับ) ใช้เพียงลูกเต๋า 13 ลูก (สามสี) เป็นเกมง่ายๆ เล่นสั้นๆ เล่นได้ทั้งครอบครัว

อุปกรณ์
  • ผู้เล่น 2 คนขึ้นไป
  • กระดาษและดินสอ (ไว้จดแต้ม)
  • ถุงหรือถ้วยใส่ลูกเต๋า
  • ลูกเต๋า 13 ลูก โดยแบ่งเป็น สีเขียว, เหลือ, แดง
    • ลูกเต๋าสีเขียว (เหยื่ออ่อนแอ) 6 ลูก
      • 4, 5, 6 = จับเหยื่อสำเร็จ
      • 2, 3 = เหยื่อวิ่งหนีไป
      • 1 = โดนยิงได้รับบาดเจ็บ
    • ลูกเต๋าสีเหลือง (เหยื่อทั่วไป) 4 ลูก
      • 5, 6 = จับเหยื่อสำเร็จ
      • 3, 4 = เหยื่อวิ่งหนีไป
      • 1, 2 = โดนยิงได้รับบาดเจ็บ
    • ลูกเต๋าแดง (เหยื่อแข็งแรง) 3 ลูก
      • 6 = จับเหยื่อสำเร็จ
      • 4, 5  = เหยื่อวิ่งหนีไป
      • 1, 2, 3 = โดนยิงได้รับบาดเจ็บ
การเล่น
ในตาของคุณ ให้สุ่มหยิบลูกเต๋าออกมาจากถุง 3 ลูก แล้วทอย ซึ่งแต่ละสีจะเป็นเหยื่อที่คุณบังเอิญเจอ

ถ้าได้ จับเหยื่อฯ ให้วางเต๋านั้นไว้ทางซ้าย
ถ้าได้ เหยื่อหนีฯ  ให้วางเต๋านั้นไว้ตรงกลาง
ถ้าได้ โดนยิงฯ ให้วางเต๋านั้นไว้ทางขวา (ถ้าทอยได้ โดนยิงฯ 3 ลูก จบเทิร์นทันที และได้ 0 แต้ม)

ทอยเสร็จให้เลือกว่าจะจบเทิร์นเพื่อจดแต้ม หรือ เล่นต่อ
  • ถ้าเลือกจบเทิร์น ก็นับว่า จับเหยื่อฯ ได้กี่คน แล้วรวมแต้มจดไว้ (เหยื่อหนึ่งคนต่อ 1 แต้ม) แล้วคืนเต๋าเข้าถุงทั้งหมด ให้คนต่อไปเล่น
  • ถ้าเลือกเล่นต่อ ให้หยิบเต๋าที่ทอยได้ เหยื่อหนีฯ (ที่วางไว้ตรงกลางเมื่อกี้) และสุ่มหยิบเต๋าจากถุงมาเพิ่มอีกให้ครบ 3 ลูก แล้วทอย เพื่อล่าใหม่ ได้แต้มอย่างไรก็จัดเรียงสะสมเต๋าเหมือนข้างต้น (วางซ้าย กลาง ขวา)
ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนว่าจะเลือกจบเทิร์นเพื่อจดแต้ม หรือได้เต๋าโดนยิงฯ ครบ 3 ลูก ซึ่งจะจบเทิร์นทันที และเทิร์นนั้นจะได้ 0 แต้ม เนื่องจากโดนยิงจนบาดเจ็บหนัก เหยื่อที่จับได้จึงหนีหายไปหมด แล้วคืนเต๋าเข้าถุงทั้งหมด ให้คนต่อไปเล่น

เมื่อมีคนแรกที่ จับเหยื่อฯ ได้ตั้งแต่ 13 คนหรือมากกว่า จะถึงว่าเทิร์นนั้นเป็นสุดท้าย คนอื่นๆก็จะได้อีกคนละ 1 เทิร์น เมื่อจบเทิร์นของคนสุดท้าย ให้เทียบแต้มว่าใครที่ จับเหยื่อฯ ได้มากที่สุด ก็จะเป็นผู้ชนะ

ระวังให้ดี
หากโดนยิงแล้วหนึ่งนัด
การเลือกเล่นอีกตา
อาจทำให้สูญเสียทุกสิ่งที่จับมาได้ในเทิร์นนั้นก็เป็นได้

การเล่นแบบประยุกต์ใช้นี้เป็นกรณีที่ต้องการเล่นแก้ขัดกับเต๋าที่มีอยู่ไปพลางๆ หากต้องการเล่นได้ให้อรรถรสมากขึ้นควรใช้ชุดเต๋า Zombie Dice ย่อมจะเล่นได้สะดวกขึ้นและได้อรรถรสมากขึ้นอย่างแน่นอน

🛒ลูกเต๋าอะครีลิค https://s.shopee.co.th/5AdiOkhO2T

มาลองดูวิธีการเล่นแบบคลิปกันครับ (ภาษาอังกฤษ)

อ้างอิง
https://www.sjgames.com/dice/zombiedice/img/ZDRules_English.pdf

05 พฤษภาคม 2568

Facilish - เฟซิลิช ภาษาประดิษฐ์ที่มีแค่ 2 คำถ้วน

FACILISH
ภาษาที่เรียบง่ายที่สุด โดย แจ็ค ไอเซนมานน์ (Jack Eisenmann) ใครๆก็สามารถเชี่ยวชาญ Facilish ได้ภายใน 3 นาที! เพียงแค่อ่านคู่มือนี้

ไวยากรณ์
มีคำเพียงชนิดเดียว คือ คำคุณศัพท์ (adjective) ประโยคประกอบด้วยคำคุณศัพท์ และจบด้วยเครื่องหมายจุลภาค [,], จุด [.], เครื่องหมายคำถาม [?] หรือเครื่องหมายอัศเจรีย์ [!]

พจนานุกรม
+ : /i/ [ออกเสียว่า อี] เหมือนในคำว่า "bEEt" (adj) [แปลว่า] ดี; มีความสุข; เชิงบวก.
– : /u/ [ออกเสียงว่า อู] เหมือนในคำว่า "bOOt" (adj) [แปลว่า] แย่; ไม่มีความสุข; เชิงลบ.

ตัวอย่าง

+ –? +. + + +.
(ฉันรู้สึกอย่างไร? ฉันมีความสุข. ค่อนข้างมีความสุขมาก.)

+ + + – –. – – + + + + +!
(บางครั้งชีวิตก็มอบมะนาวให้คุณ. จงทำน้ำมะนาว!)

ขอแสดงความยินดีด้วย! ตอนนี้คุณพูดภาษา Facilish ได้คล่องแคล่วแล้ว ไปสอนเพื่อนและครอบครัวของคุณได้เลย!

หมายเหตุ
ยัติภังค์สั้น ("-") อาจพิมพ์ได้ง่ายกว่ายัติภังค์ยาว ("–") แต่ยัติภังค์ยาวมีความยาวใกล้เคียงกับเครื่องหมายบวกมากกว่า จึงดูสวยงามกว่า แต่ทั้งยัติภังค์สั้นและยัติภังค์ยาวสามารถใช้แทนคำเดียวกันนี้ได้

=======


ภาษาเฟซิลิชเป็นภาษาประดิษฐ์ที่เรียบง่ายอย่างสุดขั้ว เพราะมีคำเพียง 2 คำ คือ + กับ – เป็นเหมือนภาษาเลขฐาน 2 คือ 0 กับ 1 อาจเรียกได้ว่าเป็นภาษาหยินหยางก็ได้อยู่นะครับ

ด้วยข้อจำกัดของภาษาเฟซิลิชที่มีเพียงสองคำและเครื่องหมายวรรคตอน การสื่อสารจึงต้องอาศัย บริบท, จำนวนคำ, และ เครื่องหมายวรรคตอน เป็นหลัก ว่าแต่จะใช้ภาษาเฟซิลิชสื่อสารกันได้อย่างไรล่ะ? เมื่อได้มีเวลาทำความเข้าใจจากคู่มือภาษาฯ ก็พบแนวทางว่าจะใช้ภาษานี้สื่อสารกันได้ประมาณนี้ครับ มา เรามาลองคิดหาวิธีที่จะใช้ภาษาสองคำนี้ในการสื่อสารกันเถอะ

แสดงความรู้สึกหรือทัศนคติ
คำเดี่ยวๆ
+ = สื่อถึงความรู้สึกดี, เห็นด้วย, ใช่, โอเค, ชอบ, มีความสุข
– = สื่อถึงความรู้สึกไม่ดี, ไม่เห็นด้วย, ไม่, ไม่โอเค, ไม่ชอบ, ไม่มีความสุข

การใช้คำซ้ำๆสามารถเน้นความรู้สึกนั้นๆได้
+ + +. = มีความสุขมาก, ดีมาก
– – –. = แย่มากๆ, ไม่พอใจอย่างยิ่ง

ถามคำถาม
การใช้เครื่องหมายคำถาม ? ต่อท้ายคำหรือกลุ่มคำ จะเปลี่ยนจากความหมายเป็นการถาม
+? = ดีไหม?/โอเคไหม?/คุณมีความสุขไหม?
–? = ไม่ดีเหรอ?/ไม่โอเคใช่ไหม?/คุณไม่มีความสุขเหรอ?
+ +? = ดีมากๆเลยใช่ไหม?
+ –? = ดีหรือไม่ดี?/โอเคหรือไม่โอเค?/มีความสุขหรือไม่มีความสุข?/รู้สึกอย่างไรบ้าง?

แสดงความตกใจหรือความตื่นเต้น
การใช้เครื่องหมายอัศเจรีย์ ! จะแสดงถึงอารมณ์ที่เข้มข้น
+! = เยี่ยมไปเลย!/ดีจริง!
–! = แย่แล้ว!/ไม่นะ!

สร้างวลีหรือประโยคอย่างง่าย
การเรียงร้อยคำคุณศัพท์หลายๆคำเข้าด้วยกัน (อาจคั่นด้วยจุลภาค) อาจสื่อถึงความรู้สึกหรือสถานการณ์ที่ซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย แต่การตีความจะขึ้นอยู่กับบริบทอย่างมาก
++, –. = (อาจจะหมายถึง) เริ่มต้นดีๆอยู่ แล้วก็แย่ลง
– –, +! = (อาจจะหมายถึง) แย่มากๆ แต่สุดท้ายกลับดี!

อาศัยบริบทอย่างมาก
ภาษาเฟซิลิชจะพึ่งพาบริบทของการสนทนาอย่างมาก ผู้ฟังจะต้องพิจารณาถึงสถานการณ์, น้ำเสียง (ถ้าพูด), และภาษากายของผู้พูดเพื่อที่จะเข้าใจความหมายที่แท้จริง เช่น ถ้ามีคนพูด "+" หลังจากที่คุณเล่าเรื่องตลก อาจจะหมายถึง "ตลกดี" แต่ถ้าพูด "+" หลังจากที่คุณบอกข่าวดี อาจจะหมายถึง "ยินดีด้วย"

ข้อจำกัดและสิ่งที่ต้องพิจารณา
ด้วยคำศัพท์ที่จำกัด การสื่อสารมีแนวโน้มที่จะกำกวมและคลุมเครือสูงมาก การตีความอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
การถ่ายทอดความคิดที่ซับซ้อน, รายละเอียด, หรือเรื่องราวจะทำได้ยากหรือไม่ได้เลย
ถ้าต้องการใช้ภาษาเฟซิลิชจะต้องมีการ ตกลงหรือเข้าใจร่วมกันในระดับหนึ่ง ว่าการใช้คำและเครื่องหมายวรรคตอนในบริบทต่างๆจะหมายถึงอะไร เช่น อาจแบ่งช่วงคำเพื่อบอกความเป็นไปของอารมณ์ความรู้สึกในวันนั้น [ช่วงเช้า, ช่วงกลางวัน, ช่วงเย็นของวัน] เป็นต้น ก็อาจสื่อสั้นๆได้ถึงความรู้สึกในแต่ละช่วงของวัน เป็นต้น

คำศัพท์ที่ต้องรู้
+  + + +  + !
ผมคงไม่ต้องแปล เพราะผู้ที่ติดตามซีรี่ย์ภาษาประดิษฐ์ของเราน่าจะรู้อยู่แล้วว่าศัพท์ที่ต้องรู้คืออะไร อิอิ  

เฟซิลิชเป็นภาษาที่เน้นความเรียบง่ายสุดขั้ว การสื่อสารจึงเป็นไปในลักษณะของการแสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึกขั้นพื้นฐาน โดยอาศัยบริบทและเครื่องหมายวรรคตอนเป็นตัวช่วยในการสื่อความหมาย การสื่อสารที่ซับซ้อนหรือต้องการรายละเอียดอาจจะไม่สามารถทำได้ด้วยภาษานี้ มันจึงเหมือนเป็นภาษาเชิงทดลอง เหมาะสมกับการใช้แสดงความรู้สึกสั้นๆง่ายๆ มากกว่าที่จะเป็นภาษาที่ใช้ในการสื่อสารในชีวิตประจำวันอย่างจริงจัง
ลองนึกภาพว่าเหมือนกับการใช้แค่การแสดงสีหน้า 'ยิ้ม' กับ 'ขมวดคิ้ว' สำหรับการสื่อสารทั้งหมด สามารถใช้บอกความรู้สึกพื้นฐานได้ แต่การสนทนาที่ลึกซึ้งคงเป็นไปได้ยากนั่นเองครับ


แถม
ภาษาประดิษฐ์ที่ถูกใช้เพื่อสื่อสารกันจริงๆทั่วโลก ซึ่งได้รับความนิยมและน่าสนใจ