Sponsor

18 เมษายน 2554

Canon in D for Quartet Harmonica - เพลงแคนน่อนสำหรับวงฮาร์โมนิก้าสี่ชิ้น

สวัสดีครับห่างหายไปนานกับแบบฝึกหัดฮาร์โมนิก้า ถึงตอนนี้เพื่อนๆที่ติดตามอ่าน Harmonica for Beginner - วิธีเล่น ฮาร์โมนิก้า สำหรับผู้เริ่มต้น และบทความอื่นๆมาตลอด คงมีฝีมือในการเล่นตำแหน่งโน้ตและอ่านโน้ตได้คล่องแล้ว ครั้งนี้เพลงที่หลายคนสนใจ และคุ้นหู นั่นก็คือ แต๊น แต่น แต้น.....
เพลง Canon in D for Quartet Harmonica ครับผม เป็นเวอร์ชั่นที่ผมเรียบเรียงขึ้นสำหรับวง Quartet Harmonica จากเวอร์ชั่นต้นฉบับดั้งเดิมของ Johann Pachelbel เวอร์ชั่นที่เรียบเรียงนี้เป็นโน้ตประสานเสียงของ Harmonica 4 ชิ้น ครับ เอาไว้เล่นประสานเสียงกับเป็นหมู่คณะ มันเป็น Harmonica 4 ทาง 4 คนก็เล่นคนละทางโน้ตเท่านั้นเอง จริงๆไม่จำกัดว่าต้องเล่น 4 ชิ้นหรอกครับ ถ้าเล่นกันเกิน 4 คน ก็นัดแนะกันว่าจะเล่นทางโน้ตไหนเพิ่มอีกก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใดครับ ผมได้ทำโน้ตแยกไว้สำหรับ ฮาร์โมนิก้า ทาง 1 เอาไว้ด้วยสำหรับไว้ฝึกเล่นคนเดียวครับ

โน้ตสำหรับรวมวงมีหลายหน้าจึงทำเป็นไฟล์โน้ตเพลงพร้อมกับไฟล์เสียงไว้ให้โหลดน่ะครับ (เสียงทำจากMIDIเสียงอาจจะไม่ดีขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ)



==========

สามารถเข้าไปโหลดได้ตามลิ้งค์นี้เลยครับ
Download
==========

เป็นไฟล์ 7z ครับ สามารถเปิดได้กับ WinRAR, 7zip หรือโปรแกรมบีบอัดรุ่นปัจจุบันได้ทุกโปรแกรมครับ
ข้างในไฟล์จะมี
Canon in D - Quartet Harmonica.pdf
Canon in D - Harp 1 Solo.pdf
และโฟลเดอร์ Audio (MIDI) ซึ่งจะมีไฟล์เสียงสำหรับโน้ตทั้ง 2 ชุดไว้ด้วย

คราวนี้มาลองวิเคราะห์โน้ตกันดู จะเห็นว่าโน้ต ทาง 1 ถึง ทาง 3 นั้นโน้ตเหมือนกัน เพียงแต่เริ่มเล่นไม่พร้อมกันเท่านั้นเอง นี่เป็นเอกลักษณ์ของเพลงแนว Canon ครับ
ส่วนทาง 4 เป็นทางโน้ตพื้นของเพลงเพื่อรักษาจังหวะ และทางคอร์ดของเพลงครับ จะเล่นเป็น Loop ซ้ำไปซ้ำมา แต่เป็นทำนองหลักที่สวยมาก จะเห็นว่ามีโน้ต Bending ที่ ฟาต่ำ และลาต่ำ แต่ถ้าไม่ไหวเล่นโน้ตสูงขึ้นเท่าตัวทั้งชุดก็ได้ครับจะได้ไม่ต้องเล่นโน้ต Bending ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเล่นเสียงต่ำได้จะกลมกล่อมและนุ่มนวลกว่าครับ

เพลงนี้เป็น คีย์ D ครับ อย่างที่ชื่อบอกไว้ Canon in D ให้เอาฮาร์ปคีย์ D มาเล่นนะครับเสียงก็จะตรงกับเพลงต้นฉบับและตรงกับไฟล์เสียงซึ่งได้ทำไว้ แต่ถ้าเอาคีย์อื่นมาเล่นก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด ก็จะกลายเป็น Canon in คีย์อื่นๆไปครับ แต่ถ้าจะเล่นร่วมกันก็ต้องใช้ฮาร์ปคีย์เสียงเดียวกันนะครับ และถ้าจะเล่นพร้อมกับไฟล์เสียงที่แนบมาก็ต้องใช้คีย์ D นะครับจะได้เล่นออกมาเป็นคีย์เดียวกัน

เพลงนี้เล่นไม่ยาก แต่จะซับซ้อนตรงการกระโดดข้ามโน้ตและความเร็วของโน้ต ให้เริ่มฝึกจากช้าๆก่อนนะครับ ทีละท่อนไปเรื่อยๆ นับจังหวะให้แม่นเล่นให้นิ่ง อาจจะมีโน้ต Bending บ้าง โน้ตไหนเล่นไม่ได้ก็ให้ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม หรือหยุดเล่นตรงตำแหน่งโน้ตนั้นไปก่อนก็ได้ แล้วค่อยกลับมาฝึกภายหลังอีกครั้งครับ

วันนี้เท่านี้ก่อนไว้เจอกันบทความหน้า
ขอให้มีความสุขกับการเล่นดนตรีนะครับ
สวัสดีครับ ^_^


แถม
Canon inD
Johann Pacheldel
Diatonic Harmonica TAB

8 -8 7 -7 -6 6 -6 -7
7 -7 -6 6 -5 5 -5 -4
-4 4 5 6 -5 5 4 5 -4 4 -3 4
6 -5 -6 6 -5 5 4 -4
-7 7 8 9 6 -6 -5 6 5 -3
7 7 -7 7 -7 7 5 -4 6 -4 5 4
7 -7 -6 -7 8 9 -10-9 8 -8 -9 8 -8 7 -7 -6 6 -5 5 -4 -5 5 -4 4
-4 5 -5 6 -4 6 -5 5 -6 6 -5 6 -5 5 -4 4 -3 -6 -7 7 -7 -6 6
-5 5 -4 -6 6 -6 6 -5
5 7 -7 7 -6 6 7 7 -9 -8 9

9 8 -9 9 8 -9 9 6 -6 -7 7 -8 8 -9 8 7 -8 8
5 -5 6 -6 6 -5 6 5 -5 6 -5 -6 6 -5
5 -4 5 -4 4 -4 5 -5 6 -6 -5 -6 6 -6
-7 7 6 -6 -7 7 -8 8 -9 9 9
8 -9 9 8 -9 9 6 -6 -7 7 -8 8 -9 8 7 -8 8
5 -5 6 -6 6 -5 6 7 -7 7 -6 7 -7 -6
6 -5 6 -5 5 -5 6 -6 -7 7 -6 7 -7 7
-7 7 6 -6 -7 7 -8 8 -9 9 9
8 -9 9 8 -9 9 6 -6 -7 7 -8 8 -9 8 7 -8 8
5 -5 6 -6 6 -5 6 7 -7 7 -6 7 -7 -6
6 -5 6 -5 5 -5 6 -6 -7 7 -6 7 -7 7
-7 -6 -7 7 -8 7 -7 7 -6 -7 7

6 5 6 6 -5 -6 6 6 -6 -7 7 -7 -6 6 -5 5 -5 -4
4 5 6 -5 5 4 5 -4 4 -3 4
6 -5 -6 6 -5 5 4 -4
-7 7 8 9 6 -6 -5 6 5 -4
-7 7 -7 7 -7 7 -7 7 -7 7 5 -4 6 -4 5 4
7 -7 -6 -7 8 9 -10-9 8 -8 -9 8 -8 7 -7 -6 6 -5 5 -4 -5 5 -5 5 -4
4 -4 5 -5 6 -4 6 -5 5 -6 6 -5 6 -5 5 -4 4 -3 -6 -7 7 -7 -6 6
-5 5 -4 -6 6 -6 6 -5
5 7 -7 7 -6 6 7 7 -9 -8 9

9 8 -9 9 8 -9 9 6 -6 -7 7 -8 8 -9 8 7 -8 8
5 -5 6 -6 6 -5 6 5 -5 6 -5 -6 6 -5
5 -4 5 -4 4 -4 5 -5 6 -6 -5 -6 6 -6
-7 7 6 -6 -7 7 -8 8 -9 9 9
8 -9 9 8 -9 9 6 -6 -7 7 -8 8 -9 8 7 -8 8
5 -5 6 -6 6 -5 6 7 -7 7 -6 7 -7 -6
6 -5 6 -5 5 -5 6 -6 -7 7 -6 7 -7 7
-7 7 6 -6 -7 7 -8 8 -9 9 9
8 -9 9 8 -9 9 6 -6 -7 7 -8 8 -9 8 7 -8 8
5 -5 6 -6 6 -5 6 7 -7 7 -6 7 -7 -6
6 -5 6 -5 5 -5 6 -6 -7 7 -6 7 -7 7
-7 -6 -7 7 -8 7 -7 7 -6 -7 7

8 -8 -8 8 -8 7 7 7 -8 7 -7 -6 -7 7
7 7 -7 -6 7 6
9 9 -10 9 -9 8 8 8 -9 8 -8 7 -7 -6 7 6
6 -6 7 -7 6 7 7

หน้าแรกของต้นฉบับ 16481-8 จากหอสมุด Berlin State Library — สำเนาเก่าแก่ที่สุดของ "Canon and Gigue in D major" ของ Pachelbel

All Keys Harmonicas - โน้ตในคีย์ต่างๆของฮาร์โมนิก้า

สวัสดีปีใหม่ไทยครับทุกคน ย้อนหลังสงการต์มาได้ไม่นานเป็นยังไงกันบ้างครับ ปีใหม่ไทยนี้ขอให้มีความสุขสมหวัง และมีฝีมือทางดนตรียิ่งๆขึ้นไปนะครับ ^_^
เอาล่ะ...ครั้งนี้เรามาดูกันว่าชื่อโน้ตที่อยู่ใน Diatonic หรือฮาร์โมนิก้า 10 ช่อง เนี่ย ในแต่ละช่องมีโน้ตชื่ออะไรกันบ้างเมื่อเทียบกับเปียโน หรือเครื่องดนตรีสากลทั่วไป

สัญลักษณ์ตารางโน้ต
C=โด D=เร E=มี F=ฟา G=โซ,ซอล A=ลา B=ที
# อ่านว่า ช้าร์ป หมายถึง สูงขึ้นครึ่งเสียง
b อ่านว่า เฟล็ต หมายถึง ต่ำลงครึ่งเสียง

คลิ๊กที่รูปเพื่อดูภาพใหญ่

C# อ่านว่า ซีช้าร์ป หรือ โดช้าร์ป
Db อ่านว่า ดีเฟล็ต หรือ เรเฟล็ต
C#,Db สองตัวนี้เป็นเสียงเดียวกันครับ คือ เสียงที่อยู่ตรงกลางละหว่าง C กับ D
C สูงขึ้นครึ่งเสียง กับ D ต่ำลงครึ่งเสียง ก็จะลงมาเจอกันพอดี แล้วแต่จะเรียกครับ C# ก็ได้ Db ก็ได้ แต่ทาง Harmonica diatonic ส่วนมักจะเรียกเป็น b(เฟล็ต) เพราะเข้าใจง่ายกว่าเมื่อเล่นด้วยการ Bending ครับ ยกเว้น Harmonica chromatic ถ้าเรียกเป็น # จะเข้าใจง่ายกว่าเมื่อกดปุ่ม

แนะนำให้ศึกษาทฤษฏีดนตรีเพื่อทำความเข้าใจเรื่องระยะห่างของเสียงเพิ่มเติมครับ


ทีนี้พอเราไปเล่นดนตรีร่วมกับเครื่องดนตรีสากลชนิดอื่น เราก็สามารถเทียบและบอกชื่อโน้ตที่เราเล่นได้แล้วครับ เมื่อเราเล่นโน้ตคีย์ C ด้วยฮาร์ปคีย์ C ก็จะได้เสียงคีย์ C
แต่หากเราเล่นแบบเดียวกันแต่เปลี่ยนมาใช้ฮาร์ปคีย์ D ก็จะได้เพลงเดิมในคีย์ใหม่คือคีย์ D
เมื่อเปลี่ยนเป็นฮาร์ปคีย์อะไรเพลงเดิมนั้นก็จะกลายเป็นเสียงของคีย์ใหม่นั่นเอง ถ้าเล่นร่วมกับเพื่อนแล้วเล่นคนละคีย์ มันก็จะเหมือนกับเล่นผิดคีย์ หรือภาษานักร้องนักร้องเรียกว่าร้องผิดคีย์นั่นเอง

ยกตัวอย่างสักอันนึงนะครับ
เหมือนอย่างเพลง Jingel Bell โน้ตชุดแรกคือ

|E E E - | E E E - | E G C D | E - - -||

ถ้าเราเอาฮาร์ปคีย์ C มาเล่น เสียงก็จะเป็นคีย์ C (ได้เสียงตามโน้ต เนื่องจากโน้ตเป็นคีย์ C)
แต่เมื่อเราเอาฮาร์ปคีย์ F มาเล่น เล่นเหมือนเดิมช่องเดิมแบบเดิม ฟังแล้วเหมือนเดิม แต่ความถี่เสียงก็จะเปลี่ยนไปกลายเป็นคีย์ F ครับ และถ้าอยากรู้ว่าโน้ตในคีย์ F ที่เล่นไปนั้นชื่อโน้ตจริงๆที่เทียบกับเปียโนแล้วคืออะไร ก็ดูได้จากตารางข้างบนครับ หรือไม่ก็ศึกษาทฤษฏีเกี่ยวกับคีย์ต่างๆครับ

การเปลี่ยนคีย์สำหรับฮาร์โมนิก้านั้นง่ายครับ ถ้าเราเล่นเพลงนั้นในคีย์ C ได้แล้ว หากต้องการเปลี่ยนคีย์ก็แค่เอาฮาร์โมนิก้าคีย์ที่ต้องการมา เล่นแบบเดิมในช่องเดิมก็ได้เพลงเดิมในคีย์ใหม่แล้วครับ ดังนั้นโน้ตฮาร์โมนิก้าส่วนมาก(และของผม)มักจะถูกแปลง/เขียนไว้ในโน้ตของคีย์ C และกำกับไว้ว่าให้ใช้ฮาร์ปคีย์อะไรเล่นเพื่อให้ได้เสียงแบบเดียวกับต้นฉบับครับ ซึ่งเรียกว่า โดเคลื่อนที่(Move Do) คือ ไม่ต้องพูดถึงโน้ตอะไรในคีย์ต่างๆให้มากมาย เอาแค่ในคีย์ C เท่านั้น เล่นเหมือนโด, เร, มี ฯลฯ ธรรมดา แล้วเสียงที่ออกมาจะเป็นไปตามความถี่ของคีย์นั้นๆที่เราหยิบมาเล่นเอง นั่นคือเหตุผลที่ฮาร์โมนิก้า โดยเฉพาะ Diatonic ควรแปลงโน้ตให้เป็นคีย์ C ทุกเพลง และเมื่อเล่นในคีย์ C ได้ ก็เล่นได้ทุกคีย์ แค่หยิบคีย์ที่ต้องการมาเล่น แล้วเล่นในช่องเดิมแบบเดิม ก็เป็นเพลงเดิมในคีย์นั้นๆแล้ว
แต่จะเล่นกับฮาร์ปคีย์ไหนก็ไม่มีปัญหาครับเพียงแค่ความถี่เสียงก็จะเป็นไปตามฮาร์ปที่เอาขึ้นมาเล่นเท่านั้เอง แต่ก็ยังฟังเหมือนเดิม อยากรู้ว่าเล่นโน้ตในคีย์ต่างๆออกมาเป็นชื่อโน้ตจริงๆอะไร เทียบได้กับตารางข้างต้นครับ

วันนี้หนักไปทางทฤษฏีนิดนึงนะครับ เพื่อจะได้รวมวงกับวงดนตรีและพูดคุยถึงโน้ตกันได้แบบไม่ติดขัด(นำรูปแบบนี้ไปประยุกต์ใช้กับชื่อคอร์ดได้ด้วยเช่นกัน) แนะนำให้ศึกษาทฤษฏีดนตรีเพิ่มเติมนะครับจะได้เล่นดนตรีด้วยความเข้าใจยิ่งขึ้นครับ

หากได้ประโยชน์จากบทความนี้
แล้วอยากจะเลี้ยงน้ำชา ข้าวผัด หรือมอบสินน้ำใจเป็นค่าครู
สามารถสนับสนุนได้ที่

ธนาคารกรุงไทย
9090619704
กนกเกียรติ หริรักษ์หรรษา

ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและกำลังใจนะครับ
ขอบคุณครับ🙏😇

วันนี้เท่านี้ก่อน สวัสดีปีใหม่ไทยอีกครั้งครับ
ไว้เจอกันครับ
ขอให้เล่นดนตรีอย่างมีความสุขครับ ^_^

13 เมษายน 2554

Harmonica Types - มารู้จักฮาร์โมนิก้าชนิดต่างๆกันเถอะ

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้พักจากแบบฝึกหัดฮาร์โมนิก้ากันไว้ก่อน เรามาทำความรู้จักฮาร์โมานิก้าชนิดต่างๆกันดีกว่า สำหรับคนที่สนใจหัดเล่นอ่านที่บทความฮาร์โมนิก้าสำหรับผู้เริ่มต้น
ฮาร์โมนิก้าก็มีหลายชนิด เหมือนในวง Orchestre ที่มี Violin หลายชนิดตั้งแต่เล็กไปถึงอันใหญ่มาก และก็มีชื่อต่างกันอย่าง Violin, Viola, Cello, Double Bass เป็นต้น
ฮาร์โมนิก้าเราก็มีระดับเสียงที่หลากหลายเช่นกัน เอามารวมกันเล่นก็สามารถเป็นวง Harmonica Orchestra ได้เลยทีเดียว เกริ่นพอสมควรได้เวลามาดูกันแล้วว่ามีแบบไหนกันบ้าง


1. Diatonic Harmonica (ไดอะโทนิค ฮาร์โมนิก้า)

เป็นฮาร์โมนิก้าที่นิยมเล่นกันทั่วโลก โดยเฉพาะแนว Blues นิยมมากจนมีอีกชื่อนึงว่า Blues Harp และเป็นแบบที่ผมแนะนำให้เลือกเล่นเพราะสามารถเล่นเทคนิดได้หลากหลาย เล่นทำนองโซโล่ก็ได้ เล่นคอร์ดก็ได้พอสมควร
ปกติจะมี 10 ช่อง ใน 1 ช่อง จะมี 2 โน้ต เป่าได้โน้ตนึง ดูดในช่องเดียวกันก็ได้อีกโน้ตนึง
Diatonic มี 12 คีย์ G Ab A Bb B C Db D Eb E F F# (เรียงจากเสียงคีย์ต่ำกว่ามาสูง)
และมีเสียงพิเศษอีก 3 เสียงคือ Low C, Low F, Hight G
นอกจากนี้ ฮาร์ป Diatonic เองก็มีรูปแบบการเรียงโน้ตและตั้งเสียงแตกต่างกันไปหลายแบบ มีให้เลือกได้มากมายหลากหลายความต้องการ

2. Tremolo Harmonica (เทรโมโล่ ฮาร์โมนิก้า)

แบบนี้หาง่ายและนิยมกันพอสมควรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
มีช่องเป่าตั้งแต่ 16 ถึง 24 ช่อง ใน 1 ช่อง จะมี 1 โน้ต 2 ลิ้นเสียง เวลาบรรเลงแล้วจะเหมือนเล่นพร้อมกันสองคน และฟังเหมือนเป็นลูกคอสั่นๆด้วย(เป็นลิ้นเสียงคู่ โน้ตเดียวกัน แต่มีลิ้นนึงจะมีความถี่สูงกว่าอีกลิ้นเล็กน้อย จึงทำให้เกิดเสียงสั่นๆเป็นลูกคอนั่นเอง) แต่ละช่องเป่าดูดสลับช่องกันไป
เอามาเล่นทำนองโซโล่ได้ แต่เล่นคอร์ด เป่าควบเป็นคอร์ดได้น้อย ถ้าจะเล่นคอร์ดก็มักจะเล่นแบบ Apegio กระจายโน้ตคอร์ด และ Tremolo มีคีย์เสียงให้เลือกเล่นได้น้อย มักจะมีแต่คีย์ C แต่ปัจจุบันนี้ยี่ห้อจีนผลิตออกมาครบทุกคียแล้ว

3. Chromatic Harmonica (โครมาติค ฮาร์โมนิก้า)

ฮาร์โมนิก้ารุ่นนี้ตัวเดียวสามารถเล่นได้ทุกคีย์ เพราะมีโน้ต #,b(ชาร์ป,เฟล็ต) ครบถ้วน เวลากดปุ่มที่อยู่ข้างๆ แล้วเล่นเสียงโน้ตนั้นๆจะสูงขึ้นครึ่งเสียง
เช่น ถ้าเป่า โด(C) แล้วกด ก็จะได้เสียง โดชาร์ป(C#)หรือเรียกว่า เรเฟล็ต(Db)ก็ได้ (เป็นเสียงที่อยู่กึ่งกลางระหว่างโด(C) และ เร(D))
ปกติจะมี 12 ช่อง ไปจนถึง 16 ช่อง
เวลาเล่นแบบไม่กดปุ่มการเล่นก็จะคล้ายๆกับคีย์ C Diatonic คือ 1 ช่องมี 2 โน้ต เป่ากับดูด แต่จะต่างกันที่การเรียงโน้ตนิดหน่อย
และ Chromatic ก็มีแบบ Tremolo ด้วย แต่มีให้เลือกน้อยทั้งรุ่นและยี่ห้อ(และแพง)
การดูแลรักษาเคยได้ยินมาว่าน้ำลายเข้าเยอะก็ไม่ได้ ล้างน้ำก็ไม่ได้ ฯลฯ เขาว่ากลไกจะพัง ตรงนี้ก็ไม่ทราบว่าเพราะอะไร จากที่ได้ยินมาก็น่าจะดูแลยากพอสมควร

4. Single Harmoinca (ซิงเกิล ฮาร์โมนิก้า)

เป็นฮาร์โมนิก้าโมเดลญี่ปุ่น มีแบบ 15 และ 22 ช่อง ส่วนใหญ่เป็นคีย์ C แต่ละช่องมี 1 โน้ตเรียงไปทีละโน้ต คล้าย Tremolo แต่เรียงโน้ตเหมือนลิ่มขาวเปียโน โดยที่โน้ตเป่าหรือดูดจะเหมือนกับ Diatonic ที่แยกออกเป็นโน้ตละช่อง ไม่ค่อยได้รับความนิยมโดยทั่วไป แต่ไอเดียของ Single Harmonica ก็มีเป็นรุ่นอื่นๆเหมือนกัน เช่น เพิ่มช่องด้านบนมาอีกแถวเป็นโน้ต #,b เหมือนลิ่มดำของเปียโน ทำให้สามารถเล่นโน้ตได้ครบบันไดเสียงโครมาติก เป็นต้น

5. Chord Harmonica (คอร์ด ฮาร์โมนิก้า)

ตามชื่อเลย ฮาร์โมนิก้าชนิดนี้ใช้เล่นคอร์ดโดยเฉพาะครับ มีตั้งแต่แบบคอร์ดน้อยไปจนถึงแบบคอร์ดเยอะ แน่นอนว่าแบบคอร์ดเยอะก็จะยาวมาก เผลอๆยาวกว่าแข้งอีก(ฮา)
หายากหน่อยครับในประเทศไทย อาจจะต้องสั่งเข้ามา เพราะไม่ค่อยนิยมเล่นกันในบ้านเรา รุ่นพิเศษแบบนี้จะมีแต่ของเกรดสูงครับ เพราะคนที่ใช้มักจะสนใจใช้เล่นจริงๆจังๆเป็นอาชีพ

6. DoubleBass Harmonica (ดับเบิ้ล เบสฮาร์โมนิก้า)

เสียงคล้ายกับการสี Double Bass(ไวโอลินยักษ์) เลยครับ ทุ้มต่ำหนักแน่นมาก
DoubleBass Harp ใน 1 ช่องจะมี 1 โน้ต และเป็นแบบ Chomatic ครับ แต่ไม่ใช่แบบปุ่นกด จะเป็นแบบ 2 ชั้น(ตามรูป) ชั้นล่างเล่นแบบดูดทั้งหมดเสียงคีย์ C และชั้นบน เล่นแบบเป่าทั้งหมดเสียงคีย์ C#(Db) เวลาเล่นโน้ตปกติก็เล่นชั้นล่างเวลาจะเล่นโน้ต #,b ก็เล่นชั้นบนครับ ก็ครบโน้ต Chomatic พอดี (ชั้นล่างดูด ชั้นบนเป่า แต่บางยี่ห้อก็เป่าหมดทั้งบนล่าง)
จากรูปมีโน้ตทั้งหมด 39 โน้ตพอดี มีโน้ตพอๆกับ Guitar Bass 4 สาย เลยครับ แล้วรู้สึกว่ารุ่นนี้จะสามารถเสียงแจ๊คต่อเข้าตู้แอมป์ได้ด้วย
และ DoubleBass Harp ก็หายากอีกเช่นกันเพราะเป็นรุ่นพิเศษ ถ้าสนใจอาจจะต้องสั่งเข้ามา และอย่างที่บอกล่ะครับรุ่นพิเศษมักจะ Full Option เพราะคนที่สนใจมักจะเอาไปใช้เล่นกันจริงจังเลยทีเดียว(และแพงได้อีก ฮา)


เป็นไงบ้างครับสำหรับฮาร์โมนิก้า 6 แบบที่มาแนะนำให้ดูกัน นี่เป็น 6 แบบหลักๆครับ ยังมีแบบพิเศษอีก ซึ่งก็จะต่างกันที่รายละเอียดนิดหน่อยตามแต่ผู้ผลิตจะคิดค้นออกมา แต่เพียงเท่านี้ก็ครบถ้วนและน่าจะจุใจกันพอสมควร

วงดนตรีในต่างประเทศนั้นมีวงชนิดนึงที่ผมเรียกว่า Harmonica Band คือ ในวงจะมีเครื่องดนตรีหลักเป็นฮาร์โมนิก้า อย่างเช่น อาจจะมี 3 คน คนแรกเล่น Diatonic หรือไม่ก็ Chromatic เพื่อเล่นโซโล่ คนที่สองเล่น Chord Harp คนที่สามเล่น DBass Harp เป็นต้น หรืออาจจะเป็นแบบอื่นก็ได้ อย่างเช่น เล่น Diatonic 10 ช่อง เหมือนกันทั้งวงไปเลย อาจจะ 2-3 คน แล้วแบ่งการเล่น คนนึงเล่นโซโล่ อีกคนเล่นคอร์ด อีกคนเล่นไลน์เบสหรือลูกขาน เป็นต้น ก็แล้วแต่จะแบ่งโน้ตกันเล่นตามแต่ตกลงกันเลยครับ
เป็นลักษณ์แบบเดียวกับวง String ทั่วไป ที่มี Guitar Solo, Guitar Chord, Guitar Bass , (และ Drums) อะไรประมาณนี้ล่ะครับ ถ้าวงฮาร์ป Diatonic ล้วน เพิ่มคนเล่น Cajon (คาฮอน กลองกล่องไม้)อีกชิ้นก็เป็นวงพกพาแบบครบองค์เหมือนวงสตริงกันเลยทีนี้ ๕๕

วันนี้คงพอเท่านี้ก่อนไว้เจอกันใหม่คราวหน้าครับ
ขอให้มีความสุขกันการเล่นฮาร์โมนิก้าที่คุณรักนะครับ
^_^