Sponsor

30 ธันวาคม 2563

The answer to life, the universe, and everything - คำตอบของชีวิต, จักรวาล, และสรรพสิ่ง

https://jonathanbossenger.com/the-answer-to-life-the-universe-and-everything/

"อย่าตื่นตระหนก คำตอบของชีวิต, จักรวาล, และสรรพสิ่ง คือ 42"

ถ้าคุณรู้ว่าตัวเลขนี้มาจากไหนก็นับว่าเนิร์ดไม่ใช่เล่น ๕๕๕บวก

42 ตัวเลขนี้ได้รับการตีความมามากมายตลอดหลายปีว่าทำไมคำตอบของชีวิตฯถึง = 42 นั่นสิ ทำไมหว่า?

ซึ่ง...
เราก็ไม่รู้เหมือนกัน ๕๕๕บวก

แต่ถ้าให้เราตีความนะ เราเห็นว่า 42 ในเลขฐานสิบน่ะมัน = 101010 ของเลขฐานสอง ทีนี้เจ้า 101010 จะเทียบได้กับ ䷿ (ขีดตัด = 0 , ขีดเต็ม = 1) พอดี ซึ่งเป็นกว้าในคัมภีร์อี้จิงที่ชื่อว่า 未濟 แปลว่า ยังไม่เสร็จสิ้น, ยังไม่ข้ามฟาก, ก่อนเสร็จสิ้น ฯลฯ ความหมายก็ราวๆนี้ ดังนั้นเราจึงตีความสรุปเอาเองมั่วๆเลยว่า คำตอบของชีวิตฯ = 42 ก็เพราะว่า มันยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ยังคงพัฒนาต่อไปได้อีก เหมือนการพยายามตีความมั่วๆอันนี้ ที่ก็พยายามเกิ๊น (ก็โยงไปได้เนาะเรา ๕๕๕บวก) แต่ว่า อย่าตื่นตระหนก! เพราะคำตอบคือ 42 ๕๕๕บวก

โอเค รั่วไว้ประมาณนี้ มีใครอยากตีความอย่างไรอีกบ้างครับว่า ทำไมคำตอบของชีวิตฯ = 42 เม้นฮาๆเล่นๆกันได้ อย่าให้ใครผูกขาดการตีความแต่เพียงผู้เดียว แม้แต่ผู้เขียนหนังสือเล่มนั้นเองก็ตาม ๕๕๕บวก

=======
ถ้าไม่เชื่อว่าคำตอบของชีวิตฯ = 42 ลองเอาวลีนี้ภาษาอังกฤษไปค้นใน Google ดูครับ
The answer to life, the universe, and everything.

29 ธันวาคม 2563

การทำนายด้วยเลขฐานสอง 6 หลัก

ภาพถ่ายโดย Joey Kyber จาก Pexels

เรามาเสี่ยงทายทำนายดวงด้วยแนวทางสนุกๆง่ายกันเถอะ!

การทำนายนี้เราเอาแนวคิดมาจากอี้จิง ที่มี       และ       6 เส้น เราก็เอามาแปลงเป็นเลขฐานสอง 6 หลักแทน โดยให้       = 1 และ        = 0 โดยหลักหน่วย(ขวาสุด)แทนเส้นล่างสุดแล้วค่อยๆไล่ขึ้นมาทางซ้ายจนถึงเส้นบนสุด 
การตีความเพื่อทำนาย เราก็ยำจากหลายแหล่งเอามาทำให้ง่าย หลักๆก็เพื่อความสนุกสนานในการตีความขำๆเอาเองส่วนตัว บางทีถ้าตัดสินในไม่ได้ ว่าควรทำยังไงดี ก็อาจใช้ช่วยตัดสินใจได้บ้างไม่มากก็น้อย แถมเป็นลำดับขั้นอีกต่างหาก

6 หลักก็แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ครึ่งขวากับครึ่งซ้าย
xxxxxx ครึ่งขวา คือ สิ่งที่ควรทำก่อน
xxxxxx ครึ่งซ้าย คือ สิ่งที่ควรทำหลัง(อนาคต)

โดยใน 2 ส่วนมี 3 หลัก แบ่งทีละหลักออกเป็น
xxx หลักที่1 คือ การเริ่มต้น; แหล่งที่มาของข้อมูล
xxx หลักที่2 คือ การขบคิดเพื่อตัดสินใจ; ขั้นตอนการประมวลผล
xxx หลักที่3 คือ การลงมือทำ; ผลลัพธ์

โดยตัวเลขจะมี 0 และ 1 ซึ่ง
0 คือ หยิน, ภายใน, ตัวเอง ฯลฯ หรืออะไรที่เป็นแนวของการรับความคิดเห็นจากภายในหรือทำสู่ภายใน
1 คือ หยาง, ภายนอก, คนอื่น ฯลฯ หรืออะไรที่เป็นแนวของการรับความคิดเห็นจากภายนอกหรือทำสู่ภายนอก

ส่วนที่เป็นตัวเลขนี่แหละครับที่สนุกว่าเราจะตีความมันอย่างไร โดยใช้หลักเกณฑ์ตามที่เราเสนอไว้ให้แล้วข้างต้นนั่นเอง

=======

งั้นมาลองดูตัวอย่างกันครับ เช่น 101011

101011 การเริ่มต้นต้องเริ่มโดยดูจากคนอื่นก่อน ดูจากภายนอก
101011 การตัดสินใจลองฟังความคิดเห็นให้หลากหลายก่อน
101011 การลงมือทำให้ทำด้วยตนเองเพื่อตนเอง

ส่วนที่ต้องทำก่อน 101011 ได้จบลงแล้ว เมื่อทำส่วนนี้เสร็จแล้วภายหลังควรทำอะไร มาดูกันต่อ

101011 ก็เหมือนเดิมครับ กลับมาสู่หลักที่1 ของส่วนที่ 2 คือการเริ่มต้นสู่ภายนอก
101011 ขบคิดด้วยตนเอง
101011 ทำประโยชน์สู่ผู้อื่นหรือร่วมกับผู้อื่น

หรืออะไรทำนองนี้ ก็ลองตีความกันดูตามบริบทที่ต้องการได้เลย โดยเฉพาะถ้าเข้าใจเรื่องหยิน(0)หยาง(1)ว่ามันเป็นอะไรได้บ้างก็จะขยายไปสู่ขอบเขตสิ่งของได้อีกอย่างกว้างขางเลยครับ หรือจะเทียบเป็นคู่ๆ อย่างเช่นหลักที่1 ของทั้ง 2 ส่วน(Ex. 101011) แล้วลองตีความแบบอื่นๆดูก็ได้ครับ

แล้วจะสุ่มตัวเลขมาตีความเล่นกันอย่างไรกันดีล่ะ? ก็สามารถทอย 6 เหรียญก็ได้ ให้หัว=1 ก้อย=0 โดยเรียงตามที่เหรียญกระจายไป จะดูแนวซ้ายขวาหรือบนล่างก็แล้วแต่ หรือจะใช้แอปสุ่มเลขฐานสองก็ได้ อย่างเราเองชอบทอยเหรียญโดยใช้ลิ้งค์นี้เลย สุ่มทอย 6 เหรียญ เราตั้งค่าไว้แล้ว แค่คลิ๊กปุ๊บก็ทอยให้เสร็จสรรพ 6 เหรียญผ่านเว็บ random.org เป็นการสุ่มแท้(True random)ไม่ได้สุ่มด้วยรหัสโปรแกรม

ส่วนการตีความที่ซับซ้อนกว่านี้เช่น เทียบส่วนครึ่งหน้ากับครึ่งหลัง ในแนว ไฟบนทะเลสาบล่าง อันนี้ก็เป็นการตีความแนวอี้จิงซึ้งต้องไปศึกษาเรื่องตรีลักษณ์เพิ่มเติมนะครับ เพราะการตีความแบบอี้จิงจะมีความซับซ้อนสูงมาก อันนี้เราไม่ไปขนาดนั้นแค่เอามาตีความกันเล่นๆกับ 6 หลักเลียนแบบอี้จิงเท่านั้นเอง

อันนี้เราก็แนะนำการตีความแบบขำๆสนุกๆนะครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการนำไปเล่นทำนายทายทักเพื่อรับคำแนะนำจากจักรวาลกันต่อไป อั่ยยะ ๕๕๕บวก ไม่แน่ว่าผลการสุ่มอาจมาจากคำแนะนำจาก Entropy แห่งจักรวาลก็เป็นได้ ไม่แน่ว่าท้ายที่สุดอาจเข้าถึงลำดับขั้นวิถีแห่งการเปลี่ยนแปลงจนถึงขั้นล่วงรู้อนาคตก็ได้! ใครจะไปรู้ อิอิ

การเสี่ยงทาย
อาจคือ
การขอคำแนะนำ
จาก Entropy

ภาพถ่ายโดย Jimmy Chan จาก Pexels

42: The answer to life, the universe, and everything.
ภาพจาก https://timeguide.wordpress.com/2015/02/05/42-the-answer-to-life-the-universe-and-everything/

27 ธันวาคม 2563

How disable F@H starting on startup - การตั้งค่า Folding@home ปิดการรันอัตโนมัติเมื่อเปิดเครื่อง

ในรูปตั้งค่าเป็น 0 เพื่อเปิดการรันอัตโนมัติ

เข้าไปที่ Configure -> Expert -> Extra client options
แล้วกรอกลงในช่อง

Add Name: pause-on-start
Value: 1

*ช่อง Value ใส่ 1 หรือ True เมื่อต้องการปิดการรันอัตโนมัติ หรือ ใส่ 0 หรือ False เมื่อต้องการเปิดการรันอัตโนมัติ

เป็นอันเรียบร้อยครับ

=======
โครงการ Folding@home เป็นการวิจัยเพื่อค้นหาการรักษาโรคต่างๆรวมถึง #COVID19 ทุกท่านสามารถเข้าร่วมได้เพียงแค่ติดตั้งโปรแกรมแล้วต่อเน็ตเพื่อรับชิ้นส่วนงานวิจัย โปรแกรมจะทำการประมวลผลอัตโนมัติ เคยเขียนไว้ในบทความ Folding@home ร่วมประมวลผลโปรตีนเพื่อรักษาโรคด้วยกันครับ สามารถคลิ๊กเข้าไปอ่านรายละเอียดกันได้ครับ
สำหรับชาว Linux ก็ให้ติดตั้งทั้ง 3 ไฟล์นั้นเลยครับตามลำดับ บางไฟล์อาจต้องการแพ็คเก็จเพิ่มก็พิมพ์ชื่อตามนั้นแล้วค้นหาจากอินเตอร์เน็ตได้ไม่ยากครับ

ศึกษาเพิ่มเติม

26 ธันวาคม 2563

ปริศนาธรรมจากเรื่องไซอิ๋ว


ไซอิ๋วกี่ หรือ ซีโหยวจี้(西游记 ; 西遊記) ภาษาอังกฤษเรียก Journey to the West แปลตรงตัวว่า “บันทึกการเดินทางสู่ตะวันตก” หรือที่บ้านเราเรียกสั้นๆว่า “ไซอิ๋ว” เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นโดยเอาบันทึกประวัติการเดินทางจริงของพระถังซัมจั๋ง(เสวียนจั้ง, 玄奘) ในไซอิ๋วไม่ใช่ประวัติการเดินทางตามตัวอักษรบันทึก แต่เป็นการแต่งเรื่องราวขึ้นใหม่โดยใช้บันทึกเป็นการอ้างอิง(บันทึกจริงแปลไทยอ่านได้จากหนังสือ “พระถังซัมจั๋ง จดหมายเหตุการเดินทางสู่ดินแดนตะวันตกของมหาราชวงศ์ถัง”)

เป็นวรรณกรรมที่ดูสนุกอ่านสนุกรู้จักกันทุกเพศทุกวัย แต่มีน้อยคนที่จะรู้ถึงปริศนาธรรมที่ซ่อนอยู่ในเรื่องตลอดทั้งเรื่อง ทุกสิ่งที่ถูกพูดถึงมีความหมายทั้งสิ้น ผมจะเล่าให้ฟังสักเล็กน้อยพอเป็นสังเขป ...เริ่มกันเลย
พระถังซัมจั๋ง แทนด้วย ขันติ
ม้าขาว แทนด้วย วิริยะ
เห้งเจีย แทนด้วย ปัญญา แต่เป็นปัญญาที่ยังเถื่อนอยู่ ยังต้องได้รับการขัดเกลา
โป๊ยก่าย แทนด้วย ศีล เป็นศีลที่ยังเถื่อนอยู่เช่นกัน
ซัวเจ๋ง แทนด้วย สมาธิ เป็นสมาธิที่ยังซึ่มกระทื่อโง่งมอยู่
เริ่มตอนที่พระถังซัมจั๋งพาเห้งเจียออกมาจากภูเขาห้ายอดก็แล้วกันครับ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เดินทางไปเจอกับโจร 6 คน จะเข้าทำการปล้นพระถัง เห้งเจียขวางไว้แล้วพูดคุยถามชื่อแซ่ได้ความว่าโจรทั้ง 6 ชื่อ(แปลไทยแล้ว) คือ ตา, หู, จมูก, ลิ้น, กาย(ผิวสัมผัส), ใจ เห้งเจียได้ยินดังนั้นก็พูดขึ้นว่า “พวกเจ้าเป็นหลานเหลนของข้านี่เอง เจ้าปล้นอะไรมาได้เอามาแบ่งกับข้าแล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า” แต่โจรไม่ยอมให้จึงสู้กัน เห้งเจียเลยตีตายหมดเลย พระถังก็ไม่พอใจว่าเห้งเจียโหดร้ายเหลือเกิน ทั้งคู่เลยทะเลาะกันดังลั่นป่า เห้งเจียเลยเหาะหนีไปดื่มชากับพระยาเล่งอ๋องใต้บาดาล
สรุปตรงนี้ก่อน โจรทั้ง 6 นั่นเป็นการเปรียบถึง อายตนะ6 ก็คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ(ขอเรียกสั้นๆว่า “อายตนะ” ก็แล้วกัน) อายตนะเป็นที่ใช้รับรู้สิ่งรอบๆตัว ถ้าไม่มีอะไรเข้าไปจัดการแล้ว อายตนะก็เปรียบเสมือนโจรที่คอยปล้นสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รูป รส กลิ่น เสียง กายสัมผัส จนหลงติด(อารมณ์6) มามอมเมาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะเป็นการฆ่าชีวิตทางธรรม(ฆ่าพระถัง)ได้เลย เพราะมันคือ อวิชา(ความไม่รู้) อายตนะนั้นเป็นลูกหลานของปัญญา(เห้งเจีย) ที่เห้งเจียบอกว่า “ปล้นอะไรได้ ให้มาแบ่งกัน” ก็หมายถึง อายตนะที่ได้รับสิ่งต่างๆ ถ้าเอามาผ่านปัญญากลั่นกรองก่อนจึงจะนำมาเป็นความรู้ได้ จึงจะเกิดประโยชน์ได้ แต่เนื่องจากอายตนะยังเถื่อนอยู่นั่นเอง เห้งเจียจึงต้องตีตายเพื่อปกป้องพระถังเอาไว้ก่อน
การที่พระถัง(ขันติ) กับเห้งเจีย(ปัญญา) ต้องทะเลาะกันก็เพราะว่า ขันติ มักไม่ค่อยใช้ปัญญา เอะอะก็จะอดทนอดกลั้นอย่างเดียว ทน ทน ทน ทนอย่างเดียวไม่คิดแก้ปัญหาด้วยปัญญาเลย ทำให้ขันติที่ยังไม่ได้รับการขัดเกลาจึงไม่ลงรอยกับปัญญาที่ยังเถื่อนอยู่นั่นเอง เมื่อขันตินำหน้า ปัญญาจึงหลบไปจิบชาใต้บาลซะเลยไงล่ะ
แต่หลังจากนั้นเจ้าแม่กวนอิม(เมตตา)ก็ได้มาเตือนพระถังว่า “ถ้าไม่มีเห้งเจีย(ปัญญา)จะไปไม่ถึงไซที(นิพาน)” จึงมอบ “เสื้อคลุม และห่วงมงคล” แล้วจึงบอกว่าจะไปตามเห้งเจียกลับมา
เสื้อคลุม หมายถึง การเฝ้าดูจิตอยู่ตลอด ส่วนมงคล 3 ห่วงแทน ไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัน อนัตตา เมื่อเอามามัดรวมกันเป็นห่วงเดียวจะเป็น “สูญตา” เป็นห่วงกลมๆไว้ครอบหัวปัญญา เมื่อไหร่ที่ปัญญามันดื้อ มันคิดว่ามันเป็นเจ้าเหนือทุกอย่างยึดติดสิ่งต่างๆ ก็ให้ใช้ ไตรลักษณ์ นี่แหละคอยคุม คอยเฝ้าดูจิต จะได้ไม่ยึดติดเป็นอัตตาตัวตน(จะได้ใช้กันตามประโยชน์ใช้สอยด้วยปัญญา)
นี่เป็นการ “จับแก่น” ของวรรณกรรมเรื่องนี้ และการ “จับแก่น” นี้สามารถใช้ได้กับทุกสิ่งรอบตัวครับ เราจะนำสิ่งต่างๆมาเป็นความรู้ และรู้ถึงความนัยได้ นอกจากสนุกแล้วยังสามารถจับสาระได้มากกว่าคนทั่วไปด้วย จึงลองอ่าน เรียนรู้ สิ่งต่างๆรอบๆตัวแบบ “จับแก่น” ดูแล้วคุณจะได้อะไรมากกว่าที่เคยเห็น แต่การจะ “จับแก่น” ได้ก็จำเป็นต้องเรียนรู้การเชื่อมโยงจากการเรียนรู้จากคนที่ “จับแก่น” เป็นมาก่อน เช่นการอ่านหนังสือดีๆเพื่อยกระดับความคิดเป็นต้นครับ อย่างเรื่องที่นำมาเล่านี้ ท่าน “เขมานันถะ” เขียนไว้ในหนังสือ “ลิงจอมโจก” สามารถหามาอ่านกันได้ซึ่งอธิบายเรื่องไซอิ๋วไว้อย่างละเอียด แต่ผมขอแนะนำว่าให้อ่าน “ไซอิ๋วฉบับเต็ม” ให้จบก่อนครับ เพื่อความลึกซึ้งและสามารถร่วม “จับแก่น” ไปได้ด้วยตนเองต่อไปครับ
เรื่องราวก็ประมาณนี้แลครับ ต่อมั้ยครับ ดูถ้าจะยาวมากแล้ว ๕๕๕บวก ไว้ถ้าสนใจอย่างไรช่วยเม้นบอกกันหน่อยครับ แล้วผมจะย่อยใหัฟังต่อนะครับ ขอบคุณครับ

24 ธันวาคม 2563

การถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายบุ๋นและบู๊ในพงศาวดารจีน


 พงศาวดารจีนได้พูดถึงการถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายบุ๋นและบู๊เอาไว้เหมือนกันนะ

จำตอนขงเบ้งบัญชาการใหญ่ครั้งแรกได้มั้ยครับ ขงเบ้งซึ่งเป็นฝ่ายบุ๋นไม่มีกำลังจะไปบังคับใครได้ ขณะที่กวนอูเตียวหุยฝ่ายบู๊นั้นก็ไม่ยอมรับ คุยกันว่าถ้าสั่งอะไรมาจะไม่ทำ จะยึดอำนาจเลยด้วยซ้ำไป สิ่งที่ขงเบ้งทำเพื่อถ่วงดุลอำนาจคืออะไร? สิ่งที่ขงเบ้งทำก็คือ
ขอกระบี่อาญาสิทธิ์
จะเห็นว่าระบบการปกครองของจีนเมื่อหลายพันปีก่อน มีระบบระเบียบที่ชัดเจนและเคร่งครัด สมดุล ไม่ป่าเถื่อนตามกำลังอาวุธที่มี แต่มีระบบแบบอารยะ นี่คือการถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายบุ๋นต่อฝ่ายบู๊ ที่ต้องมีสิทธิ์อำนาจในการบัญชา
ระบบการเมืองการปกครองของประเทศก็ต้องออกแบบให้ถ่วงดุลอำนาจเช่นนี้เหมือนกัน
ฝ่ายสำนักงาน(บุ๋น)กำหนดออร์เดอร์ ฝ่ายโรงงาน(บู๊)จัดทำออร์เดอร์ งานจึงราบรื่น ประเทศก็เช่นกัน การถ่วงดุลอำนาจฝ่ายพลเรือน(บุ๋น)ต่อฝ่ายทหาร(บู๊)ก็ต้องเป็นไปในแบบเดียวกันนี้ อย่างที่กล่าวไว้เมื่อวาน
หนังสือคือขุมทรัพย์ ในพงศาวดารจีนสอดแทรกอะไรไว้มากมาย อ่านหนังสือโบราณขบคิดปัจจุบัน ก็สนุกไม่ใช่น้อยเลยนะครับ ในเรื่องนี้เราก็เข้าใจประมาณนี้นะ หากผิดพลาดประการใดขอวอนผู้รู้โปรดชี้แนะด้วยนะครับ ขอบคุณครับ 😇

23 ธันวาคม 2563

บุ๋นและบู๊ เป็นหน่วยงานที่มีคู่กันตลอด

ภาพถ่ายโดย JESHOOTS.com จาก Pexels

บุ๋นและบู๊ เป็นหน่วยงานที่มีคู่กันตลอด อาจแปลว่า ฝ่ายพลเรือน(บุ๋น)และฝ่ายทหาร(บู๊) และทั้งสองหน่วยงานนี้ต้องทำงานควบคู่กันไปจึงจะเกิดผลงานต่อแคว้นได้ จะมีแต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ หากเปรียบเป็นบริษัท บุ๋นก็คือฝ่ายออฟฟิศ บู๊ก็คือฝ่ายโรงงาน ออฟฟิศ(บุ๋น)กำหนดทิศทางและออร์เดอร์ โรงงาน(บู๊)รับออร์เดอร์แล้วดำเนินงาน ในงานใหญ่ย่อมขาดฝ่ายใดไม่ได้เลย โดยปกติ เรามักจะชื่นชอบคนสายบู๊ว่าเท่ห์ แต่เมื่อทำงานจริงมักนิยมบุ๋น(งานนั่งโต๊ะ) แม้กระทั่งคนที่เป็นสายบู๊ยังอยากมานั่งตำแหน่งสายบุ๋น ซึ่งเราน่าจะได้เห็นกันมาตลอดในรอบหลายปีนี้ว่า การใส่คนผิดประเภทหน้าที่ทำให้การดำเนินงานสับสนวุ่นวายขนาดไหน คนสายบู๊มานั่งตำแหน่งบุ๋น คนสายบุ๋นไร้ตำแหน่งเพราะถูกแย่งที่จากคนที่มีกำลังมากกว่า แคว้นจึงไร้ที่ปรึกษาและไร้ทิศทาง มีแต่การแก้ปัญหาตรงหน้าไปเรื่อยๆ ซึ่งหากไร้วิสัยทัศน์ การแก้ปัญหาตรงหน้าไปเรื่อยๆจะสร้างปัญหาใหม่มาเรื่อยๆด้วยเช่นกัน เช่น การแก้ปัญหาเล็กๆอันหนึ่งโดยไม่ยอมถอยเลย อยากชนะให้ได้ตลอด(บู๊) จนทำให้เกิดความย้อนแย้งในปัญหาใหญ่ของข้อกฎหมายตามมาในภายหลังได้ เป็นต้น จนปั่นป่วนและดูไร้มาตราฐานในแว่นแคว้นได้
อันที่จริง ฝ่ายบู๊จะมีความก้าวร้าวบ้างย่อมเป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่ฝ่ายบุ๋นต้องใจเย็นและขบคิด แล้วถ้าฝ่ายบู๊มานั่งตำแหน่งบุ๋นก็จะกระโชกโฮกฮ้าก เหมือนเอาเตียวหุยมาบัญชา เอาขงเบ้งไปเป็นพลทหาร พังกันหมด หากบุ๋นและบู๊ได้นั่งที่ของตัวเอง วัฏจักรก็จะเลื่อนไหลไปอย่างที่ควรจะเป็น ช้าเร็วไม่ว่ากัน แต่หากบุ๋นและบู๊ไม่ได้นั่งที่ตัวเองวัฏจักรย่อมติดขัด กลับหัวกลับหาง ย้อนแย้ง และแตกสลาย ในชีวิตก็เหมือนกัน ก่อนที่จะทำอะไร ต้องคิด(บุ๋น)ก่อนทำ(บู๊) ไม่ใช่หรือ เพราะหากทำ(บู๊)ก่อนคิด(บุ๋น) จะนำไปสู่ปัญหาต่อไปเรื่อยๆโดยไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร

จากสายงานในบริษัท ฝ่ายสำนักงาน(บุ๋น)กำหนดออร์เดอร์ ฝ่ายโรงงาน(บู๊)จัดทำออร์เดอร์ งานจึงราบรื่น ประเทศก็เช่นกัน การถ่วงดุลอำนาจฝ่ายพลเรือน(บุ๋น)ต่อฝ่ายทหาร(บู๊)ก็ต้องเป็นไปในแบบเดียวกันนี้

บุ๋นบู๊ หยินหยาง แจกแจงได้ไม่จบสิ้น ในหยินก็มีหยาง ในหยางก็มีหยิน แยกย่อยได้เรื่อยไป และต้องเป็นไปอย่างสมดุล ภาพรวมก็คงประมาณนี้ หากผิดพลาดประการใดก็ขอความกรุณาผู้รู้ช่วยแถลงไขด้วยนะครับ น้อมรับเสมอ ขอบคุณครับ 😇

20 ธันวาคม 2563

Goregrind - บทเพลงแห่งการบดขยี้ ภาค 2

จากที่ได้ทำบทความภาคแรกไปคราวก่อน บทเพลงแห่งการบดขยี้นี้มันมีอะไรที่ต้องพูดถึงอีกมายมายจากความรู้สึกเมื่อได้ฟัง บทเพลงทั่วไปจะเดินไปด้วยเนื้อร้องและทำนองที่พาเราไปตลอดเพลง แล้ววนซ้ำกลับมาท่อนฮุคที่ทำนองสวยงามโดดเด่น แต่ Goregrind หรือ Brutal death metal (ขอเรียกสั้นๆว่า Gore) นั่นก็อาจจะมีเนื้อร้องบ้างบางเพลง(ซึ่งอาจฟังไม่ออกเลย) แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแนวของอารมณ์เสียมากกว่า หากให้เปรียบเทียบจริงๆ โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกว่า Gore เป็นอีกขั้วหนึ่งของเพลง Classic ซึ่งเพลง Classic มักจะบรรเลงโดยไม่มีเนื้อร้อง มีตั้งแต่ธรีมโรแมนติกไปจนถึงสงครามอวกาศ(เช่น สตาร์วอร์) ในขณะที่ Gore ก็เช่นกันแต่เป็นธรีมที่สุดขั้วไปอีกขั้น อาจเรียกได้อีกอย่างว่า Extream classical music อันนี้ตั้งเองนะ ๕๕๕บวก เพราะไม่ว่าคุณจะฟังเพลง Classic หรือ Gore คุณจะเห็นเป็นเรื่องราวเหมือนกำลังดูภาพยนตร์ บางเพลงเห็นเป็นฉากๆ บางเพลงอาจแค่รู้สึกถึงอารมณ์ที่ค่อยๆคลี่คลายไปตามตัวเพลง โดยเพลง Gore จะเป็นแนวโหดๆ ไม่ว่าจะเป็นเสมือนหนังผี, ฆาตรกรรม, ฆาตรกรโรคจิต, มนุษย์กินคน, เอเลี่ยนบุกโลก, สัตว์ประหลาดหลุดจากแล็บ และความอุจาดอาจมต่างๆ ฯลฯ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ามันคืออีกแนวหนึ่งที่มีอยู่จริง และแนว Gore สร้างพล๊อตแนวนี้ออกมาได้อย่างมีมิติที่น่าสนใจ นี่คือความต่างจากเพลงทั่วไป(แต่คล้าย Classic) ที่มันให้ความรู้สึกและอารมณ์เหมือนดูภาพยนตร์ ซึ่งแต่เดิมในยุคที่ยังไม่มีภาพยนตร์ เพลง Classic สมัยก่อนก็ถูกแสดงในโรงละครไม่ต่างการไปดูภาพยนตร์ในโรงหนังของสมัยนี้เลย เพลง Gore มีอิสระที่จะใส่ลำนำและซาวด์ประกอบแปลกๆเพื่อดึงให้ธรีมเพลงโดดเด่นขึ้นไปอีก หลายคนที่ไม่คุ้นเคยอาจคิดว่ามีแต่เพียงดนตรีแบบ Metal หรือ Rock เท่านั้นที่ทำแบบนี้ จริงๆวงดนตรี Jazz เองก็มีเช่นกัน อย่างวง Naked City หากเป็นแนวอนิเมชั่นที่เราจัดให้อยู่แนว Gore ก็ต้องเรื่อง Happy tree friends
อีกเรื่องที่อยากพูดถึงคือสไตล์การแต่งตัว ถ้าเป็นแนวเพลงอื่นๆอย่าง Hip-Hop, Punk, Rock, Latin, Hard core, Metal, Death Metal, ฯลฯ จะมีสไตล์การแต่งตัวที่เห็นแล้วรู้ได้เลยว่าน่าจะเป็นแนวๆนั้น แต่สำหรับ Gore ซึ่งเป็นบเพลงที่หนักหน่วงที่สุดในพิภพ ณ ขณะนี้ น่าจะแต่งตัวโหดยิ่งกว่า Death Metal หรือ Hard core ใช่มั้ย แต่ไม่ใช่เลย นักดนตรี Gore ส่วนใหญ่แต่งตัวปกติธรรมดา เสื้อยืดกางเกงยีนส์ บางทีใส่ขาสั้นสวมหมวกแก๊ป ไม่มีใครรู้เลยว่าพวกเขาเล่นเพลงหนักหน่วงขนาดไหน อาจเผลอคิดไปว่าพวกเขาเป็น DJ ในคลับก็เป็นได้ แต่ลายพิมพ์บนเสื้ออาจบอกใบ้อยู่บ้างเหมือนกัน เพราะ Gore นั่นขยายกว้างออกไปไม่ใช่แค่เสียงเพลง แต่รวมไปถึง Artwork หน้าปกอีกด้วย เป็นงานศิลป์ที่ทำออกมาจากอย่างตั้งใจ แม้ภาพจะดูโหดแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันวาดได้สวยจริงๆ ทำให้มีเสื้อลวดลาย Gore ออกมาจำหน่ายควบคู่ไปกับเพลง ซึ่งเห็นได้จากเพื่อนใกล้ตัวที่เป็นสาย Gore แบบเต็มสูบ ฟังเพลงโหดแต่เขาก็ไม่ได้โหดร้ายอะไรเลย เป็นคนเรียบร้อยและใจดีซะด้วยซ้ำไปครับ

การฟังเพลงก็เพื่อความบรรเทิง Gore เองก็เป็นความบรรเทิงอย่างหนึ่ง มันไม่ใช่ความโหดร้าย แต่มันคือความสนุกในอีกแนวหนึ่งที่แปลกออกไปก็เท่านั้นเอง ถ้าเรียกดนตรี Gore ว่าวงออเครตร้าได้ นักร้อง Gore ต้องคือนักโอเปร่าดีๆนี่เอง และอาจได้เห็นการสร้างสรรค์มากมายอยู่ในนั้น
การหัดฟังเพลง Gore ก็เหมือนการหัดฟังเพลง Classic ครั้งแรก ที่หลายคนรู้สึกเบื่อหน่าย แต่ให้ตระหนักไว้ว่า เราอย่าหาเพลงแต่ต้องให้เพลงหาเรา ให้ฟังไปเรื่อยๆอย่างกว้างขวาง แล้วเราจะเจอเพลงและธรีมที่ถูกโฉลกกับเราเอง
แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยก็คือ เพลง Gore ใช้ฟังเพื่อระบายโทสะได้เป็นอย่างดีเลย ถ้าเครียดกับงาน หรือปวดหัว ลองฟัง Gore มันอาจช่วยคุณได้นะ (สรรพคุณชักจะเยอะเกินไปแล้วแฮะ เดี๋ยวจะกลายเป็นยาผีบอกไปอีก ๕๕๕บวก)

เมื่อหยินสุดขั้วก็กลายเป็นหยาง เหมื่อหยางสุดขั้วก็กลายเป็นหยิน เพลง Gore ก็กลายเป็น Classic เฉย ๕๕๕บวก เอาเถอะครับ ลองไปฟังกันดู เปิดโลกพอสมควรเลยทีเดียวล่ะครับว่า มีเพลงแบบนี้อยู่ในโลกด้วยเว้ยเฮ้ย!

งั้นมาลองฟังกันดูว่าคุณเห็นฉากอะไรในบทเพลงชุดนี้บ้าง


อรรถรสใช่มั้ยล่า!!!

15 ธันวาคม 2563

เมื่อคิดว่าตัวเองเก่งพอแล้ว

เมื่อคิดว่าตัวเองเก่งพอแล้ว จะเจอเหตุการณ์ที่บอกเราว่าเรายังไม่เก่งพอ จึงสั่งสมฝีมือ เมื่อเริ่มคิดว่าเก่งพอแล้ว ก็จะเจอเหตุการณ์ที่บอกเราว่าเรายังไม่เก่งพอ จึงสั่งสมฝีมือ วนลูปอยู่แบบนี้เพราะเกรงว่า "ยังเก่งไม่พอ" "รอให้เก่งกว่านี้ก่อน" จนไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย แล้วเมื่อไหร่เราจะเก่งที่สุดนะ? ในเมื่อคนเราพัฒนาขึ้นได้ทุกวัน วันหนึ่งจึงตกผลึกได้ว่า อันที่จริงเราแค่ทำให้สุดฝึกมือ ณ ขณะนี้ก็พอ แต่นอนว่าคราวหน้าเราอาจทำได้ดีกว่านี้ แต่นั่นเป็นเรื่องของคราวหน้า หากเราทำสุดฝีมือแล้ว แม้มีข้อผิดพลาดแต่เราจะไม่เสียใจ แล้วก้าวเดินไปพร้อมกับผลงานที่เติบโตตามช่วงชีวิต

ถ้าเราไม่โพสต์บทความนี้ แล้วแก้ไขไปเรื่อยๆจนถึงวันสุดท้ายของชีวิตบทความนี้ก็อาจจะดีกว่านี้ แต่มันก็เท่านั้น
ก็ผลงานที่ไม่เคยแสดงดีที่สุดเสมอ เพลงที่ไม่บรรเลงเพราะที่สุดเสมอ เพราะผลงานที่สมบูรณ์แบบไม่เคยถูกสร้าง ผลงานที่ถูกสร้างไม่เคยสมบูรณ์แบบ

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านทำอย่างสุดฝีมือ "ณ ขณะนี้"😇

03 ธันวาคม 2563

พิชัยสงครามสุมาอี้

พิชัยสงครามสุมาอี้

การทัพหลักใหญ่มีห้า: รบได้ก็รบ, รบไม่ได้ก็กัน, กันไม่ได้ก็หนี, หนีไม่ได้ก็ยอม, ยอมไม่ได้ก็ตาย.

軍事大要有五:能戰則戰,不能戰則守,不能守則走,不能走則降,不能降則死。

=======
สั้นกระชับแต่กินความมาก ถูกกล่าวไว้ในพงศาวดารสามก๊กตอนที่สุมาอี้ยกทัพไปรบกองซุนเอี๋ยน ในสามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน)ตอนที่ 79 ได้ให้ความไว้ว่า

สุมาอี้จึงตอบว่า อันธรรมดาการสงครามนี้มีอยู่ห้าประการ ประการหนึ่งเห็นว่าจะต้านทานได้ก็ให้คิดออกมารบพุ่งจงสามารถ ประการหนึ่งถ้าเห็นสู้มิได้ก็อย่าออกมารบพุ่งให้รักษาเมืองจงมั่นคง ประการหนึ่งถ้ารักษาเมืองไว้ไม่ได้ให้หนีเอาตัวรอด ประการหนึ่งแม้ไม่หนีก็ให้ออกมาอ่อนน้อมโดยดีจะมีชีวิตสืบไป ประการหนึ่งถ้าไม่ออกมาอ่อนน้อมโดยดีก็ควรที่จะตาย

ซึ่งชัดเจนและเห็นภาพได้เป็นอย่างดี

สามก๊กเป็นพงศาวดารที่ยอดเยี่ยมครบรส ควรค่าแก่การครอบครองและอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก การอ่านพงศาวดารจะทำให้เราเห็นภาพของความเปลี่ยนแปรและความเป็นไปในระยะยาวได้เป็นอย่างดี ซึมซับทีละเล็กทีละน้อยจากเรื่องเล่าที่สนุกชวนติดตาม เข้าใจได้โดยไม่ต้องท่องจำ ลองอ่านจากบทความที่เราเคยเขียนไว้ในประโยชน์ของการอ่านพงศาวดารจีนฯ แต่ประโยชน์ของการอ่านมีมากมาย ไม่ว่าจะอ่านหนังสืออะไรก็ขอให้เราอ่านอย่างมีความสุขนะครับ

14 พฤศจิกายน 2563

ประโยชน์ของการอ่านพงศาวดารจีน และเกร็ดความรู้เรื่องห้องสิน


ห้องสิน เป็นพงศาวดารในช่วยสมัยของปลายราชวงศ์ซางสู่การก่อตั้งราชวงศ์โจว เป็นเรื่องราวในช่วง 1,600 ปีก่อน ค.ศ. อยู่ในช่วงยุคสำริดของจีน เพิ่งพ้นช่วงยุคหินใหม่มาไม่นาน ยังไม่มีเหล็กใช้

ในยุคปลายราชวงศ์ซางติวอ๋อง ปล่อยตัวไปกับการร่ำสุรานารี ละเลยศีลธรรมจรรยา ละทิ้งราชกิจการเมือง ถึงขนาดจัดการร่วมเพศหมู่เป็นประจำเพื่อให้ผู้คนมามั่วสุมกระทำลามกต่างๆร่วมกัน ทั้งยังมักประพันธ์เพลงกลอนหยาบช้าอนาจาร ชอบสั่งฆ่าคนด้วยวิธีการอันทารุณเพื่อความบรรเทิง เช่น จับนาบเสาทองแดงร้อน จับโยนบ่องู ฯลฯ เก็บภาษีเกณฑ์แรงประชาชนมากมายเพื่อไปสร้างวังหลวงอย่างหรูหรา ความเสเพลนี้ นำไปสู่การโค่นล้มโดยราชวงศ์โจว 

ในเรื่องได้พูดถึงกองทัพสองฝ่ายต่อสู้กัน โดยฝ่ายราชวงศ์โจวมีเหล่าเทวดามาช่วย ฝ่ายราชวงศ์ซางมีสัตว์มีฤทธิ์หรือปิศาจมาช่วย เมื่อตีความแล้วน่าจะเป็นการเปรียบเปรยถึงระดับจิตของคน ที่ฝ่ายนึงมาด้วยจิตใจเหมือนเทวดาอยากช่วยมนุษย์ แต่อีกฝ่ายเป็นเหมือนเดรัจฉานที่หิวอำนาจเท่านั้น แต่เรื่องระดับจิตก็ไม่เกี่ยวกับความสามารถ เพราะสัตว์มีฤทธิ์ก็ยังฆ่าเทวดาได้ เทวดาแพ้และตายเป็นเบือเหมือนกัน ทั้งยังเป็นการบอกว่าคนศีลเสมอกันก็ย่อมอยู่ด้วยกัน เมืองของราชวงศ์ซางมีปิศาจมามีอำนาจบริหารบ้านเมืองก็มีแต่ความปั่นป่วนวุ่นวาย ไม่เป็นสุขเลย คนดีถูกฆ่าบ้างขับไล่บ้าง อยู่ไม่ได้จนต้องลี้ภัยไปเมืองของราชวงศ์โจว ราชวงศ์โจวจึงมีเทวดามากมาย ส่วนราชวงศ์ซางจึงเหลือแต่สัตว์ที่คอยสอพลอ จึงต้องฝ่ายแพ้ไปในที่สุด ศึกนี้ราชวงศ์ชางพ่ายแพ้ราบคาบ

เนื่องจากเป็นยุคสำริด อาวุธที่ใช้เช่น กระบองเหล็ก ก็น่าจะเป็นสำริดหรือไม่ก็ทองแดง กระบองหยกนี่ก็เป็นหิน ซึ่งน่าจะมีจริง เพราะชนเผ่าเมารีของนิวซีแลนด์ก็ใช้กระบองหยกเป็นอาวุธด้วย ในเรื่องยังมีศิลาวิเศษที่ใช้ทิ้งใส่กัน นั่นก็น่าจะเป็นการปาก้อนหินใส่กันนั่นเอง เป็นการทำสงครามด้วยอาวุธที่ดั้งเดิมมากๆ ยังไม่นับไสยเวทย์ที่ทำใส่กันในการสงครามอีกมากมายที่เป็นเรื่องเล่าขานเพราะไม่มีใครรู้ว่าอีกฝ่ายทำได้อย่างไร

การอ่านพงศาวดารจีน เป็นการเรียนรู้ผ่านการเล่า ซึ่งเป็นวิธีเรียนรู้ที่ดีที่สุดของมนุษย์ นอกจากจะได้เรียนรู้ทางประวัติศาสตร์แล้ว มันยังถูกเขียนขึ้นบนพื้นฐานทางปรัชญาอีกด้วย เนื้อหาจะเป็นเรื่องจริงแค่ไหนจึงไม่ใช่สิ่งสำคัญอันดับแรก การได้เห็นความผันแปรของสรรพสิ่งที่ย้ำเตือนอยู่ในพงศาวดารเหล่านี้ต่างหากคือประโยชน์ เป็นการได้เรียนรู้แบบซึมซับจากกรณีศึกษา การได้เห็นวิสัยทัศน์ระยะยาวนับสิบปี ร้อยปี พันปี เหมือนคนที่มีสายตาผ่านยุคสมัยมานับพันปีจากการศึกษาพงศาวดารจีน ซึ่งเป็นได้ไปยากในช่วงชีวิตคนหนึ่งที่จะเห็นได้เอง คนต้นเรื่องไม่มีใครได้เห็นบั้นปลาย แต่คนที่อ่านได้เห็นทั้งหมด มันช่วยให้คิดเชื่อมโยงการกระทำตั้งแต่ต้นจนปลายได้ จึงทำให้มีวิสัยทัศน์ที่กว้างใกล้ คิดได้ทั้งระยะสั้นและยาว นับประสาอะไรหากได้อ่านพงศาวดารทั้งหมด 5,000 ปี อีกเล่า! การได้อ่านด้วยสายตาแห่งการศึกษาไปเรื่อยๆ จะเห็นวงรอบของการผันแปรที่เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรื่องราวทั้งหมดก็เหมือนเล่าเรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมาแค่เปลี่ยนฉากและตัวละคร แต่การได้อ่านถึงแก่นเดิมโดยเปลี่ยนกรณีศึกษาไปเรื่อยๆนี่แหละจะทำให้องค์ความรู้เหล่านี้ซึมซับเข้าไปอยู่ในระบบความเข้าใจเองได้โดยอัตโนมัติในหลายมิติ จนเป็นสัญชาตญาณ

ไม่แน่ว่าถึงจุดนึง ท่านอาจจะเห็นอนาคตที่กำลังวนซ้ำกลับมาเกิดขึ้นก็ได้ แล้วเตรียมพร้อมรับมืออย่างเหมาะสม

=======
ติดตามเพจห้องสมุดตามใจกันไว้ให้ดีครับ ช่วงนี้จะนำเอาแก่นความคิดจากพงศาวดารจีนมาลงให้ได้อ่านและขบคิดกันไปเรื่อยๆครับ
ขอบคุณมากครับ

https://www.pxfuel.com/en/free-photo-qxwwn

=======
อ่านห้องสินออนไลน์ https://vajirayana.org/%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99

รายชื่อพงศาวดารจีนตามลำดับราชวงศ์กษัตริย์จีน(ตามเนื้อเรื่อง)ที่ได้รับการแปลเป็นไทยแล้ว

03 กันยายน 2563

夏桑菊 XiaSangJu - เซียซางจู เครื่องดื่มสมุนไพรมากประโยชน์

ส่วนผสมของเซียซางจู

夏桑菊 Xiàsāngjú หรือที่เรียกกันว่า เซียซางจู เป็นสูตรที่คิดค้นโดย อู๋จูทง(吳鞠通) ในสมัยราชวงศ์ชิง ซึ่งยาสูตรนี้มีบทบาทอย่างมากในช่วงที่เกิดโรคระบาดที่ประเทศจีนในมณฑลเจียงซูและเจ้อเจียงช่วง ค.ศ. 1814
ในปี ค.ศ. 2007 นักวิจัยจาก Hong Kong University of Science and Technology พบสารประกอบที่อาจช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของ H5N1(ไข้หวัดนก) และโรคไข้หวัดได้ เป็นเครื่องดื่มสมุนไพรฤทธิ์เย็น ประกอบด้วยสมุนไพร 3 ชนิด คือ

夏枯草 แห่โกวเช่า (เซี่ยคูเฉ่า, Self-heal, Heal-all, Prunella vulgaris) 4-8 กรัม
野菊花 เก๊กฮวยป่า (Chrysanthemum lavandulifolium) 3-6 กรัม
冬桑葉 ใบหม่อน (Mulberry leaf) 2-4 กรัม

สามารถเพิ่มลดได้ตามสัดส่วน(4:3:2) หรือปรับปริมาณสมุนไพรได้ตามความเหมาะสมของแต่ละคน
เอาสมุนไพรทั้งหมดมาล้างน้ำเสร็จแล้ว นำมาแช่น้ำให้พองประมาณ 15-30 นาที จากนั้นขึ้นเตาตั้งไฟแรงให้เดือด แล้วลดเป็นไฟอ่อนต้มต่ออีกประมาณ 30 นาที กรองเอาน้ำมาดื่ม ใส่หรือไม่ใส่น้ำตาลก็ได้ตามชอบ
ต้มซ้ำได้ ลดน้ำลงครึ่งหนึ่ง

สรรพคุณ
ชำระร้อนในตับทำให้การมองเห็นสว่างขึ้น บำรุงสายตา ขับลมกระจายร้อน ขจัดชื้น ปวดชา ถอนพิษ ทำให้สดชื่น
แก้ร้อนใน แก้เจ็บคอ แก้ไอ(เสมหะหนา เหนียว เหลือง) เสริมภูมิคุ้มกันและบรรเทาไข้หวัด(ร้อน) ลดความดันโลหิต แก้วิงเวียน แก้ปวดหัว แก้หูอื้อ แก้ตาแดง ลดบวม แก้ปวดตา กลัวแสง กลัวลม ฯลฯ
แก้โรคเริมที่ริมฝีปาก(Oral herpes, HSV-1)ที่เกิดจากลมร้อน ชำระความร้อนในปอด เป็นสูตรอ่อนโยนสำหรับโรคผิวหนังหรือโรคปอดที่เกิดจากลมร้อน

ปัจจุบันมีขายเป็นซองเกล็ดละลายน้ำดื่ม ชงง่าย ไม่ต้องต้ม

ต้มสดสรรพคุณแน่น
นุ่ม หอม สัมผัสละมุน รสกลมกล่อม คล่องคอ

🛒สั่งซื้อชุดสมุนไพรเซียซางจูสำหรับต้มได้ที่ shopee https://shopee.co.th/product/83249973/14091969509?smtt=0.83251451-1661788722.9
🛒สั่งซื้อเซี่ยซางจูแบบผงชงได้ที่ https://shope.ee/8UljycMvg4

เซียซางจู อาจรู้จักอีกชื่อว่า ซางจูหยิน(桑菊飲 Sang Ju Yin) อาจมีการปรับสูตรเพิ่มเติมแตกต่างกันไปจากสูตรหลักนี้ได้

อ้างอิงและศึกษาเพิ่มเติม
https://baike.baidu.com/item/%E5%A4%8F%E6%A1%91%E8%8F%8A

Five Flower Tea - ชาห้าบุปผา - 五花茶


ไปเจอชาดอกไม้ชุดนึงน่าสนใจ เป็นชาดอกไม้ 5 ชนิด ยังไม่เห็นแบบสำเร็จรูปในประเทศไทย คงต้องจัดชุดตามร้านยาจีนทั่วไป ใช้ปริมาณเท่าๆกันหรือตามชอบ เหมาะสำหรับดื่มในฤดูร้อน

五花茶 ชาห้าบุปผา

ประกอบด้วย
金銀花 ดอกสายน้ำผึ้ง
菊花 เก๊กฮวย
槐花 ไฮว่ฮวย(Sophora japonica linne)
木棉花 บักมีฮวย(ดอกงิ้วแดง)
雞蛋花 ดอกลีลาวดี

สรรพคุณ
ชำระร้อนตับ ขจัดไฟหัวใจ ดับร้อนขจัดชื้น



อ้างอิง
https://baike.baidu.com/item/%E4%BA%94%E8%8A%B1%E8%8C%B6

ดนตรีบำบัดตามหลักปรัชญาจีน

เราเคยนำเสนอบทความ Solfeggio Frequency - ความถี่บำบัด ซึ่งเป็นไปตามหลักของตะวันตก บทความนี้เราจะมาพูดถึงดนตรีบำบัดในทางปรัชญาตะวันออก ซึ่งก็คือปรัชญาจีนกันบ้าง
ในปรัชญาจีนนั้นมีหลักห้าธาตุ(五行)ที่ใช้ในการวิเคราะห์สิ่งต่างๆแนวทางการก่อกำเนิดและการข่ม
ไม้กำเนิดไฟ ไฟกำเนิดดิน ดินกำเนิดทอง(โลหะ) ทองกำเนิดน้ำ น้ำกำเนิดไม้
ไม้ข่มดิน ดินข่มน้ำ น้ำข่มไฟ ไฟข่มทอง ทองข่มไม้

ห้าธาตุ 木ไม้ 火ไฟ 土ดิน 金ทอง 水น้ำ
 กำเนิดและข่ม

หลักการจำส่วนตัวของเราคือ
ไม้เป็นเชื้อไฟจึงกำเนิดไฟ ไฟเมื่อเผาไหม้เป็นขี้เถ้า(ดิน)จึงกำเนิดดิน ดินทับถมกันเกิดแร่ธาตุ(ทอง)จึงกำเนิดทอง ทองเมื่อละลายเป็นของเหลว(น้ำ)จึงกำเนิดน้ำ น้ำหล่อเลี้ยงให้ต้นไม้เติบโตจึงกำเนิดไม้
ไม้ลงรากชอนไชดินจึงข่มดิน ดินกักน้ำในบ่อไว้ได้จึงข่มน้ำ น้ำดับไฟจึงข่มไฟ ไฟหลอมทองได้จึงข่มทอง ทอง(โลหะ)นำมาทำเป็นขวานฟันตัดต้นไม้ได้จึงข่มไม้

ซึ่งอารมณ์ อวัยวะภายใน และสรรพสิ่งต่างๆก็ถูกแทนค่าด้วยห้าธาตุเหล่านี้
ไม้ = โกรธ ตับ เปรี้ยว ฯลฯ
ไฟ = ดีใจ หัวใจ ขม ฯลฯ
ดิน = คิดมาก ม้าม หวาน ฯลฯ
ทอง = เศร้า ปอด เผ็ด ฯลฯ
น้ำ = กลัว ไต เค็ม ฯลฯ

หลักการใช้อารมณ์คุมอารมณ์ เช่น ใช้หลักข่มเข้าไปจัดการ เช่น หากโกรธ(ไม้)มากเกินไป ก็ใช่ตัวข่มคือเศร้า(ทอง) เข้าไปขจัดความโกรธ เช่น เล่าเรื่องเศร้าให้คนโกรธฟังเพื่อคลายความโกรธ เป็นต้น แต่ต้องไม่มากเกินไปจนกลายเป็นข่มเกิน หรือนำไปปรับใช้แบบการกำเนิดก็ได้

โน้ตดนตรีก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับอารมณ์ในหลักห้าธาตุเช่นกัน สามารถมาใช้บำบัดได้ เพียงใช้กำเนิดหรือข่มให้เหมาะสมกับอาการ ซึ่งโน้ตดนตรีจีนมีห้าตัวคือ

เสียง 宮(กง) ธาตุดิน(土) โน้ตตัวโด(C)
มีลักษณะเสียงจม สงบ ทำนองเดียว ให้ความรู้สึกแน่นแต่กว้าง มีอิทธิพลต่อม้าม
เสียง 商(ซัง) ธาตุทอง(金) โน้ตตัวเร(D)
มีลักษณะเสียงสูงก้องกังวาน ละม้ายเสียงโลหะกระทบกัน มีอิทธิพลต่อปอด ให้ความรู้สึกเศร้าแต่มีพลัง[ซึ้ง?]
เสียง 角(เจ๋ย์) ธาตุไม้(木) โน้ตตัวตัวมี(E)
มีลักษณะเสียงมีชีวิตชีวา เบิกบาน และปลอดโปร่งราวไม้ผลิใบ ดอกตูมคลี่กลีบ มีอิทธิพลต่อตับ
เสียง 徵(จรือ) ธาตุไฟ(火) โน้ตตัวซอล(G)
มีลักษณะเสียงอบอุ่น คึกคัก มีชีวิตชีวาแต่ก็สบายๆ ไล่ระดับชัดเจน มีอิทธิพลต่อหัวใจ
เสียง 羽(อี่ว์) ธาตุน้ำ(水) โน้ตตัวลา(A)
มีลักษณะเสียงสะอาดบริสุทธิ์ นุ่นนวล ให้ความรู้สึกวิเวกวังเวงและเศร้าสลด มีอิทธิพลต่อไต

*โน้ตจีนไม่มี ฟา(F) และ ที(B)

และแต่ละโน้ตแบ่งเป็นหยินหยาง(陰陽)
หยิน(陰)  เบา ช้า เย็น เป็นต้น ใช้รักษาอาการพร่อง ร้อน ภายใน เป็นมาเรื้อรัง
หยาง(陽) ดัง เร็ว ร้อน เป็นต้น ใช้รักษาอาการแกร่ง หนาว ภายนอก เกิดขึ้นเฉียบพลัน

ดังนั้นโน้ตจึงมี 10 แบบ คือ ดินหยิน ดินหยาง ทองหยิน ทองหยาง ฯลฯ
ใช้ทำนอง “หยิน” ในโรค “หยาง” (หยางแกร่ง,หยินพร่อง)   และใช้ทำนอง “หยาง” ในโรค “หยิน”(หยินแกร่ง,หยางพร่อง)

เปิดฟังวันละ 2-3 ครั้ง   ครั้งละ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง 10 นาที   ในห้องเงียบๆ เป็นส่วนตัว หรือใส่หูฟัง ขณะที่กำลังบำบัดปล่อยให้เพลงที่เลือกไว้เล่นไปเรื่อยๆ ไม่ควรปรับเปลี่ยนเพลงตามใจชอบยกเว้นว่าเกิดความเบื่อหน่าย

การเลือกใช้ก็อาศัยหลักกำเนิดและข่มของธาตุต่างๆตามหลักห้าธาตุ เลือกคีย์เพลง ลักษณะเสียง หรือโน้ต(ธาตุ)ที่เหมาะสม และเลือกทำนองช้าเร็ว ดังเบา(หยินหยาง)ที่เหมาะสม ส่วนตัวมองว่าหากไม่รู้ถึงโน้ตหรือคีย์ที่ใช้อาจเลือกจากลักษณะเสียงของธาตุนั้นๆก็ได้ หรือจะปรับใช้โน้ตความถี่ของ Solfeggio Frequency - ความถี่บำบัด ก็น่าสนใจไม่น้อย

ตัวอย่าง การนำไปใช้เบื้องต้น
คนที่รู้ตัวว่าเกิดโทสะง่าย   จนอาจมีอาการแน่นที่หัวใจหรือศีรษะ   แสดงถึงภาวะ “หยาง” ตับกระแทกด้านบน   ก็อาจจะเลือกเพลงที่เน้นโน้ตตัวซอล   หรือมีเครื่องดนตรีที่ก่อเสียงคล้ายโลหะกระทบกัน   หรือมีเสียงสูงก้องกังวาน   ในทำนองที่เนิบช้า   เพราะเสียงเหล่านี้จัดเป็นธาตุ “ทองหยิน” ข่มความโกรธที่เป็นธาตุไม้
แต่ถ้าหากมีอาการอึดอัด   แน่น   ถอนหายใจบ่อย   แสดงถึงภาวะชี่ของตับอุดตัน   ก็ต้องใช้เพลงที่เน้นโน้ตตัวมี   ในทำนองรื่นเริง   เร็ว   ที่สามารถระบายตับปรับชี่มาฟังร่วมกับโน้ตตัวซอล

ในภาษาจีนคำว่า ดนตรี คือ 樂 และ ยารักษาโรค คือ 藥 จะเห็นว่าคำว่ายานั้นมีการเติมสัญลักษณ์ 艹 หญ้าสมุนไพร บนคำว่า ดนตรี แสดงให้เห็นว่าในทางปรัชญาจีน ดนตรีก็เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาโรค นับเป็นความเชื่อที่มีมาอย่างยาวนานนับพันๆปีมาแล้ว
จะเห็นได้ว่าปรัชญาจีนนั้นแฝงอยู่ในทุกสิ่ง แม้กระทั่งความถี่เสียง ทุกสรรพสิ่งสามารถแยกแยะเป็นห้าธาตุและหยินหยางได้หมด ทั้งยังสามารถใช้หลักกำเนิด/ข่มในแบบเดียวกันได้ด้วย เพื่อเข้าใจการเปลี่ยนแปลง การนำไปใช้จึงจำเป็นต้องศึกษาปรัชญาจีนเพิ่มเติมเพื่อตีความอย่างเหมาะสมต่อไป ทั้งห้าธาตุและหยินหยาง

แถม

30 กรกฎาคม 2563

Swype การพิมพ์แบบกวาด มาตราฐานการพิมพ์แบบสัมผัส

ภาพหน้าจอ
การพิมพ์แบบ Swype หรือการพิมพ์แบบกวาด/ปาด เป็นการพิมพ์โดยไม่ต้องกดแป้นพิมพ์ทีละปุ่ม แต่เป็นการปาดนิ้วผ่านปุ่มที่ต้องการกดทั้งหมดแทน ตัวระบบจะประมวลผลคำออกมาให้เราเอง เป็นการปาดแบบคำต่อคำ ซึ่งเราเห็นว่ามีข้อดีอยู่ 3 ประการ เร็ว สนุก และจอกว้างขึ้น

  1. เร็ว ไม่ต้องจิ้มทีละตัว แค่ปาดผ่านตัวอักษรทั้งหมดนั้น ทั้งไม่ต้องกด Shift เลย ระบบจะรู้เอง โดยคนที่พิมพ์สัมผัสเป็นจะรู้ตำแหน่งที่ต้องปาดนิ้วผ่านได้ทันที แต่หากเพิ่งใช้อาจต้องฝึกซักแป๊บนึงเพราะนึกตำแหน่งไม่ทัน แต่เมื่อเป็นแล้วจะเร็วเหมือนพิมพ์สัมผัส เร็วได้เท่าที่จะปาดนิ้วได้
  2. สนุก ปาดนิ้วไปมาเหมือนร่ายเวทย์มนตร์ แล้วคำก็ปรากฎ ทำให้แชทสนุกขึ้นเยอะ พิมพ์งานบนมือถือก็ง่ายดาย
  3. จอกว้างขึ้น เนื่องจากการพิมพ์ปาดไม่ต้องเล็ง จึงสามารถตั้งค่าคีย์บอร์ดให้เล็กที่สุดได้ ยิ่งเล็กก็ยิ่งเร็วขึ้นเพราะระยะใกล้ยิ่งขึ้น เมื่อคีย์บอร์ดเล็กพื้นที่จอก็กว้างยิ่งขึ้นไปอีก
เราจึงมองว่าระบบ Swype ควรเป็นมาตราฐานใหม่ของการพิมพ์แบบสัมผัส ปาดได้สนุกรวดเร็วแม้หากต้องพิมพ์คำเฉพาะก็ยังสามารถจิ้มทีละปุ่มได้เหมือนเดิมและแม่นยำด้วย แต่แอปที่พิมพ์ Swype ภาษาไทยได้ยังมีไม่มาก แต่มีตัวนึงที่ใช้แล้วดีและฟรีคือ Gboard เป็นคีย์บอร์ดของ Google ปัจจุบันพัฒนาได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก ต้องลองใช้กันดูครับ ซึ่งใน Gboard เรียกระบบ Swype ว่า Glide typing

แล้วคุณจะรู้สึกสึกราวกับเป็นจอมเวทย์ที่เสกอักษรบนมือถือด้วยการร่ายไม้กายสิทธิ์ ก็ปลายนิ้วของคุณนั่นเอง



นี่โปรโมทแบบไม่ได้รับจ้างมานะ ใช้แล้วชอบจริงๆ แต่ก็ ถ้าทาง Google มาเห็นแล้วอยากจะร่วมบริจาคสนับสนุนบล๊อกเราก็ได้นะ อิอิ ก็ของเขาดีจริงๆนะ ๕๕๕บวก

16 กรกฎาคม 2563

ชวนเล่น NetHack เกม RPG ในตำนาน



nethack /เน็ตแฮ็ก/ คำนาม

[Unix] เกมดันเจี้ยนที่คล้ายกับเกมโร้ค(rogue) แต่มีความซับซ้อนมากกว่า แจกจ่ายในรูปแบบภาษา C ผ่านทาง Usenet และเป็นที่นิยมมากในฝั่ง Unix และเครื่อง PC-class (nethack น่าจะเป็นเกมที่มีการแจกจ่ายอย่างกว้างขวางที่สุดของเกมประเภท freeware dungeon games) รุ่นแรกสุดเขียนโดย Jay Fenlason และต่อมาได้รับการปรับปรุงขนานใหญ่โดย Andries Brouwer ตอนนั้นเรียกว่า 'hack' เมื่อได้รับการจัดการดูแลโดยกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่จัดตั้งโดย Mike Stephenson ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น 'nethack' ขณะนี้มีเว็บไซต์อย่างเป็นทางการที่ https://www.nethack.org/
ดูเพิ่มเติมที่ moria, rogue, Angband

แปลและเรียบเรียงโดย กนกเกียรติ หริรักษ์หรรษา

ย้อนกลับไปในยุคที่จอคอมฯยังไม่มีชิป 3DFX มีแต่จอที่ดำมืดและเคอร์เซ่อร์อันลึกลับ ในตอนนั้นได้มีผู้ค้นพบการควบคุมอักขระให้เคลื่อนที่ได้ มีการพัฒนาเรื่อยมาจนกลายเป็นเกม ซึ่งเกมในยุคนั้นจะมีด่านต่างๆที่ตายตัว เล่นกี่รอบก็เหมือนเดิม ทำให้เบื่อ จึงเกิดแนวคิดการสร้างเกมแบบสุ่มขึ้น ทุกครั้งที่เล่นใหม่แผนที่ในเกมจะถูกสร้างขึ้นใหม่ทุกครั้ง แม้แต่ผู้สร้างเองก็คาดเดาไม่ได้ ทำให้ลดความซ้ำซาก และเล่นซ้ำได้ไม่มีเบื่อ โดยใช้ระบบการคำนวณจากเกมกระดาน Dungeons & Dragons พัฒนาเรื่อยมาจนกลายเป็นเกม NetHack ในปี 1987 และยังคงพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน

NetHack เป็นเกมแนว Turn-based RPG รับภารกิจลงไปยังเขาวงกตแห่งภยันตราย(Mazes of Menace) เพื่อนำเอา Amulet of Yendor ที่อยู่ลึกลงไปในเขาวงกตแห่งนี้ออกมามอบให้แก่เทพที่เรานับถือ

ระบบเกมมีความละเอียดและความซับซ้อนสูงมาก สามารถทำอะไรได้หลายๆอย่างในเกม เช่น ขี่สัตว์เลี้ยง, กินซากศพ, สวดมนตร์, กินเทียน(กินทำไม?) ฯลฯ และยังถูกยกให้เป็นเกมที่ยากที่สุดในโลก ยากระดับร้องกรี๊ด ยากระดับขุมนรก! มีสปอยล์(บทสรุป)นับพันๆหน้า แต่ก็ยังคงยาก เพราะด่านสุ่มใหม่ทุกครั้ง ทั้งเซอร์ไพร์ที่ไม่อาจคาดเดา ต้องขบคิดทางหาเอาเอง แต่การรู้มุขของเกมก็พอทำให้ได้หายใจหายคอบ้าง

แม้คอมฯในปัจจุบันจะมีกราฟฟิคเป็นฉากหน้าที่งดงาม แต่ความมืดอันลึกลับยังคงอยู่เบื้องหลัง วิธีที่จะลงไปสำรวจมันได้ ก็ด้วย NetHack เกมในตำนานเกมนี้

ดาวน์โหลด ฟรี! https://nethack.org/

บนมือถือก็มีลองค้นคำว่า nethack ในสโตร์ดูครับ


ถ้าท่านชอบเกมสวมบทบาทสมมติ ชอบท้าทายกับความยากระดับหฤโหด ต้องลองเล่น ลองดู แล้วท่านจะหลงรักมัน😉

พบกันได้ที่ https://www.facebook.com/NetHackThailand/
สารบัญเนื้อหารวมลิงค์จำเป็นสำหรับชาว NetHack https://jazzylj.blogspot.com/2022/01/nethack_29.html


สั่งซื้อไอเท็มนี้ได้ที่ Shopee https://cutt.ly/ATJVJmT
ขอบพระคุณมากๆจ้า

09 กรกฎาคม 2563

เรื่องราวของหานซิ่น(韓信)

http://www.ruiyingmedical.com/zuixin/3358.html

หานซิ่น(韓信) แม่ทัพใหญ่อันดับหนึ่งในยุคก่อตั้งราชวงศ์ฮั่น ในวัยหนุ่มเขาเป็นเด็กยากจนคนหนึ่ง ไม่มีชื่อเสียง ไม่มีฝีมือ ทำมาหากินอะไรไม่ขึ้น เที่ยวขอข้าวนายอำเภอกินอยู่เสมอ จนภรรยานายอำเภอไม่พอใจ ไม่แบ่งข้าวให้กินอีก แต่เขาเป็นคนรักการอ่านการศึกษา
วันหนึ่งขณะกำลังขายม้าฟางอยู่ในตลาด ได้ถูกอันธพาลมาหาเรื่องไล่ที่

"ไอ้เนิร์ด แน่จริงมึงก็ชักกระบี่ ไม่ก็ลอดหว่างขากูซะ!"

จีนมุงในตลาดส่งเสียงเฮลั่น ลุ้นว่าจะได้ดูมวยหรือคนลอดหว่างขา หานซิ่นก้มหัวลง คลานลอดหว่างขาไป จีนมุงตบมือเฮลั่นด้วยความบันเทิง เขาเอาตัวรอดมาได้อย่างอัปยศอดสู
เขาจึงปลีกตัวไปตกปลาริมแม่น้ำเพื่อประทังชีวิต แต่ก็ตกไม่ได้สักตัว โชคดีว่ามีกลุ่มหญิงซักผ้า อาม่าคนหนึ่งจึงแบ่งอาหารให้แก่เขา เขาบอกอาม่าว่า

"วันหน้าข้าจะตอบแทนท่านอย่างงาม"
"ลูกผู้ชายหาเลี้ยงตัวเองยังไม่ได้เลย จะตอบแทนอะไรกัน?"

เขาจึงออกจากเมืองไปสมัครเป็นทหาร แม้เป็นคนมีความรู้มากมาย แต่ไม่ได้รับการเหลียวแล เพราะเขาไม่ใช่นักสู้ที่เก่งกล้าสามารถอะไร ถูกใช้ให้เป็นยาม วันแล้ววันเล่า เขาถอดใจกลับบ้าน แต่ถูกไล่จับข้อหาหนีทัพ บังเอิญได้พบกับเฉียวเหอ ผู้เห็นแววของหานซิ่น
เฉียวเหอเสนอกองทัพว่าจะแต่งตั้งหานซิ่นเป็นแม่ทัพใหญ่(เป็นผู้คุมเหล่าแม่ทัพ) แต่ไม่มีใครเห็นชอบ ไม่มีใครยอมให้ยามเลื่อนขั้นมาเป็นแม่ทัพใหญ่ได้หรอก หานซิ่นน้อยใจหนีทัพไปอีก เฉียวเหอต้องขี่ม้าตามกลับมา จนเกิดสำนวนที่ว่า "เฉียวเหอไล่ตามหานซิ่นใต้แสงจันทร์" จนแล้วจนรอด จากการรับประกันของเฉียวเหอต่อหลิวปัง หานซิ่นก็ได้เป็นแม่ทัพใหญ่ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากเหล่าแม่ทัพในตอนแรก เพราะไม่เคยออกรบ เป็นแค่หนอนหนังสือ ไม่เคยมีผลงาน แถมยังเป็นไอ้ขี้ขลาดลอดใต้หว่างขา แต่สุดท้ายเรื่องราวของเขาก็อยู่ในประวัติศาสตร์ในหนังสือชิดก๊กไซ่ฮั่น(ฉบับแปลไทยดั้งเดิมเรียก หานซิ่น ว่า ฮั่นสิน)

หลังจากร่วมก่อตั้งราชวงศ์ฮั่นสำเร็จ ได้เป็นใหญ่เป็นโต หานซิ่นก็กลับไปบ้านเกิด มอบเงินทองมากมายให้กับอาม่าที่เคยแบ่งอาหารให้ และแน่นอน เขาไปหาอันธพาลคนนั้น อันธพาลตัวสั่นงันงก คิดว่าถึงคราวตายแน่แล้ว ในฐานะตอนนั้นหานซิ่นสามารถฆ่าอันธพาลคนนั้นได้ดั่งขยี้มดปลวก แต่เขาไม่ทำ เขาแต่งตั้งให้เป็นคนดูแลหมู่บ้านเพื่อแสดงความใจกว้าง "มันเป็นนักเลง เคยดูถูกข้า จะฆ่าก็ได้ แต่จะได้อะไร?"

ถ้าหานซิ่นตีรันฟังแทนข้างถนนวันนั้น ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร บางครั้งการยอมอดทนต่อคำดูถูก คำสบประมาท ก็อาจเป็นคุณสมบัติสู่ความสำเร็จ แม้อาจจะไม่ได้ไขว้คว้าเกียรติยศยิ่งใหญ่อย่างหานซิ่น แต่อย่างน้อยการที่มีลมหายใจอยู่ โดยไม่ตายไปกับเรื่องบ้าๆที่เลี่ยงได้ ชีวิตก็ยังมีอะไรดีๆให้ทำอีกมากมายไม่ใช่หรือ?

แถม
ปัจจุบันหานซิ่นได้รับการยกย่องเป็น เทพเจ้าหานซิ่น(韓信爺) เทพแห่งนักพนัน(大賭神 ในที่นี้หมายถึงการเก็บสถิติความน่าจะเป็น) เป็นเทพแห่งโชคลาภที่ประจำอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นที่สักการะของนักเสี่ยงโชค หวย พนัน เกร็งกำไร เทรดหุ้น ฯลฯ ท่านเป็นหนึ่งในทีม 八路財神 ปาลู่ไช่เสิน เทพเจ้าแห่งทรัพย์สินแปดทิศทาง

เดิม หานซิ่น เป็นแม่ทัพใหญ่ผู้ร่วมก่อตั้งราชวงศ์ฮั่น เป็นแม่ทัพผู้ไร้พ่ายในสงครามฉู่ฮั่น ว่ากับว่าท่านเป็นผู้คิดค้นหมากรุกจีน และเกมไฮโลด้วยลูกเต๋าสี่ลูก(十八啦 สือปาลา ซึ่งยังคงมีการเล่นมาจนถึงปัจจุบัน) เพื่อให้ทหารเล่นในยามว่างจากการศึก(โดยมีหานซิ่นเป็นเจ้ามือ) แก่นแท้ในการเล่นไฮโลแปดเต๋าของหานซิ่นไม่ใช่การเสี่ยงดวง แต่เป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการรบและดูนิสัยคน
สร้างขวัญกำลังใจในการรบด้วยการเสี่ยงทายก่อนออกรบ ว่าจะแพ้หรือชนะ ซึ่งหานซิ่นเสี่ยงทายได้ชนะเสมอ ทำให้ทหารมีกำลังใจในการสู้รบ และก็รบชนะทุกครั้งตรงตามการเสี่ยงทายเช่นกัน
ดูนิสัยคนก็ด้วยการเสี่ยงทาย เพื่อดูสีหน้าท่าทางของผู้เล่นว่าจะเป็นอย่างไรเมื่อจวนเจียนจะแพ้หรือชนะ เพื่อดูอุปนิสัยและรู้จักธาตุแท้ของคนเหล่านั้นเพื่อเก็บสถิติ จะได้ใช้คนและใช้กลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสม
ภายหลังหานซิ่นจึงถูกยกย่องให้เป็นเทพแห่งการพนัน(ที่ไม่ใช่การเสี่ยงดวง แต่คือการเก็บสถิติมาอย่างดีแล้ว ว่าแพ้ได้กี่เปอร์เซ็นและต้องชนะกี่เปอร์เซ็น ที่เมื่อรวมกันแล้วก็คือชนะ) เป็นเทพแห่งโชคลาภที่น้อยคนจะรู้จัก ท่านเป็นหนึ่งในทีม 八路財神 เทพเจ้าแห่งทรัพย์สินแปดทิศทาง

ชี้เป้า 八路財神符 ฮู้เทพแห่งทรัพย์สินแปดทิศทาง ไปมาแปดทิศพบแต่ความมั่งคั่ง ให้คุณด้านการค้า โชคลาภ ลาภลอย การเงิน ความร่ำรวย

เทพเจ้าหานซิ่น จากศาลเจ้าหานซิ่น ไต้หวัน
南投財神宮 - 韓信爺

07 กรกฎาคม 2563

ประโยชน์ของการเล่น NetHack



NetHack เป็นเกมที่เก่าแก่มากที่สุดเกมหนึ่งในวงการเกมคอมพิวเตอร์ นิยมเล่นกันในหมู่แฮ็กเกอร์และโปรแกรมเมอร์ ยังคงพัฒนาเรื่อย ๆตั้งแต่ปี 1987 จนถึงปัจจุบัน โดยอาสาสมัครที่มีเวลาว่างและสมัครใจมาร่วมด้วยช่วยกันพัฒนา ชื่อว่า DevTeam
จุดมุ่งหมายภายในเกมของ NetHack คือ ให้ผู้เล่นสร้างตัวละครขึ้นมา 1 ตัว สำรวจดันเจี้ยน (Dungeon) มากกว่า 50 ชั้น เพื่อลงไปเอา Amulet of Yendor เพื่อนำไปถวายพระเจ้าที่ตัวละครของเรานับถือ ถ้าทำสำเร็จ จะได้รับการโปรโมตเป็น demi-god ถือว่าเป็นการจบเกม ซึ่งในดันเจี้ยนแต่ละชั้น จะมีการสุ่ม ไอเทม ,มอนสเตอร์,ห้อง,ออปเจ็กต์ ต่างๆ(การเล่นแต่ละครั้ง จะได้รับการสุ่มที่แตกต่างกันทุกครั้ง)
ผู้ที่เล่น NetHack มานานแล้ว จะนิยมเล่นในโหมดข้อความ(ASCII)อย่างเดียว แต่ก็สามารถที่จะเลือกเล่นในโหมด graphic tiles ได้เหมือนกัน (โดยผู้เล่นสามารถแก้ไข tiles เองได้ด้วย)

เกมนี้เป็นเกมในตำนานที่ขึ้นชื่อว่ายากที่สุดในโลกเกมหนึ่ง เนื่องจากที่มีรายละเอียดซับซ้อนสูงมาก และด่านจะถูกสุ่มใหม่ทุกครั้งที่เล่น จึงสามารถเล่นได้ไม่ซ้ำซาก นับเป็นเกมคลาสสิคของคอมพิวเตอร์ได้เลยทีเดียว และแน่นอนว่าฟรี! ดาวโหลดกันได้ที่เว็บอย่างเป็นทางการ https://www.nethack.org/ สำหรับคอมฯ และสำหรับมือถือก็มีอยู่ในสโตร์ให้ค้นว่า nethack ก็ฟรีเช่นกัน หรือเล่นบนเว็บที่ https://alt.org/nethack/ ซึ่งต้องสมัครสมาชิกและผลการเล่นจะถูกนับสถิติออนไลน์ด้วย

ลองทำความรู้จักภาพรวมของเกมนี้กันก่อนที่ เรื่องเล่าแห่งดันเจี้ยนลึกลับ NetHack

เราอยากจะเผยแพร่ NetHack ให้ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะมันเป็นเกมที่เรามองว่าคลาสสิคเทียบเท่ากับหมากรุก และสามารถเล่นคนเดียวได้โดยไม่ต้องห่วงเรื่องเสป็คคอมพิวเตอร์ ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจถูกจัดอยู่ในหมวด eSport ประเภทหนึ่ง เนื่องจากระบบเกมค่อนข้างเสถียรแล้วจากการพัฒนามากว่า 30 ปี หรืออาจเป็นเกมที่แนะนำให้เล่นกันในโรงเรียนเพื่อเสริมทักษะก็ได้นะ เราจึงอยากสรุปประโยชน์ของการเล่นไว้เป็นแนวทางเบื้องต้นก่อน เผื่อในอนาคตจะมีคนเก่งๆนำไปใช้ประโยชน์และปรับปรุงต่อไปให้ดียิ่งขึ้น

ประโยชน์ของการเล่น NetHack

  1. ฝึกการคิดเชิงกลยุทธ์
    • ผู้เล่นต้องวางแผนปฏิบัติการจากเงื่อนไขต่างๆทั้งจากตัวละครและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น การบริหารทรัพยากร การเลือกใช้อาวุธชุดเกราะอย่างเหมาะสม ตัดสินใจรุกหรือถอย ใช้อาวุธระยะใกล้หรือไกล เลือกใช้กลยุทธ์อย่างเป็นเหตุเป็นผล ทั้งแผนในระยะสั้นและระยะยาว ทั้งยังสร้างเสริมชุดความคิดแบบ Hacker mindset
  2. ฝึกความอดทน สุขุมเยือกเย็น
    • เกม NetHack เป็นเกมแนว Turn-based คือผลักกันเดินทีละตาเหมือนหมากรุก จึงไม่จำเป็นต้องรีบกดคำสั่ง ควรค่อยๆคิดค่อยๆเดินเพื่อสำรวจสิ่งต่างๆในดันเจี้ยนอย่างรอบคอบ รวมถึงปุ่มและคำสั่งมากมายที่ต้องใช้เวลาในการจดจำ เนื่องจากตัวเกมมีระบบการเล่นที่ละเอียดซับซ้อนสูง และใช้เวลาเล่นนาน
  3. ฝึกรับมือกับสถานการณ์แบบสุ่ม
    • ตัวเกมจะทำการสุ่มด่านและสิ่งต่างๆทุกครั้งที่เล่น รวมถึงเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเล่น จึงต้องเรียนรู้ที่จะยืดหยุ่นแผนระยะสั้นและระยะยาว เพื่อจัดลำดับความสำคัญในการแก้ปัญหา
  4. ฝึกให้กล้าตัดสินใจในข้อมูลที่มีอยู่อย่างจำกัด
    • ในเกมนี้สิ่งของและสิ่งมีชีวิตในเกมมักจะไม่ระบุถึงคุณสมบัติใดใดเลย เพราะเกมต้องการใช้ผู้เล่นได้เรียนรู้ไปพร้อมตัวละครที่เพิ่งได้เจอสิ่งต่างๆเหล่านั้นเป็นครั้งแรก ด้วยข้อมูลที่จำกัดนี้ ทำให้เราต้องคิดอย่างรอบคอบ วางแผน ตรวจสอบสิ่งนั้นๆไปพร้อมๆกับตัวละคร และตัดสินใจทั้งที่มีข้อมูลแค่เฉพาะหน้าเท่านั้น
  5. สร้างเสริมจินตนาการ
    • เกมแนวสวมบทบาท(RPG - role-playing game) ผู้เล่นต้องจินตภาพว่ากำลังเล่นเป็นตัวละครนั้นๆ และคิดอย่างสมเหตุสมผลในพฤติกรรมตามอาชีพของตัวละครและคำบรรยายเกมที่ดำเนินไปตามสถานการณ์ อีกทั้งภาพของเกมที่เป็น ASCII หรือ Tiles (แล้วแต่เลือก)นั้น บังคับให้ผู้เล่นต้องใช้จิตนการสูงขึ้น ซึ่งย่อมเป็นจิตนาการที่เหนือกว่ากราฟฟิคคอมพิวเตอร์ใดใดจะทดแทนได้
  6. ช่วยส่งเสริมการอ่านและเขียน
    • เนื้อเรื่องในเกม NetHack ประกอบตัวตัวละครจากเทพนิยายคลาสสิคมากมาย ไม่ว่าจะเป็น The lord of the rings, Dune, ฯลฯ รวมถึงเทพปกรณัม และตำนานต่างๆให้ได้อ่านชิมลางไปตลอดเกม จึงสามารถกระตุ้นให้ผู้เล่นอยากรู้และค้นคว้าหาหนังสือฉบับเต็มมาอ่านเพื่อจะได้รู้จักตัวละครนั้นๆให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการเล่นเกมนี้ด้วย รวมไปถึงฝึกการอ่านภาษาอังกฤษเชิงวรรณกรรม ทั้งตัวเกมที่ดำเนินไปแบบสุ่ม เรื่องราวที่เกิดขึ้นจึงไม่ซ้ำ ทำให้นำมาขยายและเขียนเป็น FanFiction ได้ตามจินตนาการ หรือเล่าสู่กันฟังในหมู่เพื่อนฝูงได้อย่างสนุกสนาน
  7. นำหลักคิดมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
    • เนื่องจากระบบเกมเสมือนจำลองชีวิตจริงอย่างสมจริง ทั้งสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ความไม่รู้ ปัญหาเฉพาะหน้า ความหิว ฯลฯ การได้จัดการสิ่งเหล่านี้ทำให้หลักปรัชญาและหลักจิตวิทยาในเกมจะซึมซับสู่ตัวผู้เล่นโดยอัตโนมัติ รวมถึงประโยชน์จากข้อต่างๆข้างต้นด้วยเช่นกัน

เบื้องต้นสามารถศึกษาเกมนี้ได้ที่เพจ NetHack Thailand และ รวมลิงค์น่าสนใจสำหรับชาว NetHack เพื่อดูลิงค์ข้อมูลการเล่นต่างๆเกี่ยวกับ NetHack เนื่องจากเราได้ทำสารบัญเนื้อหาเอาไว้มากมาย

NetHack เป็นเกมที่ขึ้นชื่อว่ายากระดับสูงสุด ตัวละครจะตายบ่อยมาก เมื่อตายก็ต้องเริ่มใหม่ การเล่นให้จบไม่ใช่เรื่อง่าย เวลาเล่นจบเฉลี่ยคือ 8 ช.ม. จบเร็วที่สุดตามที่ nethack.eu ได้บันทึกไว้คือ 1 ช.ม. 3 นาที 33 วินาที แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับการได้สัมผัสระบบการเล่นที่ซับซ้อน นั่นคือประโยชน์ที่แท้จริง เพราะไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ สุดท้ายก็ต้องเริ่มต้นใหม่ และในการเริ่มต้นใหม่แต่ละครั้งก็ถูกสุ่มใหม่ เป็นเกมที่เราสามารถเล่นซ้ำได้เรื่อยๆไม่รู้จบ และสโลแกนของเกมแนว NetHack นี้ก็คือ Losing is fun. แพ้ก็สนุก ขอแค่ได้เล่นก็สนุกและเป็นประโยชน์แล้ว

โปรดแชร์บทความนี้เพื่อสนับสนุนการเผยแพร่ประโยชน์ร่วมกัน🤗

มาเล่น NetHack กันเถอะ


สั่งซื้อไอเท็มนี้ได้ที่ Shopee https://shopee.co.th/%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7-NetHack-Thailand-i.83249973.7943496455
ขอบพระคุณมากๆจ้า

อ้างอิง
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B9%81%E0%B8%AE%E0%B9%87%E0%B8%81
https://www.facebook.com/NetHackThailand/

เรื่องเล่าแห่งดันเจี้ยนลึกลับ NetHack

ภาพโดย Evelyn Chai จาก Pixabay

หากสมมติว่านี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ท่านเพิ่งลงไปในดันเจี้ยนแห่งนี้ โดยที่ท่านไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ว่าขวดยานี้ใช้ทำอะไร ไม่รู้ว่าอาวุธชุดเกราะนี้มันมีสรรพคุณอย่างไร ไม่รู้ว่ามอสเตอร์ตัวนี้มันอย่างไรกันแน่ ไม่รู้ ไม่รู้อะไรเลย! ท่านจะทำอย่างไรดี ในเมื่อลงมาแล้วและไม่อาจขึ้นไปได้จนกว่าจะได้ Amulet of Yendor มาครอบครองเสียก่อน จึงจะผ่านประตูเวทมนต์กลับออกไปสู่โลกภายนอกได้
เมื่อท่านเจอขวดยา ท่านรู้เพียงว่า มันเป็นน้ำใสหรือมีฟองฟูหรือมีสีสรรใดใด มันเป็นประโยชน์หรือเป็นพิษล่ะ? ท่านจึงต้องทดลองมัน แต่จะทดลองเมื่อไหร่ดีล่ะ? ท่านจึงต้องตรวจสอบมัน แต่จะตรวจสอบอย่างไรดีล่ะ? โดยที่ไม่ต้องตายเพราะความไม่รู้
แต่แน่นอน ท่านไม่มีทางรู้อะไรเกี่ยวกับมันมาก่อนเลย ทำไมนะหรือ? ก็เพราะว่าคนก่อนหน้าที่เข้ามา ไม่เคยมีใครได้กลับออกมาได้ยังไงล่ะ เมื่อเราสำรวจลึกลงไป อาจเจอสัมภาระของใครบางคนที่ไม่ได้กลับออกมา นั่นเป็นแหล่งอุปกรณ์ที่ดี แต่ใครจะไปรู้ว่าเจ้าของเดิมอาจหวงของและสาปแช่งของเหล่านั้นเอาไว้ไม่ให้ใครหยิบไปใช้ ท่านก็ไม่อาจรู้ได้อีกเช่นกัน ท่านจะกล้าใช้มั้ย? เพราะยิ่งสำรวจลึกลงไป มอสเตอร์ก็ยิ่งแข็งแกร่งเกินกว่าจะใช้เพียงกำลังดิบๆในการต่อกร ท่านต้องใช้อุปกรณ์มาช่วยเหลือ
ทุกย่างก้าวที่เต็มไปด้วยภยัตราย ไม่ใช่แค่ต้องใช้อุปกรณ์เพื่อต่อสู้ป้องกันภัยจากภายนอกเท่านั้น ความหิวก็เป็นศัตรูตัวฉกาจที่บังคับให้ท่านต้องเดินเข้าหาเภทภัย ไม่อาจอ้อยอิ่ง บางที การที่ต้องสำรวจดันเจี้ยนให้ลึกลงไป สิ่งที่ต้องการอาจไม่ใช่ Amulet of Yendor อีกแล้ว แต่เป็นอาหารมากกว่า ไม่อิ่มก็ตาย!

นี่แหละคือ NetHack เกมที่ทำให้เราต้องคิดในทุกๆอย่างในทุกย่างก้าว ด้วยความมุ่งมั่นที่จะได้ออกมา ไม่ว่าจะต้องตายสักกี่ครั้งกี่ชาติในดันเจี้ยนลึกลับแห่งนี้ ท่านก็ไม่ยอมลดละ ไม่กลัวที่จะเริ่มต้นใหม่ และเรียนรู้จากชาติปางก่อนมาปรับใช้ในชาตินี้ เพื่อนำ Amulet of Yendor ให้พาตัวท่านออกสู่แสงสว่าง และไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดในคุกแห่งนี้อีกต่อไป

พร้อมรึยัง เปิด NetHack แล้วลงไปลุยดันเจี้ยนกันเลย!

ดาวโหลดฟรี! https://www.nethack.org/
สำหรับมือถือค้นในสโตร์ว่า nethack
เล่นบนเว็บที่ https://alt.org/nethack/

ศึกษาเพิ่มเติม
รวมลิงค์น่าสนใจสำหรับชาว NetHack ลิงค์ทั้งหมดนี้และอื่นๆจากนี้จะจัดรวมไว้ในบทความนี้นะครับ เพื่อความเป็นหมวดหมู่
ประโยชน์ของการเล่น NetHack
https://www.facebook.com/NetHackThailand/
http://www.pocketonline.net/board/view.php?id=22792


ภาพโดย Andrew Martin จาก Pixabay


สั่งซื้อไอเท็มนี้ได้ที่ Shopee https://shopee.co.th/%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7-NetHack-Thailand-i.83249973.7943496455
ขอบพระคุณมากๆจ้า

30 มิถุนายน 2563

รวมสปอยล์และเทคนิคการเล่น NetHack ที่มือใหม่ควรรู้

http://dndspeak.com/2019/05/100-interesting-dungeon-encounters/

NetHack เป็นเกมเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1987 ที่ยังคงพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน นิยมเล่นในหมู่ Hacker และ Programmer เป็นเกมฟรี Opensource เป็นเกมที่ขึ้นชื่อว่ายากระดับโหดหิน และเมื่อได้เล่นไปสักพัก(ประมาณเดือนนึง)จะเริ่มรู้ว่ามันมีความลึกและความซับซ้อนสูงมากกว่าหน้าตาที่เห็น มือใหม่บางคนอาจจะงง ไม่รู้ว่กำลังทำอะไรอยู่และควรทำอะไรบ้าง เราจึงรวบรวมเทคนิคและสปอยล์ที่มือใหม่ควรรู้จากหลายแหล่งเอาไว้ที่นี่ในรูปแบบภาษาไทย เผื่อจะช่วยให้เราเข้าใจและเข้าถึงมันมากขึ้น แม้มันจะยังคงยากเหมือนเดิม แต่จะสนุกมากขึ้นแน่นอน งั้นไปลุยกันเลยนักสำรวจดันเจี้ยนทั้งหลาย!

  • เริ่มต้นแนะนำให้อ่าน Guidebook ที่มากับตัวเกมเพื่อให้รู้ปุ่มคำสั่งและเข้าใจสัญลักษณ์ต่างๆทั้งหมดก่อน แล้วลองเล่นเกมดูสักพักใหญ่ๆ ลองอ่านวิชาสำรวจดันเจียน 101 และข้อมูลต่างๆจากรวมลิงค์จำเป็นฯ แล้วลองงมๆไปเรื่อยๆ เล่นตายเล่นตาย จนการใช้ปุ่มคำสั่งเริ่มเป็นธรรมชาติ แนะนำให้ปิด NumPad แล้วใช้ปุ่มทิศทางแบบ hjklyubn เพื่อความคล่องตัวในการเดินทิศเฉียง เมื่อเป็นธรรมชาติที่สองแล้วจะเหมือนการพิมพ์สัมผัส และเล่นสนุกมากขึ้น ปุ่มทิศทางนี้ยังใช้เป็นมาตราฐานในเกม Roguelikes อื่นๆอีกด้วย
  • เปิด 3 เว็บนี้ไว้ตลอดการเล่น https://web.archive.org/web/20190713121329/http://www.statslab.cam.ac.uk/~eva/nethack/spoilerlist.html และ https://nethackwiki.com/wiki/Main_Page และ Corpse spoiler เพราะเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญ ใช้ตลอดการเล่น
*คำเตือน* ต่อจากนี้คือสปอยล์(บทสรุปเกม)โดยสังเขป
  • มาดูภาพรวมของเกมกันก่อน
    • ช่วงต้นเกม ต้องผ่านด่าน Gnomish Mines และ Sokoban และเก็บสิ่งจำเป็นพื้นฐาน เวทย์ magic resistance และ reflection และ resistances ความต้านทานต่างๆ เช่น ภูมิต้านทานพิษ ฯลฯ ซึ่งมาได้จากการกินซากที่ถูกต้อง เป็นช่วงแห่งการเตรียมพร้อม
    • ช่วงกลางเกม คือ การอัพถึง Level 14 มีสิ่งที่ต้องทำมากมาย เช่น ฆ่าบอสต่างๆอย่าง เมดูซ่า การรับเควส ยึดปราสาท ลงไปที่ Valley of the Dead และอื่นๆ ฯลฯ เพื่อเก็บไอเท็มจำเป็นทุกอย่างให้พร้อม ซึ่งไอเท็มต่างๆที่จำเป็นก็อยู่ในด่านต่างๆนั่นเอง
    • ช่วงท้ายเกม ควรมี Resistances ความต้านทานเกือบครบ(หรือครบ)แล้ว มีของที่ต้องมี อาวุธ ชุดเกราะชั้นดี และควรมี Wand of death ยังต้องสู้กับบอสโหดๆอีกหลายตัว และฆ่า Wizard of Yendor (จะได้ Amulet of Yendor ของปลอมมา) จากนั้นหา Vibrating square ในชั้นลึกสุด และทำพิธีกรรมบนนั้น(ของที่ต้องมี เทียน 7 เล่ม, Candelabrum of Invocation(ปักและจุดเทียน), Papyrus spellbook, และ Bell of Opening วางลงไปบนนั้นและทำการอ่าน[r] Papyrus spellbook) เพื่อเปิดทางลงไปชั้น Moloch's Sanctum แล้วสู้กับ High priest of Moloch ที่อยู่ในอาราม(Temple) (ใช้ Bell of Opening เพื่อหาประตูอาราม) จะได้ Amulet of Yendor ของแท้ จากนั้นกลับขึ้นมา(ด้วยของในอารามนั้น?) ระหว่างนี้ Amulet of Yendor ของแท้ จะแผลงฤทธิ์ด้วยการวาร์ปเราลงดันเจี้ยน 1-3 ชั้น อยู่บ่อยๆ(ต้องรีบขึ้น) และ Wizard of Yendor จะคอยรังควาน บ้างก็สาปไอเท็มที่เรามี หรือมาสู้กับเราอยู่เรื่อยๆ(มันไม่เคยตายจริง) ให้แก้คำสาปที่โดนและหาวิธีขึ้นมาให้เร็วที่สุด
    • ช่วงจบเกม นำ Amulet of Yendor ของแท้ ขึ้นมาเหนือดันเจี้ยน ต้องเจออีก 4 ชั้น คือ ดิน ลม ไฟ และน้ำ แต่ละด่านให้หาจุดวาร์ปเพื่อไปด่านต่อไป เมื่อพ้นทั้ง 4 ชั้น เป็นชั้นที่ 5 Astral Plane จะมี 3 อาราม ต้องสุ่มเข้าไปดูว่าแท่นบูชาไหนตรงกับศาสนาของตัวละคร อันไหนตรงก็วาง[d] Amulet of Yendor ของแท้ บนแท่นบูชานั้น แล้ว #offer ซึ่งทุกชั้นจะมีมอนสเตอร์ต่างๆมากมาย ก่อนขึ้นมาต้องเตรียมของจำเป็นให้ดี โดยเฉพาะ Potion เพิ่ม HP และรักษาอาการป่วย ควรเตรียมให้พร้อมตั้งแต่ก่อนช่วงท้ายเกม
  • ว่างๆลองอ่านกลยุทธพื้นฐานในการเล่นดูที่นี่ https://nethackwiki.com/wiki/Standard_strategy
  • สัตว์เลี้ยงมีประโยชน์มาก มันช่วยต่อสู้ได้, มันตรวจสอบสถานะสิ่งของได้ว่า blessed/uncursed/cursed (BUC) หรือไม่, มันขโมยของใน Shop ได้, และบางตัวก็ขี่มันได้
  • การตรวจสอบสถานะสิ่งว่า BUC ด้วยสัตว์เลี้ยงก็คือ ให้เรายืนข้างๆของสิ่งนั้น แล้วกด [s] หรือ [.] เพื่อผ่าน Turn แล้วดูว่าสัตว์เลี้ยงเหยียบของสิ่งนั้นมั้ย ถ้าไม่เหยียบเลยแสดงว่ามีคำสาป หรือถ้ามันเดินผ่านของชิ้นนั้นอย่างไม่เต็มใจ(reluctantly) จะมีข้อความขึ้นบอก แสดงว่ามีคำสาป แต่ถ้ามันเหยียบหรือคาบแสดงว่าไม่มีคำสาป ระวังเรื่องซากศพหรืออาหารที่อยู่บนของด้วยเพราะอาจทำให้สับสนได้
  • การตรวจสอบ BUC ด้วย Altar แท่นบูชา ด้วยการนำเอาสิ่งของวาง[d]ลงบนแท่น ใช้ได้กับแท่นบูชาทุกศาสนา
  • การพาสัตว์เลี้ยงลงดันเจี้ยนถัดไป ต้องให้แน่ใจว่ามันมาอยู่ข้างๆเราก่อนที่จะลงบันได ไม่อย่างนั้นมันจะไม่ได้ตามลงไปด้วย
  • Lichen(F) ชาว NH รู้จักกันดีว่ามันไร้การป้องกันและเอาชนะได้ง่าย ทั้งยังเป็นแหล่งอาหารที่ดี เพราะสามารถเก็บซากไว้ได้โดยไม่เน่าเสียและจะกินเมื่อไหร่ก็ได้(ระวังตัวมีพิษ)
  • ซากอีกตัวที่เก็บไว้กินได้โดยไม่เน่าเสียคือ Lizard(:)
  • เมื่อเจอบันไดลงควรลงไปทันทีที่เจอแล้วให้กลับขึ้นมา สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เกมจะสร้างด่านถัดไปบนฐานค่า xp ปัจจุบันของเรา ซึ่งหมายความว่ามอนสเตอร์มีแนวโน้มจะง่ายกว่าหลังจากสำรวจชั้นบนเสร็จแล้ว และในกรณีที่ตกกับดักแล้วล่วงไปชั้นล่าง เราก็จะรู้ตำแหน่งของบันไดขึ้นว่าอยู่ตรงไหน
  • ถ้าเจอทางตันให้สำรวจ[s]อาจเจอทางไปต่อ
  • เมื่อสำรวจหมดแล้ว ให้ดูภาพรวมของแผนที่ว่าส่วนไหนเป็นส่วนว่างๆอยู่ ให้เดินไปสำรวจ[s]แถวๆผนังห้องหรือทางตันในทิศทางนั้นๆ อาจเจอประตูลับหรือทางลับไปต่อได้
  • ทุกครั้งที่เห็นข้อความว่า "Vlad was here" กำแพงนั้นจะมีประตูลับที่มีประตูกับดักซ่อนอยู่ข้างหลัง ให้ระวัง
  • ทุกครั้งที่เห็นข้อความว่า "ad aerarium" กำแพงนั้นจะมีประตูลับที่มีกับดักเทเลพอร์ตซึ่งจะทำให้คุณอยู่ในห้องนิรภัย(vault)ของชั้นนั้น
  • จงเก็บ Towel เสมอ(ระวังอันที่มีคำสาป) มันมีประโยชน์มากมาย เช่น ใช้ปิดตา[P], ใช้พันแผล[a]นิ้วที่ถูกบาดจากการเปิดกระป๋อง ทำให้ถืออาวุธได้อีกครั้ง, หากมองไม่เห็นจาก Cream pie หรือ Blinding venom สามารถใช้เช็ดหน้า[a]ให้กลับมามองเห็นได้ ไม่เหมือนคำสั่ง #wipe เพราะผ้าขนหนูจะทำความสะอาดได้ในตาเดียว, สามารถใช้ผ้าเขียน[E]ได้ ซึ่งจริงๆไม่ใช่การเขียนแต่จะเป็นการลบทุกอย่างที่เขียนด้วยฝุ่น เลือด หรือแม้กระทั่ง Magic marker
  • หากเจอมอนสเตอร์หลายตัว พยายามทำให้มันโจมตีเราได้ทีละตัวเท่านั้น(แถวเรียงหนึ่ง) เพื่อไม่ให้โดนล้อมโจมตีจากหลายทาง วิธีหนึ่งที่ได้ผลคือพาไปต่อสู้ในโถงทางเดิน
  • แหล่งอาหารเบื้องต้นมีอยู่ 3 อย่าง
    • ซากศพ Corpses เป็นแหล่งอาหารที่ดีแต่ต้องระวังผลข้างเคียง(บางอย่างดีบางอย่างไม่ดี) บางซากเน่า(ซากที่อายุเกิน 50 truns มักจะเน่า) บางซากมีพิษ บางซากทำให้เป็น Cannibal ให้เช็คจาก Corpse spoiler
    • อาหารที่เตรียมมา Prepared food (food rations, slime molds, apples, melons, etc.)
    • การสวดอ้อนวอนเทพพระเจ้า #pray ซึ่งเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะอาจทำให้เทพพระเจ้าพิโรธได้ หลักคิดง่ายๆในการใช้วิธีอ้อนวอนคือ ไม่มีแหล่งอาหารแล้วจริงๆและกำลังใกล้ตาย, HP เหลือ 1 ขณะกำลังต่อสู้ ฯลฯ การสวดอ้อนวอนอันตรายเพราะผลข้างเคียงจะรุนแรงถ้าเทพพระเจ้าพิโรธ โดยทั่วไปจะ #pray เมื่อ HP ต่ำกว่า 6 หรือ weak จากการหิว และไม่ควรทำบ่อยเกินไปภายใน 1,000 truns
  • สัตว์เลี้ยงจะเลือกกินซากที่ไม่มีพิษต่อตัวมันเอง แต่เราอาจกินตามมันไม่ได้นะ
  • ระวัง Gas spores(e) มันระเบิดรุนแรง ควรจัดการด้วยอาวุธระยะไกล และอย่าให้สัตว์เลี้ยงเข้าใกล้มัน
  • เปิดประตูไม่ได้ก็ให้เตะ[Ctrl+d]มันสักสองสามครั้ง พวกกล่อง(Box)ก็เช่นกัน
  • เมื่อบาดเจ็บ ให้กด [.] ไปเรื่อยๆ เพื่ออยู่เฉยๆให้พลัง HP เพิ่ม ควรอยู่ในทำเลที่ปลอดภัย หรือจะเดินสำรวจไปเรื่อยๆก็ได้ แต่ระวังมอนสเตอร์ด้วย
  • ถ้าได้ยินเสียงให้ดูที่ Sounds มันจะบอกว่าเสียงนั้นอาจเป็นอะไร
  • ชื่อไอเท็มแทบทุกอย่างในดันเจี้ยนถูกสุ่ม หมายความว่ามันไร้ความหมาย ไม่ได้สื่อเลยว่าสิ่งนั้นใช้ทำอะไรได้ เราอาจรู้แค่มันเป็น Potion สีต่างๆ แต่ไม่รู้ว่ามันใช้ทำอะไร เกมก่อนหน้ามันอาจเป็นอย่างหนึ่ง แต่การสร้างตัวละครเล่นใหม่ในครั้งนี้ก็อาจเป็นอีกอย่างหนึ่งไปเลย แน่นอนว่าไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะดื่มกินหรือเปิดอ่านอะไรมั่วๆ เราต้องหาวิธีที่ดีกว่านั้น คือการเข้าไปทำเป็นขายสิ่งนั้นในร้านค้า Shop เพื่อดูราคาที่เสนอ จากนั้นเอาราคาคูณด้วย 2 หรือ 2.67 (ใช่ คือเราถูกกดราคา 2เท่ากว่าๆ ๕๕๕) ขึ้นอยู่กับว่าคูณแล้วได้ราคาเป็นเลขเกือบจะกลมๆรึเปล่า จากนั้นเปิดสปอยล์โดยเทียบกับราคาที่คูณได้ เราจะรู้ได้เลยว่าของชิ้นนั้นอาจเป็นอะไร เช่น Potion ก็ดูสปอยล์ของ Potion เป็นต้น
  • การตั้งชื่อ #name มีประโยชน์มาก เมื่อเราตรวจสอบของสิ่งนั้นแล้วว่า BUC ก็ควรตั้งชื่อเป็นชิ้นๆไปว่า B หรือ U หรือ C หากเราตรวจสอบรู้แล้วว่า Potion สีนี้ คืออะไรก็ตั้งชื่อเตือนความจำได้ เพราะลักษณะของสิ่งต่างๆมักจะเหมือนกันตลอดเกม(เฉพาะในการเล่นครั้งนั้น)
    • ตัวอย่างการตั้งชื่อ เช่น คุณตรวจสอบจาก Shop แล้วร้านรับซื้อ Golden potion ในราคา 94 ทีนี้ก็ 94*2=188 แล้วดู Object ID spoiler ไม่มีราคานี้ งั้นลองคูณ 2.67 จะได้ 94*2.67=250.98 งั้นดูที่ราคา 250 จะพบว่ามันคือ 250 acid, oil ก็ลองใช้[a]ดู ก็จะรู้ได้ ทีนี้อาจตั้งชื่อเป็น 250 golded เป็นต้น จะได้ไม่งงกับของชิ้นอื่นที่ราคาเท่ากัน
  • Wand ตรวจสอบได้ด้วยการใช้มันเขียน[E]ลงบนพื้น ให้เขียนคำว่า Elbereth (คำนี้เป็นคำศักดิ์สิทธิ์ในเกม ควรจำให้ได้ ทั้งยังเป็นการฝึกฝน Wisdom ของตัวละครด้วย) ข้อความที่แจ้งจะเป็นเบาะแสว่า Wand นั้นใช้ทำอะไร ทีนี้ก็ไปเปิดสปอยล์
  • Lawful ที่มี Level 5 ขึ้นไปสามารถนำ Long Sword ไปจุ่ม[#dip]น้ำพุ(อาจต้องจุ่มหลายครั้ง)เพื่อทำดาบ Excalibur มันจะป้องกันการกัดกร่อน ไม่ขึ้นสนิม และเพิ่มการโจมตี +1d5 และ +10d ค่าความเสียหาย
  • Bones file คือ ป้ายหลุมศพที่มีไอเท็มทั้งหมดของตัวละครก่อนหน้าของเราที่ตายไปแล้วตกอยู่ เมื่อตัวละครตาย สิ่งของเหล่านั้นจะยังคงอยู่ในดันเจี้ยน เมื่อสร้างตัวละครใหม่ลงมาก็อาจเจอได้ แน่นอนว่ามันเป็นแหล่งไอเท็มที่ดี เรียกว่า Bones items แต่ต้องระวัง ของบางชิ้นอาจโดนคำสาปไปแล้ว(คำสาปแบบสุ่ม)
  • Bag (กระเป๋า) เป็นไอเท็มที่ดีมากในช่วงต้นเกม ใส่ potions, spells, scrolls, spellbooks, wands, และ rings ลงไปช่วยป้องกันความเสียหายแบบสุ่มที่อาจเกิดขึ้นได้ ตัวละครของเรามีได้ 52 item ในช่องใส่ของ inventory ปัจจุบัน แต่ Bag ใส่ได้ไม่จำกัด ถ้าจัดการกับสัมภาระได้ก็แบกของได้ตามต้องการ
  • การใส่เกราะ บางทีน้ำหนักที่น้อยกว่าก็มีความสำคัญมากกว่าค่า AC(ค่าการป้องกัน) น้ำหนักเบาไว้ก่อนอาจดีกว่า
  • Gem แต่ละอันมีความแข็งต่างกัน เราสามารถทดสอบความแข็ง เพื่อใช้มันขูดเขียน[E]คาถา Elbereth แบบกึ่งถาวรได้ ทดสอบมันทุกอันเลยก็ดี ถ้าขึ้นว่า ...write... แปลว่าเนื้ออ่อน ถ้าขึ้นว่า ...engrave... แปลว่าเนื้อแข็ง
  • Whistle นกหวีดมี 2 ชนิด ต้องลองเป่าดูถึงจะรู้ว่ามันแบบชนิดใด
    • tin whistle ใช้ปลุกมอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้ๆ(ไม่ค่อยมีประโยชน์อะไร)
    • magic whistle ใช้เป่าเรียกให้สัตว์เลี้ยงมาหา
  • เท่าที่รู้ตอนนี้คือ เมื่อมีข้อความขึ้นว่า "You feel more confident in your weapon skills." ก็ลองเข้าไปตรวจสอบคำสั่ง #enhance ดู คำสั่ง #enhance ใช้เพิ่มทักษะของตัวละคร เพื่อให้ตัวละครเรียนรู้ทักษะบางอย่าง(เช่นการใช้อาวุธ) ลองเรียนรู้วิธีการใช้คำสั่งนี้และทักษะต่างๆ https://nethack.fandom.com/wiki/Skill
  • Ring ควรสวมแค่ 2-3 truns เพื่อใช้งาน บางวงจะมีผลร้ายถ้าใส่เป็นระยะเวลานาน
  • การเขียน[E]คำว่า Elbereth ลงบนพื้นที่ยืนอยู่ทำให้มอนสเตอร์กลัวและไม่กล้าโจมตี(ยกเว้นบางตัว) แต่ถ้าเราอยู่บนคำนี้แล้วเป็นฝ่ายโจมตีเคลื่อนไหว คำที่เขียนบนฝุ่นจะลบเลือน
  • ปุ่ม [\] หรือ #known ใช้ดูสิ่งที่ตัวละครของเราได้เรียนรู้มาเกี่ยวกับไอเท็มต่างๆที่ได้พบเจอจากการพบเห็นของตัวละคร ควรกดเข้าไปดูบ้าง เพื่อจะได้รู้คุณสมบัติของไอเท็มต่างๆว่าใช้ทำอะไร เช่น Potion ที่มอนสเตอร์ใช้ให้เราเห็น
  • [Ctrl+o] หรือ #overview จะแสดงภาพรวมของเกมว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ชั้นไหน เราเคยไปชั้นไหนมาแล้วบ้าง และแต่ละชั้นมีอะไรเป็นจุดเด่น คำสั่งนี้จะอารมณ์คล้ายๆแผนที่ ควรกดเข้ามาดูบ้าง ช่วยให้ไม่หลงทาง
  • [Ctrl+x] หรือ #attributes เพื่อดูสถานะของตัวละครอย่างละเอียด สวดอ้อนวอน(#pray)ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ มีความต้านทานอะไรแล้วบ้าง ก็ดูได้จากในสถานะนี้
  • การหนีจาก Beartraps ให้กดเดินทิศเฉียงจะมีโอกาสหลุดได้มากกว่าเดินตั้งฉาก
  • รูปปั้นที่อยู่รอบๆโถง Oracle ให้ทำลายมัน อาจทำโดยใช้ Pick-axe(เป็นเครื่องมือที่ดี ใช้ขุดทางได้ ขุดผนังห้องได้ ลองศึกษาดู), Wand of force หรือ ฯลฯ อาจเจอไอเท็มดีๆซ่อนอยู่ อีกอย่าง ในห้อง Oracle มักใช้เป็นแหล่งน้ำพุ
  • เมื่อเจอ Priest ให้ #chat แล้วบริจาคเงินจำนวน 400*Xp เช่น ถ้าค่า Xp 10 ก็ให้เอา 400คูณ10= 4,000 แล้วบริจาคไปตามผลคูณจะได้รางวัลเป็นค่า AC สามารถทำได้ทุกครั้งที่เจอ ทำได้จนกระทั่งถึงระดับ naked 1 AC
  • ถ้า #dip Unicorn horn ลงใน Potions of blindness (price 150), hallucination (price 100), and confusion (price 100) จะกลายเป็นน้ำเปล่า คือ สามารถใช้ Unicorn horn สุ่มตรวจสอบได้ ถ้าไม่ใช่ 3 อันนั้นจะขึ้นคำว่า Interesting...
  • จุ่ม Potion ใดใดในน้ำพุ(2ครั้ง) มันจะกลายเป็นน้ำเปล่า(Potion of water หรือ Clear potion)
  • นำ Potion น้ำเปล่า วาง[d]บน Altar (ศาสนาเดียวกัน) แล้ว #pray (ถ้าทำได้อย่างปลอดภัย) จะได้ Holy water(หรือ Blessed clear potion) เอาไว้ #dip เพื่อล้างคำสาปหรือให้พรกับไอเท็มต่างๆ สามารถดื่ม(q)เพื่อรักษาอาการป่วยได้ทั้งหมด มีประโยชน์ตลอดเกม ปาใส่มอนสเตอร์บางชนิด(เช่น demons, undead)อาจจะจัดการมันได้
  • สามารถทำ Holy water เพิ่มได้ ด้วยการนำน้ำเปล่าที่ไม่ติดคำสาป(Uncursed water) จุ่ม #dip ลงใน Holy water กรณีไม่มีแท่นบูชา
  • ในการ #offer ถวายบูชายัญ ให้ยืนบน Altar แล้ววาง[d]ซากศพที่อายุน้อยกว่า 50 turns โดยไม่ใช่ Mummy และไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวกับตัวละคร จากนั้นจึง #offer ปกติการบูชายัญจะทำกับแท่นบูชาของศาสนาเดียวกัน แต่ทำต่างศาสนาก็ได้หากต้องการเปลี่ยนศาสนาตราบเท่าที่เทพเจ้าของคุณไม่พิโรธ(ให้แน่ใจว่าไม่ได้ #pray ติดต่อกันมาแล้วหลายครั้ง)
  • ยืนบน Altar แล้ว #pray เพื่อ Crowning เพื่อดูสถานะภูมิคุ้มกันและอื่นๆ รวมถึงเพิ่มครั้งในการ #pray ได้ (ต้องเคย #offer มาก่อนอย่างน้อย 1 ครั้ง)
  • ถ้ามีมอนสเตอร์อยู่หลัง Boulder ซึ่งทำให้เราดันต่อไม่ได้ ให้ลองยิงด้วย Arrow หรือปาบ้างสิ่งใส่มัน หรือร่ายเวทย์ หรือยิง Wand อาจฆ่ามันได้
  • ถ้าเจอซาก cockatrice หรือ chickatrice corpse ห้ามหยิบ[,] เด็ดขาด! เพราะจะตายกลายเป็นหินทันที ต้องใส่ถุงมือจึงจะจับมันได้แล้วใช้โจมตีมอนสเตอร์ตัวอื่นให้กลายเป็นหิน ถ้าตาบอดหรือปิดตาอยู่ระวังซากของมันด้วยเช่นกัน เพราะอาจเตะโดนแล้วกลายเป็นหินได้
  • ถ้าสัตว์เลี้ยงตกหลุมสามารถช่วยดึงขึ้นมาได้ด้วยการ #untrap ที่ข้างหลุม
  • เมื่อเข้าด่าน Sokoban ให้ดูสปอยล์นี้ https://nethackwiki.com/wiki/Sokoban ในชั้น Sokoban มีอาหาร และไอเท็มต่างๆ ให้เก็บมากมาย บางอย่างก็ซ่อนอยู่ใต้ก้อนหิน
  • Izchak's lighting store เป็นร้านเดียวที่รับประกันได้ เป็นร้านขายเทียนและเครื่องส่องสว่าง ซึ่งจำเป็นมากในช่วยท้ายของเกม ถ้าเจอก็ควรซื้อ magic lamps เก็บไว้สักอัน ถ้าในร้านมี
  • Gray stone เป็นหินที่น่าสนใจ เพราะมันอาจเป็น Luckstone (ซึ่งมีประโยชน์ที่สุดในเกม), Loadstone (ซึ่งบัดซบที่สุด), Touchstone, หรือ Flint จึงควรค่าแก่การนำไปตรวจสอบ เพราะราคามันจะต่างกันมาก ให้ลองเตะ[Ctrl+d]ดูก่อน ถ้าขึ้นคำว่า "Ouch, that hurt" แสดงว่าเป็น Loadstone อย่าเก็บเด็ดขาด! เพราะจะติดคำสาปทันทีทำให้ทิ้งมันไม่ได้ แต่ถ้ามันกระเด็นก็ไม่ใช่ Loadstone ทีนี้ให้ลองใช้[a]มันกระทบกับโลหะ(เช่น ดาบ) ถ้ามันเป็น Touchstone จะขึ้นคำว่า "scritch, scritch" ถ้าไม่ขึ้นอย่างนั้น ก็ลองตั้งชื่อมัน(#name)ว่า The Heart of Ahriman ถ้าเป็น Luckstone มันจะลื่น(slip)หลุดมือและตั้งชื่อผิด(ไม่รู้ว่าเป็นเพราะระบบเกมหรือ bug ที่ไม่ยอมให้เราตั้งชื่อว่า The Heart of Ahriman ซึ่งซ้ำกับชื่อของ Barbarian quest artifact luckstone) ถ้าไม่ลื่นและตั้งชื่อตามนั้นได้แสดงว่าเป็น Flint เอาไว้ปา/ยิงใส่มอนสเตอร์หรือทิ้งมันไปซะก็ได้
  • Touchstone ใช้ตรวจสอบ gem หรือหินต่างๆได้ ด้วยการใช้[a] Touchstone ถู #rub
  • ตรวจสอบ ring ด้วยการดร็อป[d]แหวนลงใน sink แล้วเปิดดูสปอยล์ของแหวนว่าข้อความนั้นแปลความนัยว่าเป็นแหวนอะไร
  • เครื่องราง(Amulet) เป็นอะไรที่ตรวจสอบยาก เพราะราคามักเท่าๆกันและต้องใช้เงื่อนไขเฉพาะ ดังนั้น หากมันไม่ติดคำสาป ใส่ไว้ก็ไม่เสียหาย เว้นแต่จะเป็นเครื่องรางที่ไม่ดีก็แค่ถอดมันออก (ถ้าติดคำสาปจะถอดไม่ออก และอาจรัดคอ หรือทำให้หลับ)
  • ถ้าเจอเครื่องดนตรี เช่น Horn ให้เก็บไว้สักอัน จะได้ใช้เมื่อถึงกลางเกมที่ Castle
  • เมื่อเจอบัลลังก์ Thrones(\) ให้ขึ้นไปนั่ง #sit จนกว่ามันจะหายไป จะได้อะไรบางอย่างหรือไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้ อาจเป็นผลดีหรือผลเสียก็ได้ แต่โอกาสได้ผลดีมีมากกว่า คุ้มที่จะเสี่ยง ดูสปอยล์ของบัลลังก์ได้ที่นี่
  • K-ration หรือ C-ration พวกมันเป็นอาหารที่ดีที่สุดในเกม เนื่องจากพวกมันสามารถกินได้ในเทิร์นเดียว
  • เตรียมเทียนให้ได้ 7 เล่ม เผื่อไว้ ก่อนลุยลงไปชั้นลึกๆ
  • จาระบี(Grease)เอามาทาหมวก(helmet)เพื่อป้องการการโจมตีของ Mind flayer เอามาทาเสื้อคลุม(cloak)เพื่อป้องกันปลาไหล(eel)จับจมน้ำตาย และสามารถทากระเป๋า(bag)เพื่อป้องกันของภายในเปียกน้ำได้
  • ซากของ Cockatrice น่าจะเป็นอาวุธที่ดีที่สุดในเกม โดยเฉพาะสำหรับมอนสเตอร์ที่ไม่ทนต่อการกลายเป็นหิน แต่ก่อนจะหยิบซากของมัน ต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าใส่ถุงมืออยู่ และต้องใช้อย่างระวังเป็นพิเศษ ไม่ควรเคลื่อนไหวเมื่อถือซากของมันอยู่ ยิ่งถ้าตกหลุมหรือกับดักขณะถือซากของมันอยู่จะสัมผัสโดยซากและตายทันที หากต้องการเก็บซากมันเอาไว้ใช้ครั้งต่อไปให้ใส่ไว้ใน bag ดูสปอยล์ของ Cockatrice
  • Potion of full healing มีประโยชน์ตลอดเกม สร้างได้จากการผสม Potion โดยให้ #dip จุม Potions of healing ลงไปใน Potion of gain energy (ซึ่ง 2 อันนี้ก็ได้จากการผสมโพชั่น ดูสปอยล์การผสมโพชั่น) จะได้ Potion of full healing มันจะช่วยฟื้นฟู HP ทั้งหมดและรักษาอาการต่างๆไปพร้อมกัน หากดื่มตอน HP เต็มจะได้ HP +8 แต้ม
  • อย่า #pray เมื่ออยู่ใน Gehennom การ #pray ที่นี่จะดึงดูดความสนใจของ Moloch ซึ่งมันจะฆ่าคุณ
  • Amulet of Yendor ของจริงจะไม่สามารถใส่ลงในภาชนะได้ วิธีทดสอบก็คือลองเอาใส่ใน bag ถ้าใส่ได้ก็ของปลอม
รายละเอียดและเทคนิคในการเล่น NH ยังมีอีกมาก แต่ประมาณนี้ก็น่าจะพอหอมปากหอมคอสำหรับมือใหม่บ้างแล้ว ที่เหลือก็ต้องดูจากสปอยล์ต่างๆในภาษาอังกฤษ ถ้าตีพิมพ์สปอยล์เป็นหนังสือก็จะหนานับพันหน้าเลยทีเดียว ซึ่งก็ได้รวบรวมลิ้งค์ไว้แล้วส่วนหนึ่งใน อ้างอิงและศึกษาเพิ่มเติม ท้ายบทความนี้
การที่ตายซ้ำซากอยู่ที่ Dlvl แรกๆไปไม่ถึงไหนซะที เป็นเรื่องธรรมดาในการเล่น NH เลยครับ อย่าได้กังวลไป(ขึ้นชื่อว่าโหดหินขนาดนี้อ่ะนะ) แม้ตัวเกมจะอิสระ มีการสุ่มด่านและไอเท็มในด่านก็ตาม แต่มันก็มีลำดับและเนื้อเรื่องที่ต้องเรียนรู้อยู่ด้วย ซึ่งต้องใช้เวลาเหมือนการเล่นหมากรุกหรือซ้อมดนตรี ที่ต้องค่อยๆฝึกไปวนซ้ำทีละท่อนทีละส่วน การวนเวียนอยู่ที่ Dlvl ต้นเกมก็อาจทำให้เราได้เห็นรูปแบบบางอย่างก่อนที่ก้าวต่อไปยังช่วงกลางกลางเกมและท้ายเกมจนจบ เกมนี้เป็นเกมสำรวจดันเจี้ยน อย่ากังวลมากนัก ขอให้สนุกกับการสำรวจความลึกลับที่ซ่อนอยู่ในคอมพิวเตอร์หรือมือถือของคุณก็พอแล้วครับ การที่คุณได้กล้าที่จะมาสัมผัสกับ NH ที่ขึ้นชื่อว่าซับซ้อนและยากจนแทบกรี๊ดแตกก็นับเป็นความภาคภูมิใจได้แล้วครับ :)

http://www.wallpaperhi.com/Abstract/Fantasy/

แถม
หากคุณเป็นมือใหม่ ขอแนะนำให้เริ่มเล่น NetHack ในโหมดสำรวจก่อน[#exploremode] โหมดสำรวจช่วยให้คุณเล่นเกมได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการตายและการสูญเสียความคืบหน้า คุณจึงสามารถเรียนรู้กลไกของเกมและลองใช้กลยุทธ์ต่างๆ โดยไม่ต้องกลัวผลที่ตามมา เมื่อคุณรู้สึกคุ้นเคยกับเกมแล้ว คุณอาจเปลี่ยนไปใช้โหมดปกติและสัมผัสกับความท้าทายของเกมได้

If you are a beginner, it is recommended to start playing NetHack in explore mode first. Explore mode allows you to play the game without worrying about dying and losing your progress, so you can learn the game mechanics and try out different strategies without the fear of consequences. Once you feel comfortable with the game, you can switch to regular mode and experience the challenge of the game.

ChatGPT
แปลและเรียบเรียงโดย กนกเกียรติ หริรักษ์หรรษา


สั่งซื้อไอเท็มนี้ได้ที่ Shopee https://cutt.ly/ATJVJmT
ขอบพระคุณมากๆจ้า

อ้างอิงและศึกษาเพิ่มเติม