Sponsor

20 ธันวาคม 2563

Goregrind - บทเพลงแห่งการบดขยี้ ภาค 2

จากที่ได้ทำบทความภาคแรกไปคราวก่อน บทเพลงแห่งการบดขยี้นี้มันมีอะไรที่ต้องพูดถึงอีกมายมายจากความรู้สึกเมื่อได้ฟัง บทเพลงทั่วไปจะเดินไปด้วยเนื้อร้องและทำนองที่พาเราไปตลอดเพลง แล้ววนซ้ำกลับมาท่อนฮุคที่ทำนองสวยงามโดดเด่น แต่ Goregrind หรือ Brutal death metal (ขอเรียกสั้นๆว่า Gore) นั่นก็อาจจะมีเนื้อร้องบ้างบางเพลง(ซึ่งอาจฟังไม่ออกเลย) แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแนวของอารมณ์เสียมากกว่า หากให้เปรียบเทียบจริงๆ โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกว่า Gore เป็นอีกขั้วหนึ่งของเพลง Classic ซึ่งเพลง Classic มักจะบรรเลงโดยไม่มีเนื้อร้อง มีตั้งแต่ธรีมโรแมนติกไปจนถึงสงครามอวกาศ(เช่น สตาร์วอร์) ในขณะที่ Gore ก็เช่นกันแต่เป็นธรีมที่สุดขั้วไปอีกขั้น อาจเรียกได้อีกอย่างว่า Extream classical music อันนี้ตั้งเองนะ ๕๕๕บวก เพราะไม่ว่าคุณจะฟังเพลง Classic หรือ Gore คุณจะเห็นเป็นเรื่องราวเหมือนกำลังดูภาพยนตร์ บางเพลงเห็นเป็นฉากๆ บางเพลงอาจแค่รู้สึกถึงอารมณ์ที่ค่อยๆคลี่คลายไปตามตัวเพลง โดยเพลง Gore จะเป็นแนวโหดๆ ไม่ว่าจะเป็นเสมือนหนังผี, ฆาตรกรรม, ฆาตรกรโรคจิต, มนุษย์กินคน, เอเลี่ยนบุกโลก, สัตว์ประหลาดหลุดจากแล็บ และความอุจาดอาจมต่างๆ ฯลฯ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ามันคืออีกแนวหนึ่งที่มีอยู่จริง และแนว Gore สร้างพล๊อตแนวนี้ออกมาได้อย่างมีมิติที่น่าสนใจ นี่คือความต่างจากเพลงทั่วไป(แต่คล้าย Classic) ที่มันให้ความรู้สึกและอารมณ์เหมือนดูภาพยนตร์ ซึ่งแต่เดิมในยุคที่ยังไม่มีภาพยนตร์ เพลง Classic สมัยก่อนก็ถูกแสดงในโรงละครไม่ต่างการไปดูภาพยนตร์ในโรงหนังของสมัยนี้เลย เพลง Gore มีอิสระที่จะใส่ลำนำและซาวด์ประกอบแปลกๆเพื่อดึงให้ธรีมเพลงโดดเด่นขึ้นไปอีก หลายคนที่ไม่คุ้นเคยอาจคิดว่ามีแต่เพียงดนตรีแบบ Metal หรือ Rock เท่านั้นที่ทำแบบนี้ จริงๆวงดนตรี Jazz เองก็มีเช่นกัน อย่างวง Naked City หากเป็นแนวอนิเมชั่นที่เราจัดให้อยู่แนว Gore ก็ต้องเรื่อง Happy tree friends
อีกเรื่องที่อยากพูดถึงคือสไตล์การแต่งตัว ถ้าเป็นแนวเพลงอื่นๆอย่าง Hip-Hop, Punk, Rock, Latin, Hard core, Metal, Death Metal, ฯลฯ จะมีสไตล์การแต่งตัวที่เห็นแล้วรู้ได้เลยว่าน่าจะเป็นแนวๆนั้น แต่สำหรับ Gore ซึ่งเป็นบเพลงที่หนักหน่วงที่สุดในพิภพ ณ ขณะนี้ น่าจะแต่งตัวโหดยิ่งกว่า Death Metal หรือ Hard core ใช่มั้ย แต่ไม่ใช่เลย นักดนตรี Gore ส่วนใหญ่แต่งตัวปกติธรรมดา เสื้อยืดกางเกงยีนส์ บางทีใส่ขาสั้นสวมหมวกแก๊ป ไม่มีใครรู้เลยว่าพวกเขาเล่นเพลงหนักหน่วงขนาดไหน อาจเผลอคิดไปว่าพวกเขาเป็น DJ ในคลับก็เป็นได้ แต่ลายพิมพ์บนเสื้ออาจบอกใบ้อยู่บ้างเหมือนกัน เพราะ Gore นั่นขยายกว้างออกไปไม่ใช่แค่เสียงเพลง แต่รวมไปถึง Artwork หน้าปกอีกด้วย เป็นงานศิลป์ที่ทำออกมาจากอย่างตั้งใจ แม้ภาพจะดูโหดแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันวาดได้สวยจริงๆ ทำให้มีเสื้อลวดลาย Gore ออกมาจำหน่ายควบคู่ไปกับเพลง ซึ่งเห็นได้จากเพื่อนใกล้ตัวที่เป็นสาย Gore แบบเต็มสูบ ฟังเพลงโหดแต่เขาก็ไม่ได้โหดร้ายอะไรเลย เป็นคนเรียบร้อยและใจดีซะด้วยซ้ำไปครับ

การฟังเพลงก็เพื่อความบรรเทิง Gore เองก็เป็นความบรรเทิงอย่างหนึ่ง มันไม่ใช่ความโหดร้าย แต่มันคือความสนุกในอีกแนวหนึ่งที่แปลกออกไปก็เท่านั้นเอง ถ้าเรียกดนตรี Gore ว่าวงออเครตร้าได้ นักร้อง Gore ต้องคือนักโอเปร่าดีๆนี่เอง และอาจได้เห็นการสร้างสรรค์มากมายอยู่ในนั้น
การหัดฟังเพลง Gore ก็เหมือนการหัดฟังเพลง Classic ครั้งแรก ที่หลายคนรู้สึกเบื่อหน่าย แต่ให้ตระหนักไว้ว่า เราอย่าหาเพลงแต่ต้องให้เพลงหาเรา ให้ฟังไปเรื่อยๆอย่างกว้างขวาง แล้วเราจะเจอเพลงและธรีมที่ถูกโฉลกกับเราเอง
แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยก็คือ เพลง Gore ใช้ฟังเพื่อระบายโทสะได้เป็นอย่างดีเลย ถ้าเครียดกับงาน หรือปวดหัว ลองฟัง Gore มันอาจช่วยคุณได้นะ (สรรพคุณชักจะเยอะเกินไปแล้วแฮะ เดี๋ยวจะกลายเป็นยาผีบอกไปอีก ๕๕๕บวก)

เมื่อหยินสุดขั้วก็กลายเป็นหยาง เหมื่อหยางสุดขั้วก็กลายเป็นหยิน เพลง Gore ก็กลายเป็น Classic เฉย ๕๕๕บวก เอาเถอะครับ ลองไปฟังกันดู เปิดโลกพอสมควรเลยทีเดียวล่ะครับว่า มีเพลงแบบนี้อยู่ในโลกด้วยเว้ยเฮ้ย!

งั้นมาลองฟังกันดูว่าคุณเห็นฉากอะไรในบทเพลงชุดนี้บ้าง


อรรถรสใช่มั้ยล่า!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น