Sponsor

21 มีนาคม 2563

หนังสือคือสิ่งล้ำค่า


ในสมัยโบราณ หนังสือเป็นสิ่งล้ำค่าอย่างยิ่ง มันคือมนตรา มันคือคาถา ที่เมื่อใครได้อ่าน ได้ท่อง จะมีบางสิ่งเกิดขึ้นอยู่ภายในอย่างที่คนที่ไม่ได้อ่านไม่มี คือ ความรู้ ไม่ต้องมีใครบอกกล่าวสักคำ แค่ก้มหน้ามองอัขระลงยันตร์ในหน้ากระดาษ เขาก็สามารถรู้และทำได้ในสิ่งเดียวกันกับที่คาถาได้เขียนไว้ นี่แหละคือมนตร์เสน่ห์ของหนังสือ มันคือเวทมนตร์ มันเปลี่ยนชีวิตคนได้
สมัยนั้น หนังสือแต่ละเล่ม ถูกคัดลอกด้วยมือ ผู้ที่จะคัดลอกได้ต้องลงอักขระเป็นและอ่านคาถาออกเท่านั้น ใครอยากได้ก็ไปเช่าเขามาคัดลอก กว่าจะคัดจบแต่ละเล่มคือความยากลำบาก คัมภีร์ต่างๆจึงแทบจะถูกเก็บไว้ไม่ให้คนนอกรับรู้ได้ง่ายๆ นอกจากมาคำนับขอเช่าขอเรียนเท่านั้น การแสวงหาตำรา คัมภีร์ เคล็ดวิชา จึงเป็นดั่งการล่าสมบัติ ผู้ใดได้ครอบครอง ผู้นั้นย่อมเหนือผู้อื่น
มีเพียงบัณฑิตปัญญาชนที่เกี่ยวข้องกับหนังสือ ยุคสมัยผ่านไป การพิมพ์ได้ถูกคิดค้นขึ้น หนังสือเป็นสิ่งแพร่หลาย การอ่านเป็นสิ่งสามัญที่ทุกคนต้องทำได้
ในยุคนี้ หนังสือเป็นสิ่งหาง่าย ไม่ต้องคัดลอกหลังขดหลังแข็ง ไม่ต้องแสวงหาในที่เสี่ยงอันตราย แค่เข้าร้านหนังสือ กระนั้นความศักดิ์สิทธิ์ของหนังสือก็ยังคงเหมือนเดิม แค่ก้มหน้ามองอักขระ ก็เข้าถึงความรู้บางอย่าง ไม่ต้องมีคนพูด ไม่ต้องมีคนสั่ง ไม่ต้องอยู่ข้างกัน ไม่ต้องอยู่ในยุคสมัยเดียวกัน จดหมายจากนักปราชญ์ต่างๆ จากคนที่ฉลาดที่สุดในแต่ละยุคสมัย ได้ถูกจารจดลงในหน้ากระดาษผ่านยุคสมัย สู่หน้าจอดิจิตอล มนตราคาถาเหล่านั้นก็ยังคงเป็นมนตราในชีวิตของผู้ที่ได้ท่อนบ่นถึงมัน และแม้หนังสือจะมีอยู่ดาษดื่น แต่มีเพียงผู้แสวงหามันเท่านั้นจึงจะได้พบมัน การไม่อ่านก็เท่ากับการอ่านไม่ออกไปโดยปริยาย
แต่คิดอีกมุมหนึ่ง บางทีหนังสืออาจเป็นฝ่ายแสวงหาผู้ที่เหมาะสมกับมันก็ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น