คนที่เป็นแผลเริมที่ปากจะรู้ว่ามันน่ารำคาญขนาดไหน ทั้งคัน แสบร้อน ถ้าไม่กินยาหรือทายา จะปวดแสบปวดร้อนจนนอนไม่หลับกันเลยทีเดียว อีกทั้งเมื่อแผลกำเริบก็ต้องระวังไม่ให้ติดคนอื่นด้วย(รับผิดชอบต่อสังคม) และยาเริมเป็นอะไรที่แพงมาก และตามใบกำกับยาบอกไว้ว่ามีผลกระทบต่อตับไต แต่จะทำยังไงได้ ไม่กินก็ไม่ได้ แผลมันจะไม่หายง่ายแถมเจ็บด้วย เราก็หาสมุนไพรสำหรับรักษาแผลเริม ส่วนใหญ่เป็นสมุนไพรสำหรับทา แบบกินหาไม่ได้เลย ก็เลยใช้ยาทาสมุนไพรจีนเพื่อไม่ให้เจ็บแผล คู่กับยากินแผนปัจจุบันปัจจุบันเพื่อให้แผลไม่กำเริบและหายเร็ว
ค้นหาไปค้นหามา จนในที่สุดก็เจอยาสมุนไพรจีนตัวนึงเป็นยากิน ชื่อว่า มีกีฟู ของ อ้วยอันโอสถ เราเห็นว่ามีสรรพคุณ แก้แผลพุพอง อยู่ด้วย ซึ่งเริมในทางแพทย์แผนจีนคือแผลพุพองจากความร้อนชื้นในร่างกาย เลยทดลองเอามากินดูตอนเป็นเริม ตามโดสข้างกล่อง ครั้งละ 10 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหาร เราก็กินเช้าเย็น 10 เม็ดอาจฟังดูเยอะ แต่สามารถกินทีละ 5 เม็ดได้สบายๆ มันเป็นลูกกลอนเม็ดไม่ใหญ่มากครับ ควบคู่กับการทาน้ำมันฯห้าวหาญไปด้วย วิธีทา คือ เหยาะยาลงบนช้อนโยเกิร์ตสักหยด เอาทิชชูมารองใต้แผลที่ปากแล้วค่อยๆหยดลงไปเหนือแผล จะเย็นสบาย ทาก่อนนอน หลับสบายไม่แสบร้อนแผล
กินไป 3 วันแผลเริ่มแห้ง 5 วันก็เริ่มตกสะเก็ด แต่ราคาถูกกว่าและปลอดภัยกว่าด้วย จะกินต่อจนกว่าจะหมดขวด(10 วัน)หรือหยุดแค่วันที่ 5 เหมือนยาแผนปัจจุบันก็แล้วแต่พิจารณา เพราะเริ่มจะหายแล้วครับ
มาลองคำนวณราคากัน ราคาหน้ากล่องมีกีฟูอยู่ที่ 100 บาท; บรรจุ 200 เม็ด. กินครั้งละ 10 เม็ด; วันละ 2 ครั้ง. 1 ขวดกินได้ 10 วัน; ตกวันละ 10 บาท. ถูกกว่ายาเริมแผนปัจจุบันกว่าครึ่ง ซึ่งตกประมาณ 20-100 บาท/วัน ขึ้นอยู่กับ mg ของยา และต้องกินอย่างน้อย 5 วัน
น้ำมันฯห้าวหาญ ขวดละ 80 บาท ใช้แค่ทีละหยดวันละครั้ง หรือ 2-4 ครั้งก็ได้ ยังเหลืออีกมาก เอาไว้ทาแผลแก้ คัน แมลงกัดต่อย และอื่นๆได้ด้วย ถูกกว่ามาก ส่วนครีมทาเริมหลอดละ 120 บาท ทาทุกๆ 4 ช.ม. ส่วนใหญ่เมื่อหายก็จะหมดหลอดพอดี
มีกีฟู ภาษาจีนแปลว่า ผิวสวย สรรพคุณตามใบกำกับยาบอกว่า แก้โรคผิวหนัง พุพอง น้ำเหลืองเสีย ผื่นคันตามหนัง หรือใช้รักษาสิวก็ได้ เห็นว่ามีรักษาแผลพุพอง จึงลองกับแผลเริมที่ปากก็ได้ผล เริมที่อื่นก็น่าจะได้เหมือนกัน และคิดว่า งูสวัส ก็น่าจะรักษาได้ ถ้าแผลไม่ใหญ่เกินไป แต่อาจต้องกินเพิ่มเป็น 3 ครั้ง/วัน เพราะแผลใหญ่กว่าเริมมาก และอาจใช้เวลานานกว่า
ส่วนประกอบมีกีฟู
ไข่มุก : บำรุงผิว สงบตับ ลดไฟตับ
เลี่ยงเคี้ยว : ดับร้อน ขับพิษ ลดความร้อนของเลือด
แชตี่ : ดับร้อน ทำให้เลือดเย็น เสริมหยิน
ข้าวเย็นเหนือ : ขับพิษ ขจัดความชื้น-ร้อนจากผิว
หงึ่งฮวย : ดับร้อน ถอนพิษร้อน ขับความชื้น-ร้อน
โดยรวมเป็นสมุนไพรฤทธิ์เย็น ทำให้เลือดเย็นลง ปอดเย็นลง และแก้ร้อนใน ซึ่งตามหลักแพทย์แผนจีน ปอดส่งผลเกี่ยวข้องกับผิวหนังด้วย จึงรักษาอาการได้กว้างหากเหตุของโรคมาจากการที่มีการอักเสบ เลือดร้อน ปอดร้อน เมื่อหายดีแล้วก็ควรหยุดกิน เพราะมันคือยารักษา ไม่ใช่ยาบำรุงครับ
ที่นำมาแบ่งปันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัว นำมาเล่าสู่กันฟัง เราใช้แล้วหาย อาจป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆบ้างนะครับ เอาไว้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับสายสมุนไพร เพราะยาเริมแพงเหลือเกิน โรคคนรวย ไม่รวยอย่าเป็น เพราะยามันแพง 555+😂(แซว) และคนที่เป็น เมื่อมีอาการก็ควรระวังไปติดคนอื่นด้วยนะครับ เพราะพวกเราเองก็ติดจากคนที่ไม่ระวังเหมือนกัน เมื่อเป็นแล้วก็กินยา ทายา ไม่นอนดึก(เกิน 11pm) พักผ่อนให้เพียงพอ งดอาหารทะเล ของร้อนใน และสุรา
ขอให้ทุกท่านสุขภาพดี
ไม่ป่วยไม่ไข้นะครับ
สวัสดีครับ
แถม
เคยลองกินสมุนไพรเพื่อแก้เริมที่ปากมาหลายตัว ผลไม่ชัดเจนเท่ามีกีฟู เพราะยังไม่ได้ทดลองแบบจริงๆจังๆ แต่รู้สึกว่าน่าจะพอช่วยได้เหมือนกัน คือถ้าหามีกีฟูไม่ได้ก็ลองให้กิน แปะฮวยจั่วจิเฉ่า(เม็ด) หรือ ยิ่นเคี้ยวโกยตั๊กเพี่ยง อย่างใดอย่างหนึ่งแทนครับ
แต่ให้ดีทาน้ำมันฯห้าวหาญวันละครั้งก่อนนอนหรือทุกๆ 2-4 ช.ม. ช่วยได้มากครับ ยาทาภายนอกจะช่วยให้แผลหายและแห้งเร็วอย่างเห็นได้ชัด
การดื่มจับเลี้ยงหรือเซี่ยซางจูในช่วงที่เป็นด้วยก็ช่วยเสริมให้เริมไม่ลุกลามได้เหมือนกันครับ แต่ไม่ควรกินพร้อมยา เว้นสักครึ่งช.ม.เป็นอย่างน้อย ดื่มแทนน้ำ ดื่มระหว่างวันกำลังดี(ระวังน้ำตาล)
อ้างอิง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น