สวัสดีครับ จากที่เราได้เคยนำเสนอบทความ Classical music for brain - รวมเพลงคลาสสิคสำหรับเพิ่มพลังสมอง ไปแล้วในครั้งกระนู้น ครั้งนี้เรารวบรวมเอาเพลงแจ๊สที่ไพเราะ และเรามักใช้ฟังเพื่อช่วยเพิ่มพลังในการกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะฟังตอนอ่านหนังสือ เราเห็นว่ามันดีมาก เลยอยากมาแนะนำเพื่อน ๆ ให้ได้ฟังกัน จึงรวบรวมมาไว้ ณ ที่นี้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจต่อไปนะครับ เอาล่ะ ว่าแล้วก็ไปฟังกันเลยดีกว่า ;)
เป็นบทเพลงที่เราคัดสรรมาสำหรับเพื่อน ๆ นักอ่านทุกท่าน หวังว่าเพื่อน ๆ คงจะชื่นชอบ บทความนี้เราแนะนำให้ Bookmark เอาไว้เลยครับ จะได้กลับมาเปิดฟังได้ทุกวันไงล่ะครับ ;)
ขอให้มีความสุขกับการอ่านหนังสือนะครับ
สวัสดีครับ ^-^
https://jazzylj.blogspot.com นำความรู้ต่างๆมา "จับฉ่าย" ให้ย่อยง่ายเรียนรู้ได้ไม่ติดขัด ที่สำคัญนำไปประดับความรู้ได้ทันที ^_^ สร้างสรรค์สังคมแบ่งปันความรู้
Sponsor
25 มิถุนายน 2561
Goregrind - บทเพลงแห่งการบดขยี้
แนวเพลงในโลกนี้มีมากมายจนเราอาจนึกไม่ถึง ช่วงนี้ชอบหาเพลงแปลก ๆ มาฟังครับ ปกติก็ฟังเกือบทุกแนว แต่ไม่ค่อยก้าวข้าม Power Metal ไปในจุดที่ดุดันกว่านั้นเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้ผมข้ามไปแล้ว! และมันบันเทิงทีเดียวครับ!
แนวเพลงที่ผมจะกล่าวถึงในบทความนี้คือแนว Goregrind และ Brutal เป็นสายหนึ่งของ Death metal ซึ่งเขาว่ากันว่าแนว Gore กับ Brutal เนี่ย(ต่อไปจะเรียกว่า Gore อย่างเดียวนะครับ) จะเป็นแนวที่หนักมากที่สุดแล้วในแนวดนตรีทั้งหลายทั้งปวง ณ ขณะนี้! ด้วยเสียงกีต้าร์เยี่ยงเลื่อยยนตร์ เสียงเบสกดดันเยี่ยงห้องปิดตาย เสียงกลองรัวเยี่ยงประทัดตรุษจีน เสียงร้องเยี่ยงหมูถูกเชือด! มันช่างลงตัวเสียงนี่กระไร!
โดยทั่วไปเนื้อหาหรือธรีมของเพลงจะเป็นแนวฆาตกรรม ทรมานฅน ทำร้ายฅน กินหรือชำแหละศพ ในลักษณะความวิปริตทางจิตแบบสุดขั้ว ซึ่งมักมีซาวด์สยองขวัญประกอบอยู่ด้วย ปกก็จะโหด ๆ หน่อย แต่ยังมีชื่อเรียกแนวย่อย ๆ ตามเนื้อหาหรือธรีมของเพลงที่ต่างออกไป เช่น Porngrind ที่จะเกี่ยวกับความวิปริตทางเพศ ความอุจาด ต่าง ๆ นานา และมักมีซาวด์โป๊ ๆ ประกอบอยู่ด้วย ปัจจุบันนี้แนว Gore มีหลายธรีมมาก แต่ส่วนใหญ่จะฟังไม่ค่อยเป็นภาษาเพราะเทคนิคการร้องเสียงหมูที่เข้มข้นมาก ส่วนใหญ่อาจไม่มีเนื้อร้อง แต่เพลงที่มี ซึ่งถ้าเอามาแปลแล้ว ศัพท์ที่พี่ท่านทั้งหลายใช้จะเป็นศัพท์สูงศัพท์ยากที่ฝรั่งทั่วไปก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะมักเป็นศัพท์ทางการแพทย์ทั้งนั้นครับ ว่ากันว่าต้นตอของการใช้ศัพท์เหล่านี้เกิดจากวงที่บุกเบิกแนวนี้เนี่ย ที่บ้านเขามีดิกชันนารีศัพท์ทางการแพทย์ แล้วปิ๊งไอเดียที่จะเขาศัพท์พวกนี้ใส่ไปในเนื้อเพลง ซึ่งกลายเป็นธรรมเนียมต่อ ๆ กันมา ที่มาต่าง ๆ ก็ขอเล่าไว้เป็นสังเขปประมาณนี้นะครับ
แต่มีเรื่องต้องส่งท้ายนิดหน่อย ภาคดนตรีแนวนี้ไม่ต้องกล่าวให้มากความ เพราะแทบทุกฅนต้องลงมติว่ามันสุดยอดอย่างแน่นอน แต่สำหรับเสียงร้องแบบหมู มือใหม่ที่เริ่มฟังหลายฅนรับไม่ได้ ผมให้แนวคิดอย่างนี้ครับว่า ให้คิดซะว่านักร้องเป็นผู้ทำซาวด์ประกอบเพลง ไม่ต้องไปจับคำร้องอะไรให้มากนัก ฟังเอาธรีม บรรยากาศ และความบันเทิงจากความแปลกใหม่ก่อนจะดีที่สุดครับ เพราะจะได้ลองฟังซะทียังไงล่ะครับ ๕๕๕บวก บางเพลงจะมีหลากหลายอารมณ์ ท่อนโหดก็จะรัวกลองอย่างกับทำหมูสับสองปังตอ ท่อนหดหู่ก็จะหนืดช้าพอให้นักดนตรีหายเมื่อย แล้วก็สับหมูต่อ! ภาคดนตรีจะเปลี่ยนตามบรรยากาศของธรีม เพลงหนึ่งก็นับเป็นเรื่องสั้นเรื่องนึงได้เลย เรื่องสั้นโหด ๆ สับ ๆ ที่เสพได้ด้วยการฟัง นี่นับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งเหมือนกันครับที่ทำให้มันสุดยอด
ผมได้คัดสรรอัลบั้มที่น่าสนใจและคิดว่ามือใหม่น่าจะพอฟังได้เอาไว้ข้างล่างนี้แล้ว ที่สำคัญที่สุดถ้าอันไหนฟังแล้วรู้สึกไม่ไหว อย่าฝืน ให้ลองหาวงอื่น ๆ ต่อไป สำคัญคือ ขอให้บังเทิงกับ Goregrind ครับ
ค้นหาเพลงแนวนี้เพิ่มเติมลองใช้คำค้นเหล่านี้ goregrind, porngrind, brutal death, slamming death, slamming brutal
เพลงแนวนี้ฟังโหด ๆ ก็จริง แต่ลองดูคอนเสิร์ตครับ แต่ละฅนอย่างฮาเลย
ต่อกันแบบน็อนสต๊อปให้เมาดิบกันไปข้างนึงเลย!
ใครที่ชอบดูหนังแนวสัตว์ประหลาดอวกาศไซไฟอาจชอบวงนี้
สำหรับคนที่เพิ่งรู้จักเพลงแนวนี้ก็เหมือนเปิดโลกใหม่เลยทีเดียว มันมีอะไรแบบนี้อยู่ด้วยเว้ย! เป็นไงครับ โดนใจบ้างรึเปล่า
เอาล่ะ เมาดิบกันพอสมควรแล้ว
ไว้เจอกันบทความหน้าครับ
สวัสดีครับ ^-^
มีบทความภาคสองแล้วนะ ตามไปอ่านกันได้ครับ ;D
ศึกษาเพิ่มเติม
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A5
https://fxxknoevil.wordpress.com/2006/10/17/carcass-in-and-out-of-context-the-possibility-of-post-death-metal/
http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=94621
แนวเพลงที่ผมจะกล่าวถึงในบทความนี้คือแนว Goregrind และ Brutal เป็นสายหนึ่งของ Death metal ซึ่งเขาว่ากันว่าแนว Gore กับ Brutal เนี่ย(ต่อไปจะเรียกว่า Gore อย่างเดียวนะครับ) จะเป็นแนวที่หนักมากที่สุดแล้วในแนวดนตรีทั้งหลายทั้งปวง ณ ขณะนี้! ด้วยเสียงกีต้าร์เยี่ยงเลื่อยยนตร์ เสียงเบสกดดันเยี่ยงห้องปิดตาย เสียงกลองรัวเยี่ยงประทัดตรุษจีน เสียงร้องเยี่ยงหมูถูกเชือด! มันช่างลงตัวเสียงนี่กระไร!
โดยทั่วไปเนื้อหาหรือธรีมของเพลงจะเป็นแนวฆาตกรรม ทรมานฅน ทำร้ายฅน กินหรือชำแหละศพ ในลักษณะความวิปริตทางจิตแบบสุดขั้ว ซึ่งมักมีซาวด์สยองขวัญประกอบอยู่ด้วย ปกก็จะโหด ๆ หน่อย แต่ยังมีชื่อเรียกแนวย่อย ๆ ตามเนื้อหาหรือธรีมของเพลงที่ต่างออกไป เช่น Porngrind ที่จะเกี่ยวกับความวิปริตทางเพศ ความอุจาด ต่าง ๆ นานา และมักมีซาวด์โป๊ ๆ ประกอบอยู่ด้วย ปัจจุบันนี้แนว Gore มีหลายธรีมมาก แต่ส่วนใหญ่จะฟังไม่ค่อยเป็นภาษาเพราะเทคนิคการร้องเสียงหมูที่เข้มข้นมาก ส่วนใหญ่อาจไม่มีเนื้อร้อง แต่เพลงที่มี ซึ่งถ้าเอามาแปลแล้ว ศัพท์ที่พี่ท่านทั้งหลายใช้จะเป็นศัพท์สูงศัพท์ยากที่ฝรั่งทั่วไปก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะมักเป็นศัพท์ทางการแพทย์ทั้งนั้นครับ ว่ากันว่าต้นตอของการใช้ศัพท์เหล่านี้เกิดจากวงที่บุกเบิกแนวนี้เนี่ย ที่บ้านเขามีดิกชันนารีศัพท์ทางการแพทย์ แล้วปิ๊งไอเดียที่จะเขาศัพท์พวกนี้ใส่ไปในเนื้อเพลง ซึ่งกลายเป็นธรรมเนียมต่อ ๆ กันมา ที่มาต่าง ๆ ก็ขอเล่าไว้เป็นสังเขปประมาณนี้นะครับ
แต่มีเรื่องต้องส่งท้ายนิดหน่อย ภาคดนตรีแนวนี้ไม่ต้องกล่าวให้มากความ เพราะแทบทุกฅนต้องลงมติว่ามันสุดยอดอย่างแน่นอน แต่สำหรับเสียงร้องแบบหมู มือใหม่ที่เริ่มฟังหลายฅนรับไม่ได้ ผมให้แนวคิดอย่างนี้ครับว่า ให้คิดซะว่านักร้องเป็นผู้ทำซาวด์ประกอบเพลง ไม่ต้องไปจับคำร้องอะไรให้มากนัก ฟังเอาธรีม บรรยากาศ และความบันเทิงจากความแปลกใหม่ก่อนจะดีที่สุดครับ เพราะจะได้ลองฟังซะทียังไงล่ะครับ ๕๕๕บวก บางเพลงจะมีหลากหลายอารมณ์ ท่อนโหดก็จะรัวกลองอย่างกับทำหมูสับสองปังตอ ท่อนหดหู่ก็จะหนืดช้าพอให้นักดนตรีหายเมื่อย แล้วก็สับหมูต่อ! ภาคดนตรีจะเปลี่ยนตามบรรยากาศของธรีม เพลงหนึ่งก็นับเป็นเรื่องสั้นเรื่องนึงได้เลย เรื่องสั้นโหด ๆ สับ ๆ ที่เสพได้ด้วยการฟัง นี่นับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งเหมือนกันครับที่ทำให้มันสุดยอด
ผมได้คัดสรรอัลบั้มที่น่าสนใจและคิดว่ามือใหม่น่าจะพอฟังได้เอาไว้ข้างล่างนี้แล้ว ที่สำคัญที่สุดถ้าอันไหนฟังแล้วรู้สึกไม่ไหว อย่าฝืน ให้ลองหาวงอื่น ๆ ต่อไป สำคัญคือ ขอให้บังเทิงกับ Goregrind ครับ
ค้นหาเพลงแนวนี้เพิ่มเติมลองใช้คำค้นเหล่านี้ goregrind, porngrind, brutal death, slamming death, slamming brutal
เพลงแนวนี้ฟังโหด ๆ ก็จริง แต่ลองดูคอนเสิร์ตครับ แต่ละฅนอย่างฮาเลย
ต่อกันแบบน็อนสต๊อปให้เมาดิบกันไปข้างนึงเลย!
ใครที่ชอบดูหนังแนวสัตว์ประหลาดอวกาศไซไฟอาจชอบวงนี้
สำหรับคนที่เพิ่งรู้จักเพลงแนวนี้ก็เหมือนเปิดโลกใหม่เลยทีเดียว มันมีอะไรแบบนี้อยู่ด้วยเว้ย! เป็นไงครับ โดนใจบ้างรึเปล่า
เอาล่ะ เมาดิบกันพอสมควรแล้ว
ไว้เจอกันบทความหน้าครับ
สวัสดีครับ ^-^
มีบทความภาคสองแล้วนะ ตามไปอ่านกันได้ครับ ;D
ศึกษาเพิ่มเติม
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A5
https://fxxknoevil.wordpress.com/2006/10/17/carcass-in-and-out-of-context-the-possibility-of-post-death-metal/
http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=94621
24 มิถุนายน 2561
Poker Assault - เกมไพ่จู่โจม
อาจประยุกต์เล่นแก้ขัดกับสำรับไพ่มาตราฐานได้นะครับ ดูวิธีเล่นแล้วน่าจะมันส์ ;)
Solfeggio Frequency - ความถี่บำบัด
ช่วงนี้ชอบค้นหาเพลงแปลก ๆ มาฟังครับ หลังจากที่ค้นไปค้นมาก็เจอเรื่อง Solfeggio Frequency หรือที่ผมเรียกว่า ความถี่บำบัด นอกจากช่วยผ่อนคลายใช้ทำสมาธิแล้ว ยังช่วยก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและจิตใจด้วย ถึงตรงนี้ผมว่ามันชักจะน่าสนใจแล้วแฮะ เดียวผมจะเล่าให้ฟังครับว่าผมค้นเจออะไรน่าสนใจมาบ้าง
ความถี่บำบัดนำมาจากความถี่ของโน้ตสากลโบราณ(Solfeggio) ซึ่งก็คือโน้ต โดเรมีฯ นี่แหละครับ แต่ความถี่ในการตั้งเสียงจะต่างออกไปจากปัจจุบัน ด้วยความเชื่อที่ว่าความถี่เสียงมีผลต่อร่างกายของมนุษย์เรา การสั่นสะเทือนที่สอดคล้องกันอย่างสมดุลจะช่วยบำบัดรักษาและกระตุ้นร่างกายได้ไปจนถึง DNA เลยทีเดียว
คลื่นความถี่ Solfeggio พื้นฐานทั้ง 6 คือ
UT or DO – 396Hz – Liberating Guilt and Fear
ช่วยปลดปล่อยความรู้สึกผิด และความกลัว
RE – 417Hz – Undoing Situations and Facilitating Change
ช่วยลบล้างสถานภาพและพลังงานเชิงลบต่างๆ และช่วยส่งเสริมการเปลี่ยนแปลง
MI – 528Hz – Transformation and Miracles (DNA Repair)
ช่วยในการเปลี่ยนรูปแบบ และนำปาฏิหาริย์มาสู่ชีวิต – ช่วยซ่อมแซม DNA เรียกกันว่า คลื่นเสียงพลังงานความรัก ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุด
FA – 639Hz – Connecting/Relationships
ช่วยในด้านการประสานสัมพันธ์ / ความสัมพันธ์กับผู้อื่น สร้างสัมพันธภาพระหว่างบุคคลได้อย่างกลมกลืน ปลดปล่อยความโกรธและความริษยา
SOL – 741Hz – Awakening Intuition
ช่วยปลุกให้สัญชาติญาณหยั่งรู้ตื่นขึ้น ชำระล้างพิษและทำความสะอาดเซลในร่างกาย
LA – 852Hz – Returning to Spiritual Order
ช่วยพากลับไปสู่ความเป็นจิตวิญญาณ ยกระดับพลังงานให้กับเซล ปลดปล่อยความวิตกกังวล
จากเดิมที่มีแค่ 6 ความถี่ ภายหลังได้มีการวิจัยค้นพบความถี่อื่น ๆ เพิ่มขึ้นมาอีก 3 ความถี่ คือ
174Hz – Frequency is natural anesthetic. It relieves pain and gives your organs a sense of safety, love and security and encourages them to do their best.
เป็นยาชาธรรมชาติ ช่วยลดความเจ็บปวดและช่วยให้อวัยวะของคุณมีความรู้สึกปลอดภัย ความรักและมั่นคง และกระตุ้นให้อวัยะทำงานได้ดีที่สุด
285Hz – Solfeggio Frequency - Heals and Regenerates Tissues , Restructures damaged organs by sending message to Tissues, Bringing them to original form.
เยียวยาและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ปรับโครงสร้างอวัยวะที่เสียหายโดยการส่งข้อความไปยังเนื้อเยื่อ นำไปสู่รูปแบบดั้งเดิม
963Hz or TI – Frequency helps in Pineal Gland Activation and is associated with awakening intuition.
ช่วยในการเปิดใช้งานต่อม Pineal Gland (เปิดตาที่สาม) และเกี่ยวข้องกับสัญชาตญาณการตระหนักรู้
รวมเป็น 9 ความถี่หลัก เรียกว่า 9 Solfeggio Frequencies
เว็บไซท์ของเขามี file เสียงทั้ง 9 เสียงให้ดาวน์โหลดฟรีครับ http://www.solfeggiotones.com/
แต่เดิมเสียงพวกนี้คือเสียงโน้ตเดียว ๆ เลยครับ(Raw tone) ลองนึกถึงเสียง ตู๊ดดดดดดดดดด ค้างยาว ๆ นั่นแหละครับ ปัจจุบันได้นำมามิกซ์ความดังเบา จังหวะสั้นยาว และเพิ่มดนตรีสร้างเสียงให้น่าฟังยิ่งขึ้นในแนวภวังค์ แต่โดยหลักแล้วก็คือมีเสียงความถี่หนึ่ง ๆ เป็นแก่นเสียงเบา ๆ อยู่เบื้องหลัง สามารถหาฟังได้ทั่วไปใน youtube ด้วยการนำความถี่ไปค้นหาได้เลยล่ะครับ
เนื่องจากดั้งเดิมเป็นเสียงเดียว ๆ เพียว ๆ แนวคิดนี้จึงเชื่อมโยงกับการสวดสมาธิภาวนาด้วย เช่นการสวด โอมมมมมม ลากเสียงยาว ๆ แบบนี้ ก็ถูกนำมาเทียบเคียงเช่นกันว่า นอกจาก ความถี่ แล้ว คำ ก็ใช้ได้ในแบบเดียวกัน เรียกว่า มนตรา ซึ่งจับคู่ดังนี้ครับ
UT = Lam แลม
RE = Vam วัม
MI = Ram รัม
FA = Yam ยัม
SOL = Ham ฮัม
LA = Aum อุม
TI = Om โอม
ทำให้เข้าใจว่าถ้าไม่มีความถี่ให้ฟัง สวดคำเองก็ได้อะไรแบบนี้? ซึ่งการสวดเท่าที่ทราบมาคือลากเสียงคำนั้นให้ยาว ๆ แล้วเริ่มใหม่ไปเรื่อย ๆ เหมือนที่เราเคยได้ยินในหนังกันมาบ้างนั่นแหละครับ โดยให้สรรพคุณเดียวกันกับการฟังความถี่บำบัดเลยทีเดียวเชียวนะครับนี่ บ้างก็บอกว่าสวดคำเองให้ผลดีกว่าเปิดความถี่เสียอีก
ตั้งแต่ Dr. Joseph Barber ผู้ริเริ่มค้นหาความถี่ของตัวโน้ตโบราณ จนถึงตอนนี้ได้มีการค้นพบความถี่บำบัดอีกมากมายไม่รู้กี่คลื่นต่อกี่คลื่นครับ มีสรรพคุณต่าง ๆ นานา แต่หลัก ๆ ก็คือการช่วยผ่อนคลายและทำสมาธิ ดูได้ที่นี่ http://lunarsight.com/freq
แต่โดยทั่วไปจะใช้กันแค่ 9 ความถี่ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นเป็นหลัก เปิดคลอเบา ๆ ตอนทำสมาธิ ตอนนอน หรือตอนทำงาน ก็ได้ ตามแต่สะดวก หาฟังได้ตาม youtube หรือสำหรับ App บนมือถือเดี๋ยวนี้ก็มี ผมแนะนำ Chakra Meditation ตัวนี้กินพื้นที่น้อย มี 6 ความถี่ เสียง Solfeggio จะเป็นเสียงดิบเพียว ๆ แต่มีให้เลือกหลายแบบ(ตั้งค่าเสียงให้เป็น Binaural ก็ยังได้! แต่ต้องใช้หูฟังนะ) มีแบบเสียงสวดมนตราด้วย แต่ต้องปรับแต่ง Loop ของมันให้เหมาะสมกับเราก่อน เพราะค่าเริ่มต้นของมันเปลี่ยนความถี่ไปเรื่อยทุก ๆ 5 วินาที ถ้าอยากฟังแค่ความถี่เดียวต้องตั้งค่าให้วนซ้ำอันเดิม ก็เลือกปรับแต่งได้ตามต้องการ พวกเสียงดิบมีข้อดีอย่างนึงคือสามารถเปิดคลอได้ตลอดในทุกกิจกรรม ทีนี้ก็พกพาไปฟังได้แล้วสิ! แต่ก็มีคำเตือนนิดนึงว่า ไม่ควรฟังขณะขับรถหรือขณะทำงานกับเครื่องจักรนะครับ
ก็ประมาณนี้ล่ะครับสำหรับ Solfeggio Frequency - ความถี่บำบัด ไม่ว่าสรรพคุณที่กล่าวอ้างจะได้ผลตามนั้นแค่ไหนก็ตาม การวิจัยก็ยังคงต้องทำการพิสูจน์กันต่อไป แต่เสียงแนวภวังค์ก็ช่วยให้เรามีสมาธิและผ่อนคลายได้อยู่เหมือนกันนะครับ นั่นก็นับเป็นประโยชน์ที่เราสามารถใช้ได้เหมือนเพลงประกอบบรรยากาศ และดนตรีย่อมช่วยจรรโลงใจของเราได้เสมอใช่มั้ยล่ะครับ
หากเพื่อน ๆ มีอะไรต้องการแนะนำแก้ไขเพิ่มเติมโพสในคอมเม้นต์ได้เลยนะครับ
สำหรับบทความนี้ เท่านี้ก่อนครับ
ไว้เจอกันบทความหน้า
ด้วยรัก
สวัสดีครับ ^_^
ถ้าไม่รู้จะฟังคลื่นไหนก็คลิปนี้เลยครับ 9 คลื่นสลับไปสลับมาอย่างแนบเนียน จัดเต็มไปเลย ๕๕๕บวก
10000 Hz Frequency Series
แถม
ทางตะวันออกเองก็มีดนตรีบำบัดตามหลักปรัชญาจีน น่าสนใจไม่แพ้กัน
ลิ้งค์ศึกษาเพิ่มเติมและอ้างอิง ที่ผมรวบรวมจากแหล่งต่าง ๆ ที่น่าสนใจ
http://powerthoughtsmeditationclub.com/how-to-use-solfeggio-frequencies/
http://powerthoughtsmeditationclub.com/what-is-the-solfeggio-frequencies/
meditativemind.org/relief-stress-and-wipe-out-negativity-with-music-based-on-ancient-solfeggio-frequencies/
http://meditativemind.org/category/solfeggio-frequencies/
https://www.facebook.com/chayutt.deejaroen/notes?lst=100000190650420%3A100001209252293%3A1529764378
https://chokedeemak.wordpress.com/2015/12/29/%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%9f%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%81%e0%b9%86-%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2/
http://topicstock.pantip.com/siam/topicstock/2010/11/F9887583/F9887583.html
http://powerthoughtsmeditationclub.com/how-to-use-solfeggio-frequencies/
http://powerthoughtsmeditationclub.com/what-is-the-solfeggio-frequencies/
meditativemind.org/relief-stress-and-wipe-out-negativity-with-music-based-on-ancient-solfeggio-frequencies/
http://meditativemind.org/category/solfeggio-frequencies/
https://www.facebook.com/chayutt.deejaroen/notes?lst=100000190650420%3A100001209252293%3A1529764378
https://chokedeemak.wordpress.com/2015/12/29/%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%9f%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%81%e0%b9%86-%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2/
http://topicstock.pantip.com/siam/topicstock/2010/11/F9887583/F9887583.html
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)