ไม้ขีดไฟ - ตำนานที่ยังสว่างไสว่

ไม้ขีดไฟตราพริก
กลักไม้

ไม้ขีดไฟตราพริก เป็นไม้ขีดไฟที่ผมคุ้นเคยมานาน ไม่นึกว่าตอนนี้ยังทำกลักจากไม้แบบดั้งเดิมอยู่เลย(ดูได้ที่ขอบกลัก)ในขณะที่เจ้าอื่นเปลี่ยนไปใช้กระดาษกันหมด แถบข้างก็ฉาบฟอสฟอรัสแดงได้เต็มและหนาสะใจจริงๆครับ ๕๕๕บวก
เป็นยี่ห้อที่ยังคงจัดเต็มทุกอย่างดั้งเดิม ต่างไปจากเดิมคือเมื่อก่อนเคยมี 50 ก้าน แต่ตอนนี้เหลือแค่ 45 ก้าน/กลัก แต่ยี่ห้ออื่นๆก็ลดปริมาณใดๆลงไม่ต่างกัน

ได้ฟังมาว่าหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม้ขีดไฟถือเป็นปัจจัยสำคัญของคนในประเทศใช้เป็นเครื่องมือจุดไฟ ผลิตไม้ขีดออกมาเท่าไหร่ก็ไม่พอ จนรัฐบาลต้องกำหนดให้แต่ละบ้านมีไม้ขีดห้ามเกิน 2 กลัก/เดือน กระทั่งว่าเวลาใช้ต้องผ่าไม้ขีดไฟเป็น 2 ซีกเพื่อให้พอใช้จุดไฟได้ทั้งเดือน!

และวันนี้ไม้ขีดเริ่มหายากอีกครั้งไม่ใช่เพราะผลิตไม่ทัน แต่เริ่มหมดความสำคัญท่ามกลางยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ไม่รู้เหมือนกันว่าเทคโนโลยีไฟพกพาที่เรียกว่าไม้ขีดจะยังสว่างได้นานถึงเมื่อไหร่...

ไม้ขีดไฟของไทยที่เก่าที่สุดที่เจอที่บ้าน ตราสวัสดี
เป็นช่วงยุคกลักกระดาษแล้ว

ศึกษาเพิ่มเติม
http://th.wikipedia.org/wiki/ไม้ขีดไฟ

Domino - โดมิโน่ เกมต่อแต้ม

หลังจากได้เจอชุดโดมิโน่เลยได้เอามาลองเล่นอีกทีทั้งที่ลืมวิธีการเล่นไปหมดแล้วครับ ในวิกิพูดถึงโดมิโน่ไว้ว่าเป็นแนว Tactics, strategy แต่นึกย้อนกลับไปไม่รู้สึกว่ามันเป็นแนวยุทธศาสตร์ตรงไหน รู้สึกว่ามันแค่ขำๆไม่มีอะไรเลยด้วยซ้ำ
แต่พอได้ลองเล่นดูอีกครั้งมันต้องใช้ Tactics และ Strategy จริงๆ ในการวิเคาะห์หมากตัวที่เหลือเพื่อเลือกตัวหมากที่จะลง เลือกทิศทางการวางเพื่อเอื้อต่อการลงตาต่อไป หรือจะเป็นบล๊อคอีกฝ่ายหนึ่งก็ได้ และมันลุ้นได้สนุกมาก

ฝึกการมองภาพรวมจากดูหมากที่ลงไปแล้ว

เพื่อวิเคราะห์ตัวหมากที่เหลืออยู่

ฝึกมองในรายละเอียดเพื่อหาทิศทางในการวางหมาก

ให้สอดคล้องกับแต้มหมากที่เหลืออยู่

ตอนเริ่มเกมให้สุ่มหยิบหมากคนละ 4-7 ตัว(แล้วแต่กำหนด ถ้าเล่นสองคนหยิบ 7 ตัว) และหยิบจากกองกลางหนึ่งตัวมาวางเป็นตัวเริ่ม แล้วให้ผลัดกันต่อหัวหรือท้ายแถวก็ได้โดยใช้แต้มที่เหมือนกัน

กฏการเล่นผมสรุปไว้ 3 ข้อ
-ลงตาละหนึ่งครั้งเท่านั้น
-ถ้าไม่มีตัวลงให้จั่วจากกองกลางจนกว่าจะมีตัวลง
-แต้มคู่ให้วางแนวขวาง (และต่อไปสามารถต่อแบบทางแยกได้-แล้วแต่กำหนด)

หมากใครหมดมือก่อนชนะครับ
หรือถ้าต้องจั่วเพิ่มแต่กองกลางหมดแล้วถือว่าจบเกม ให้รวมแต้มที่ถืออยู่ ใครน้อยกว่าชนะ

Double-six

เป็นเกมง่ายๆที่สนุกมากๆ และเพลินจริงๆ ได้ลุ้นได้คิด เล่นไม่เกิน 5 นาทีก็จบ เล่นใหม่ได้เรื่อยๆ สามารถเพิ่มกติกาเองก็ได้ เช่นสมัยเด็กมีการตั้งกฏว่า สามารถคอมโบได้ ถ้าลงแต้มคู่แล้วมีหมากที่ต่อได้ก็ให้ลงได้เลยอีกหนึ่งตัว ทำให้ตานั้นได้ลงสองตัว แบบนี้เป็นต้น เป็นการเพิ่มเทคนิคการจัดการหมากอีกแบบหนึ่ง หรือจะให้แต้มว่างต่อเข้ากับแต้มอะไรก็ได้ แบบนี้ก็สนุกไม่ใช่น้อย(แต่ถ้าต่อจากแต้มว่างต้องใช้แต้มว่างต่อกันเท่านั้น)


ในไทยจะมีชุดโดมิโน่มาตราฐานอยู่ 2 ชุด คือ กล่องเล็กจะเป็นแบบ 6แต้ม(Double-six) คือสูงสุดที่แต้ม6 มีตัวหมาก 28 ตัว เป็นชุดมาตราฐานสากล(เล่นได้ 2-4 คน) กับอีกชุดเป็นกล่องใหญ่เป็นแบบ 9แต้ม(Double-nine) มีตัวหมาก 55 ตัว(เล่นได้ 4-6 คน)
(แต่ในไทยก็มีกล่องกลางด้วยเป็นแบบ 8แต้ม มีหมาก 45 ตัว แต่ไม่มีในมาตราฐานครับ)

โดมิโน่เล่นได้ทุกเพศทุกวัยเป็นปาร์ตี้เกมง่ายๆราคาย่อมเยาว์ที่เรียกเสียงหัวเราะ สนุกสนาน และเพลินกันได้ทั้งก๊วนแน่นอนถ้าได้ลองเล่นดูอีกสักครั้ง หาซื้อได้ตามร้านเครื่องเขียนทั่วไปครับ

จบบทความนี้แล้วลองหยิบโดมิโน่เก่าเก็บออกมา
และขอให้มีความสุขกับการเล่นโดมิโน่กับคนรู้ใจนะครับ ^_^
สวัสดีครับ

ชุดมาตราฐาน 6 แต้ม(Double-six)

ทำโดมิโน่เองที่บ้านก็ได้นะ https://www.flickr.com/photos/27412675@N05/7672475772/

แถม
สำหรับคนที่ชอบโดมิโน่แต่หาตัวโดมิโน่ไม่ได้หรือไม่อยากพกให้หนัก ลองประยุกต์เล่นกับไพ่ได้ครับ ขอแนะนำเกมไพ่ Crazy Eights - เกมไพ่เครซี่เอทส์ ให้อารมณ์คล้ายเล่นโดมิโน่มากๆเลยล่ะครับ เพื่อนๆที่ชอบโดมิโน่น่าจะชอบเกมไพ่นี้แน่นอนเลย ;)

เพิ่มเติม
ประวัติโดมิโน่ http://www.thecardz.com/2010/11/domino-history
โดมิโน่ชนิดต่างๆ http://www.domino-play.com/TypesDominoes.htm

Crystal Radio Receiver "JazzyCR v0.99beta Pocket Radio" - วิทยุแร่เปลี่ยนสถานีได้แบบพกพา

Crystal radio "JazzyCR v0.99beta Pocket Radio"

วิทยุแร่เป็นวิทยุขนาดเล็กพกพาที่ทำเองได้ง่ายๆ ราคาถูก ใชัรับสถานี AM และเป็นวิทยุที่ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ จึงไม่ต้องกังวลเมื่อรับฟังข่าวสารในยามฉุกเฉินหรือภัยพิภัติ หรือจะใช้ฟังทั่วๆไปก็ยังได้ เพียงแต่ต้องมีสายอากาศที่เหมาะสม เท่านี้คุณก็สามารถมีวิทยุเล็กๆที่ใช้รับฟังได้ตลอดไปโดยไม่ต้องห่วงว่าแบตฯจะหมดหรือไฟจะดับเลยล่ะครับ

แต่เนื่องจากไม่มีแบตเตอร์รี่เสียงที่ได้จึงค่อนข้างเบาเหมือนยุงบินอยู่ข้างหู! แต่ฟังรู้เรื่องครับ สมัยก่อนเป็นวิทยุทำเองยอดนิยมสำหรับคนใฝ่รู้ ในยุคที่หนังสือยังไม่แพร่หลายนัก คนที่รักการศึกษาก็จะเรียนผ่านวิทยุแทนครับ(รวมถึงข่าวสาร และบันเทิง) ถึงเสียงเบาแต่สามารถฟังเพลินได้ทั้งวันครับ

การสร้างวิทยุแร่ในยุคนั้นเป็นก็เหมือนใช้คอมฯหาความรู้ในยุคนี้ครับ จนกระทั่งถึงยุควิทยุทรานซิสเตอร์ใช้แบตเตอร์รี่ซึ่งมีเสียงดังฟังชัด วิทยุแร่ก็เสื่อมความนิยมลงตั้งแต่นั้น แต่หากมองว่าไม่ต้องใช้ไฟฟ้าในการรับฟัง วิทยุแร่จะจัดเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารทางไกลที่เรียบง่ายและสุดยอดที่สุดได้เหมือนกันนะ

วงจรวิทยุแร่นี้ผมได้ศึกษาและออกแบบให้สามารถเปลี่ยนสถานีได้ในขนาดพกพาด้วยการขยับแท่งเฟอร์ไรท์แบบ Rocket Radio และเป็นวงจรที่เสถียรที่สุดเท่าที่เคยทำมาไม่มีสัญญาณแทรกหรือขาดหายเลยครับ ไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้วมาดูอุปกรณ์และวงจรกันเลยดีกว่าครับ ;)

วงจรวิทยุแร่ Crystal radio "JazzyCR v0.99beta Pocket Radio"
ใช้งานจริงไม่ต้องต่อกราวด์ก็ได้

อุปกรณ์

• D1 ไดโอด เบอร์ 1N60
• R1 ตัวต้านทาน 100kΩ
• C1 ตัวเก็บประจุเซรามิก 150pF
• L1 ลวดเคลือบน้ำยา #25 120-140 รอบ
• L2 ลวดเคลือบน้ำยา #25 15 รอบ (พันทับ L1 ตรงกลางขด)
• แท่งเฟอร์ไรท์ 2" (บากรอยจากแท่งยาวแล้วหักเอา)
• สายไฟ 1 เส้น ไว้โยงกับอากาศ ยาว 5 หลา
• ปากคีบ
• หูฟังแร่

ขดลวดเคลือบน้ำยาเบอร์ 25 ซื้อมาสัก 4-5m ก็คงเหลือครับ ส่วนขาขดลวดก่อนจะต่อวงจรให้ขูดฉนวนน้ำยาเคลือบออกก่อนนะครับ เมื่อได้อุปกรณ์ครบแล้วแล้วก็ต่อตามวงจรได้เลยครับ แล้วทีนี้เรามาดูรายละเอียดที่ขดลวดเปลี่ยนสถานีกันครับ

การเปลี่ยนสถานีใช้แนวคิดของค่าความเหนี่ยวนำ โดยขดลวดจะมีค่าเหนียวนำที่ตายตัว แต่จากหลักการที่ว่าถ้ามีตัวนำสอดเข้าไปในขดลวดค่าความเหนี่ยวนำจะเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนค่าเหนี่ยวนำของขดลวดคือการเปลี่ยนความถี่ที่ใช้รับนั่นเองครับ จึงได้นำแท่งเฟอร์ไรท์มาตราฐาน(หาได้ที่ร้านอุปกรณ์อิเล็กฯ)มาทดลอง ทำให้เป็นวิทยุแร่ขนาดพกพาที่สามารถเปลี่ยนสถานีได้เสถียรที่สุดเท่าที่เคยทำมาไม่มีสัญญาณแทรกหรือขาดหายเลยครับ เสียงชัดมาก

รูปทดสอบการต่อวงจรจริง
เปลี่ยนคลื่นด้วยการขยับแท่งเฟอร์ไรท์

วิธีทำขดลวดเปลี่ยนสถานี

- ใช้กระดาษแข็งยาว 2.5 - 3" ม้วนรอบแท่งเฟอร์ไรท์เพื่อทำเป็นแถบพันขดลวด

- พันขดลวดบนกระดาษแข็งในพื้นที่ 2" อย่างเป็นระเบียบ พันสองชั้น ชั้นละ 60 รอบ(รวมทั้งหมด 120รอบ)หรือมากกว่า แล้วตัดให้เหลือปลาย 2 ด้าน

- พันขวดลวดซ้อนไว้ตรงกลางอีกชั้นนึง 15 รอบ และเอาปลายข้างนึงพันไว้กับปลายของขดแรก และใช้ปลายอีกข้างต่อกับสายอากาศ

- แท่งเฟอร์ไรท์ที่ซื้อมาจะยาว 5" กว่า ให้ตัดออกเพราะใช้แค่ 2" (ใช้เลื่อยตัดเหล็กบากให้เป็นรอยแล้วหักเอา ถ้าเลื่อยให้ขาดยากมากมันแข็งเหมือนเหล็กชุบแข็งเลย แค่บากเลื่อยก็บิ่นแล้ว ๕๕๕)

แค่ขยับแท่งเฟอร์ไรท์เข้าออกเพื่อเปลี่ยนนค่าความเหนี่ยวนำก็สามารถมาเปลี่ยนสถานีได้แล้วล่ะครับ

ต่อสายอากาศเข้ากับสายสัญญาณโทรศัพท์บ้าน

วิทยุแร่นั้นเมื่อต่อวงจรเสร็จแล้วจะรับสัญญาณได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับสายอากาศเป็นสำคัญ จากการทดลองภายในบ้านจะให้ขึงสายสัญญาณยาวๆก็ไม่สะดวก ผมจึงลองหนีบสายอากาศเข้ากับสายขั้วสัญญาณของโทรศัพท์บ้าน ใช้รับสัญญาณได้ดีมากเลยครับ เพราะสายโทรศัพท์มันโยงมาจากภายนอกอยู่แล้วซึ่งยาวมากๆๆๆๆๆ เราก็ใช้ประโยชน์จากตรงนั้นในการดักสัญญาณวิทยุมานั่นเองครับ(บ้างคนก็หนีบไว้สูงๆ หรือหนีบรั้วลวดหนามที่ยาวๆ หรือสายโลหะที่ราวตากผ้า บ้างก็หลังคาสังกะสี แต่รับได้ไม่ชัวร์เท่าสายโทรศัพท์ครับ) และวงจรนี้ไม่จำเป็นต้องต่อกราวด์แต่อย่างใดครับ

เท่านี้คุณก็สามารถมีวิทยุเล็กๆที่ใช้รับฟังได้ตลอดไปโดยไม่ต้องห่วงว่าแบตฯจะหมดหรือไฟจะดับเลยล่ะครับ(ทำเป็นวิทยุฉุกเฉินประจำบ้านก็ได้นะ)
สุดท้ายนี้ขอให้มีความสุขกับวิทยุแร่ของคุณนะครับ
สวัสดีครับ ^_^

ปล. ห้ามใช้ขณะฝนตกฟ้าคะนองเด็ดขาด!

 

คลิปที่แล้วมีคนบอกว่าช่วงลองฟังเสียงนั้นสั้นเกินไป ครั้งนี้เลยบันทึกท่อนเสียงมาโดยเฉพาะเลยครับ โดยเอาหูฟังแร่จ่อกับไมค์ของกล้อง เสียงมาไม่เต็มเท่าไหร่ ถ้าฟังจริงๆเสียงจะชัดและแน่นกว่านี้หน่อยครับ
ธรรมชาติวิทยุแร่นั้นจะได้เสียงพูดฟังชัดที่สุดครับ ฟังข่าวได้ดี ฟังเพลงก็เพลินๆได้เรื่อยๆครับ

Harirak Knives มีดพกเดินป่า(Bushcraft) - Making myself

Harirak Knives มีดพกเดินป่า(Bushcraft) เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป งานกลางแจ้ง และแคมปิ้ง
พร้อมซองผ้ายีนส์เหน็บเข็มขัดได้

ใบมีดยาว 4 นิ้ว เหล็กกล้าคาร์บอน หนาพิเศษ 3.7mm ตั้งคมแบบ Traditional grind ดั้งเดิม
ด้ามทำจากไม้สักและไม้มะยม สัมผัสละมุน จับกระชับมือ(ทาด้วยเชลแล็กธรรมชาติ)
กั่นยาวสุดด้าม Full-length tang

ผลิตด้วยมือทุกขั้นตอน
Handicraft
Handmade in Thailand
เนื่องจากใช้วัสดุจากธรรมชาติจึงมีลวดลายเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันในแต่ละเล่ม

===================== 

Making myself a Bushcraft knife and sheath knife

Mix Wood handle
Knife with carbon steel blade
Sheath with jean and foam sheet

Blade Thickness: 9/64"
Blade Length: 4"
Total Length: 8.5"
Weight (no sheath): 100g
Weight (with sheath): 120g

Handmade in Thailand
sine 29/08/2013

https://www.facebook.com/harirakfarm

มีดต้นแบบ
Bushcraft knife and sheath kinfe
Classic prototype, bamboo handle

Harirak Knives - Bushcraft 4" : Mix-wood handle (Teak wood and star gooseberry wood)

Harirak Knives - Bushcraft 4" 3/8 Serrated : Mix-wood handle (Teak wood and star gooseberry wood)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

https://www.facebook.com/harirakfarm

Sharpening stone - การเลือกหินลับมีดสำหรับพกพา

หินลับมีด 2 หน้าที่พบได้ทั่วไป

หินลับมีดมีอยู่หลายขนาดครับ ที่พบได้ทั่วไปจะเป็นหินลับมีดที่มี 2 หน้า คือ ด้านหินหยาบและหินกลาง จะเป็นหินลับมีดก้อนใหญ่ และมีน้ำหนักอยู่เหมือนกันนะครับ จะพกไปไหนมาไหนเวลาเดินทางก็ออกจะไม่สะดวกนัก จึงมีหินลับมีดอีกไซส์ขนาดเล็กๆ ไซส์พอๆกับมีดพับบ้างอะไรบ้าง ซึ่งก็หายากและแพงเอาการอยู่เหมือนกันครับ ก็คิดๆว่าจะพกพาหินลับมีดแบบไหนเบอร์อะไรดีถ้าต้องเดินทางหรือเดินป่า ให้พอที่จะใช้ลับเรียกคมมีดคืนมา แบบเบาๆ ไม่ใหญ่ พอพกได้

หินลับมีดแบบเพชรที่ติดมากับชุดมีด Survival

พอดีว่านึกถึงชุดมีด Survival ที่มาเป็นเซ็ตติดอยู่รอบๆซองมีดอย่างเช่น แท่งจุดไฟ และ หินลับมีด ฯลฯ เป็นหินลับมีดขนาดเล็กๆ เห็นอยู่ในชุดมีด Survival หลายยี่ห้อจะมีความหยาบเท่าๆกัน แสดงว่าหินหยาบเบอร์นี้เบอร์เดียวน่าจะใช้ได้ การลับคมมีดในป่านั้นผมมีแนวคิดอยู่อย่างนึงว่า "ลับแค่ 3-4 ครั้ง หรือใช้เวลาไม่นานต้องคืนคม" เพราะถ้าเป็นเบอร์ที่ละเอียดเกินอาจต้องลับนานขึ้นมีโอกาสโดนมีดบาดได้เพราะหินลับเล็กครับ หรือถ้าหยาบเกินไปมีดจะสึกเร็ว มักใช้เมื่อมีดบิ่น หรือต้องการตั้งคมใหม่มากกว่าครับ

200 grit

ที่ร้านไปเจอหินลับมีดขนาดบางๆ ที่ใช้ลับมีดกรีดยาง ไซส์และน้ำหนักพอพกพาได้ครับ เลยลองหาเบอร์มาเทียบดูกับหินลับมีด 2 หน้า เลยสรุปด้วยตนเองว่า หน้าหยาบของหินฯ2หน้า ประมาณเบอร์ 200 grit ส่วนหน้าหินละเอียดอยู่ที่ประมาณเบอร์ 800 grit ถ้าจะพกให้ครบชุดทั้งหินหยาบ-หินละเอียด ก็พกหินบางไป 3 ชิ้น คือ 200, 600, 1000+(หรือหินเนียน) จะลับได้คมแบบมีดโกนเลยทีเดียว น้ำหนักทั้งสามก้อนนี้ยังเบากว่าพกหินฯ2หน้าก้อนเดียวอีกครับ

600 girt

แต่ในที่นี้เราต้องการจะหาความหยาบของหินที่เท่ากับชุดหินฯพกพาที่แถมมากับมีดชุด Survival ตกลงว่าความหยาบอยู่ที่ประมาณ 600 grit ครับ ใช้ลับมีดหลังใช้ทุกครั้งที่ลงงานหนัก ลับนิดๆหน่อยๆพอคืนคม

หินฯขนาดเล็กหายากและราคาแพงครับ หินฯใหญ่ก็หนักเกินไป ถ้าจะพกพาไปแค่ก้อนเดียว ลองเลือกหินลับมีดกรีดยางบางๆ เบอร์ 600-1000 ดูครับ บางเบา พกสะดวก ราคาถูก และหาง่าย ราคาก้อนละไม่กี่สิบบาทครับ

ทีนี้ก็ลองจัดชุดมีด Bushcraft หรือว่าชุดมีด Survival ของตัวเองดูนะครับ มีดสันหนา, แท่งจุดไฟ และหินลับมีด รวมไม่เกิน 1,000บาท ประหยัดงบกว่าซื้อเป็นเซ็ตเยอะเลยล่ะครับ

ขอให้มีความสุข สนุกกับการ Bushcraft สัมผัสกับธรรมชาติ และการเดินป่านะครับ ^_^

กึ่งส้อมพรวนกึ่งเสียมจากไม้ไผ่ อย่างง่าย DIY

เศษท่อนไม้ไผ่เหลือขนาดพอดีๆ เอามาบาดปลายใช้เป็นกึ่งส้อมพรวนกึ่งเสียมได้ดี โดยเฉพาะการพรวนดินดีกว่าส้อมพรวนทั่วไปที่มักบิดงอบ่อยๆครับ ช่วงปลายถ้าเหลาให้เป็นเว้าเข้าไปคล้ายๆช้อนจะใช้ตักและขุดได้ดีขึ้นครับ(ในรูปยังไม่ได้เหลาให้เว้า) ถ้าเจอได้ไม้ไผ่ที่มีรูใหญ่หน่อยก็ใช้เป็นกึ่งช้อนปลูกได้เลยทีเดียวครับ

Survival & Bushcraft Knife - มีดกึ่งใบหยักหรือใบเรียบดี?

มีดกึ่งใบหยัก

มีดกึ่งใบหยักใช้ประโยชน์ทั่วไปได้สะดวกดีครับ โดยเฉพาะส่วนใบหยักที่ใช้หั่น และตัดเชือกเหนียวๆ กิ่งไม้เล็กเหนียวๆได้เร็ว(ใช้แบบกึ่งมีดกึ่งเลื่อย) โดยใช้ระยะน้อยมากแค่เกี่ยวและดึง มีดในรูปบนเป็นแบบใบเรียบและใบหยักอยู่ที่ 50% สำหรับผมแล้วไม่สะดวกนักหากต้องตอกมีดผ่าซีกท่อนไม้ เพราะส่วนใบเรียบน้อยและใบหยักจะบิ่นได้ ถ้าให้เหมาะสมจริงๆ สำหรับผมควรมีส่วนใบหยักแค่ 20-30% ก็พอ

ถ้าใช้ในเมืองสำหรับผมมีดกึ่งใบหยักจะใช้ได้อเนกประสงค์สะดวกมากอย่างไม่มีข้อแม้เลยครับ มีไว้ในรถยนต์ก็สะดวกดี ใช้ตัดทั่วไปได้ ส่วนใบหยักอาจใช้ตัดเข็มขัดนิรภัยยามฉุกเฉินได้ดี ส่วนเดินป่าถ้าต้องเลือกแค่เล่มเดียว มีดกึ่งหยักนั้นอเนกประสงค์ดีมากตามคำร่ำลือจริงๆ แต่ต้องคำนึงถึงวิธีใช้ของแต่ละคนด้วยจะได้เลือก%ใบหยักว่าต้องการเท่าไหร่ ถ้าไม่มีให้เลือกให้ใช้แบบดั้งเดิมคือ ใบเรียบล้วน ไปเลยดีกว่า(ควรมีความหนาตั้งแต่ 2mmขึ้นไป) ใช้งานได้ครอบคลุมแน่นอน อาจแค่ต้องใช้ระยะมากขึ้นหรือออกแรงมากกว่าในบางงานเท่านั้นครับ

มีดใบเรียบล้วน

68% เลือกใช้ใบเรียบ
32% เลือกใช้ใบกึ่งหยัก

Harirak Knives - Bushcraft 4" : Mix-wood handle (Teak wood and star gooseberry wood)
ใบเรียบล้วน

Harirak Knives - Bushcraft 4" 3/8 Serrated : Mix-wood handle (Teak wood and star gooseberry wood)
ใบกึ่งหยัก

 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/harirakfarm

เชือกฉุกเฉินจากก้านกล้วยแห้ง

เชือกมีความสำคัญมากเมื่อเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นผูกสิ่งของรวมกัน ปฐมพยาบาล ลากของ ทำราวตากผ้า กางเต็น หรือใดๆ เชือกจึงเป็นสิ่งที่ต้องมี แบบที่ลูกเสือต้องมีเชือกเงือนเมื่อเข้าป่า และจำเป็นต้องเรียนรู้การผูกเงื่อนสำคัญไว้ด้วยครับ

คราวนี้มาแนะนำวิธีหาเชือกใช้ยามฉุกเฉินครับ ปกติเชือกกล้วยจะทำจากเปลือกต้นกล้วยกรีดให้ได้ขนาดและตากแห้ง แบบนี้จะได้เชือกกล้วยเยอะดี แต่ต้องทำไว้ก่อน ส่วนกรณีที่ต้องใช้ทันทีให้มองหาใบกล้วยที่แห้งติดลำต้น ตัดตรงโคนใบแล้วรูดใบออกให้หมด ให้เหลือแต่แกน แค่นี้ก็สามารถมาใช้เป็นเชือกหนาเส้นยาวได้แล้วครับ หรือจะฉีกย่อยให้เป็นเส้นบางๆยาวๆก็ได้ ต้นกล้วยมีมากถ้าเจอต้นกล้วยก็มีโอกาสเจอใบกล้วยแห้งได้ไม่ยากครับ

ถ้าที่บ้านมีต้นกล้วยจะทำเก็บไว้รวมกับเชือกกล้วยก็ได้ครับจะใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ไม่เสียเปล่า แล้วเส้นหนาแบบนี้น่าจะลองใช้ทำตรงส้นรองเท้าสานน่าจะนิ่มดีเหมือนกันครับเนี่ย

 

คลิ๊กที่รูปเพื่อดูภาพใหญ่

การทำมีดหินอย่างง่าย - Make easy stone knife

สวัสดีครับครั้งนี้มาลองดูวิธีทำมีดหินอย่างง่ายแบบยุคหินกันครับ เริ่มที่อุปกรณ์กันเลย

1. หาหินเหมาะมือที่จะทำมีดหิน และหาหินเนื้อแน่นมีน้ำหนักมาใช้เป็นตัวกระเทาะ

2. เลือกจุดที่จะทำคม แล้วกระเทาะหินให้แตกออก
3. กระเทาะนิดๆให้ตรงส่วนคมมีความเป็นหยักคล้­ายใบเลื่อย หรือมีดใบหยัก เพื่อช่วยการตัดเฉือน

หินบางชนิดสามารถกระเทาะขอบแล้วแตกออกมาเป็นแผ่นได้ สามารถนำแผ่นหิน(Flake เกล็ดหิน)ที่แตกมาใช้ได้เลยครับทั้งแผ่นเล็กแผ่นใหญ่ มีความคมมากเหมือนเศษแก้วแตก อาจตกแต่งรูปร่างตามต้องการก็ได้ครับ

ประโยชน์โดยทั่วไป
1. ใช้ในการช่วยตัดกิ่งไม้เล็กๆเหนียวๆได้ดี
2. ใช้เป็นเครื่องมือช่วยขูด/ปอกเปลือกกิ่งไม้ได้­สะดวก
3. ใช้เหลาปลายไม้ให้แหลมได้ในระดับหนึ่ง
4. หรือตามแต่จะคิดประยุกต์ใช้

ใช้กระจกมากระเทาะเป็นมีดกระจกก็สวยเหมือนกันนะ เรียนรู้เผื่อใช้ในยามจำเป็น หรือจะใช้เป็นกิจกรรมสนุกสนุกกับครอบครัว ทำเล่นๆไว้สวยงามด็ได้ครับสนุกดี
ไว้พบกันใหม่ สวัสดีครับ

ตรงนี้แถมครับ การทำขวานหินขัดหรืออีกชื่อเรียกว่าขวานฟ้า ให้นำหินที่รูปร่างได้ขนาดหัวขวาน(สี่เหลี่ยมๆยาวๆ) แล้วใช้วิธีการขัดบนหินแผ่นใหญ่ๆ ขัดจนกว่าจะเรียบตามต้องการและได้มุมหัวขวาน(โรยทรายช่วยขัดได้หรือใช้วิธีกระเทาะร่วมด้วยก็ได้ครับ ขั้นตอนนี้อาจได้เกล็ดหินไว้ทำมีดหินด้วย)ใช้เวลานานพอสมควรเลยล่ะครับ
ขวานหินสามารถใช้ฟันกิ่งหรือฟันต้นไม้ที่ไม่ใหญ่มากได้ครับ ซึ่งมีดหินจะใช้กระแทกแรงไม่ค่อยได้ครับเนื่องจากมันบาง มีดหินเน้นหั่น ตัด กรีด เป็นหลัก จึงจำเป็นต้องมีไว้คู่กัน มีดหินและขวานหิน ครับ 
(การทำมีดหินแบบเก็บรายละเอียด http://youtu.be/HG9zpL2pl5k?t=5m15s )

ปล.ในคลิปนำไปขูดต้นไม้เป็นตัวอย่างทดสอบเ­ท่านั้น อย่านำไปขูดต้นไม้ในป่าธรรมชาติหรือต้นไม้­สาธารณะนะครับ เพื่อรักษาความสวยงามไว้ครับ :)

Mini survival set DIY - ชุดอุปกรณ์สำรองแบบพกพา

คลิกที่รูปเพื่อดูภาพใหญ่

Mini survival set : A compact emergency survival kit Ver.1

เห็น Rocky S2V แล้วชอบมาก เลยจัดเซ็ตของตัวเองขึ้นมาบ้าง ห้อยไว้ที่ซิปกระเป๋าเดินทางแบบชิวๆ

เป็นอุปกรณ์สำคัญที่พอจะช่วยให้สะดวกทั้งพกพาและใช้งานในยามจำเป็น ห่อไว้ด้วยอลูมิเนียมฟอยล์(ยังไม่ได้ทดสอบแต่น่าจะกันน้ำเข้าในระดับหนึ่ง)และชั้นนอกห่อไว้ด้วยเชือกโพลีเอสเตอร์ป้องกันฟอยล์ห่อไม่ให้ฉีกขาดและสะดวกในการแขวนไว้กับกระเป๋าหรืออื่นๆ

เมื่อแกะเชือก และฟอยล์หุ้มออกแล้ว ชุดนี้มีอุปกรณ์ไปด้วยกัน 7 อย่าง
1. เชือก - เมื่อแกะออกมาแล้วยาวประมาณ 2m ใช้ผูก ลาก ดึง ฯลฯ หรือคลี่สายเกลียวเพื่อทำเป็นด้ายเย็บ หรือสายเบ็ดได้
2. เบ็ดตกปลา - ใช้ตกปลา หรืออื่นๆ
3. ลวด - ทำกับดัก ใช้มัด ใช้คล้อง หรือใช้อเนกประสงค์
4. เข็ม - ใช้ซ่อมแซมเสื้อผ้าและอื่นๆ เป็นเข็มแบบรูใหญ่ สามารถร้อยสายเชือกย่อยที่คลายเกลียวออกแล้วได้
5. ใบมีด - ใช้ในงานตัดต่างๆ เช่น ตัดเชือกเมื่อได้ขนาดทำสายเบ็ด
6. สำลี - เป็นเชื้อไฟสำรอง หรือใช้อเนกประสงค์
7. แผ่นฟอยล์ - แผ่นฟอยล์ขนาด 35x45cm สามารถใช้เป็นแผ่นสะท้อนแสงขอความช่วยเหลือ และสามารถนำมาห่อเป็นถ้วยใช้ต้มน้ำดื่มได้

เป็นชุดแรกจัดแบบคร่าวๆ แต่คิดว่าน่าจะเพิ่มอะไรเล็กๆลงไปอีกอย่างเช่น เข็มกลัดสัก 3-4 อัน เปลี่ยนจากเชือกนี้เป็นเชือกพาราคอร์ด(ใช้ได้หลากหลายว่า และพันเชือกเพิ่มได้เป็น 2 ชั้น ได้เชือกยาวขึ้นแต่ขนาดเซ็ทยังเท่าเดิม) และห้อยนกหวีดไว้ที่ปลายเชือก ก็ใช้เป็นอุปกรณ์ส่งเสียงขอความช่วยเหลือได้ด้วย

น่าจะเป็นแนวทางให้เพื่อนๆลองคิดจัดชุด compact emergency survival kit ไว้เองได้สักชุด

ไว้เจอกันใหม่
สวัสดีครับ

---------------------------------------

อัพเดทแนวคิดครับคราวนี้เปลี่ยนมีดเป็นแบบพับได้ เพิ่มเบ็ดเป็น 2 เบอร์ คือ 4, 6 และข้อหมุนสำหรับเบ็ด(ใช้ถ่วงน้ำหนักด้วย) ให้สมบูรณ์ต้องใช้เชือกมัดเป็นพาราคอร์ด จะได้ใช้ใยเล็กๆภายในได้หลากหลายมากขึ้น

---------------------------------------

Mini survival set Ver.2

ใช้ตัวคล้องเพื่อลดระยะแขวน เพิ่มขดลวดยาวเป็นสองเมตร และเปลี่ยนเชือกโพลีฯเป็นพาราคอร์ดถักไว้สองชั้นรอบฟอยล์ห่อ คลี่เชือกแล้วยาวประมาณ 3.5m มีเส้นย่อยภายในอีก 7 เส้นเล็ก ใช้เป็นด้ายเย็บ หรือสายเบ็ดได้สะดวกกว่า หรือใช้อื่นๆตามต้องการ

Oh! Susanna for Harmonica - เพลงบังคับสำหรับฮาร์โมนิก้า

Oh! Susanna เป็นเพลงโฟล์คซองเก่าแก่ยอดนิยมของตะวันตก คลิปสอนฮาร์ปเกือบทุกคลิปจะต้องเล่นโชว์เพลงนี้ และเมื่ออยู่รอบกองไฟใต้แสงดาวยามค่ำคืนต้องบรรเลงเพลงนี้! เหมือนเป็นเพลงบังคับของชาวฮาร์ปว่าต้องเล่นให้เป็นทุกคนเลยเชียวล่ะ ฮา

คลิกที่รูปเพื่อดูภาพใหญ่

Oh Susana
Tab diatonic harmonica

4-4566-665
4-455-44-4
4-4566-665
4-455-4-44

-5-5-6-6-66654-4
4-4566-665
4-455-4-44

Oh Susana
โน้ตตัวอักษรสำหรับทุกเครื่องดนตรี

C=1=ด=โด, D=2=ร=เร, E=3=ม=มี, F=4=ฟ=ฟา, G=5=ซ=โซ, A=6=ล=ลา, B=7=ท=ที.

CD EGGAGE
CDEEDCD
CD EGGAGE
DCEEDDC

FF AA AGGECD
CD EGGAGE
CDEEDDC

เพลงนี้เล่นง่ายครับ ลองเล่นกันดูเมื่อเล่นเป็นแล้วคุณจะเป็นชาวฮาร์ปตัวจริง(เกี่ยวมั้ยเนี่ย ฮา) เพลงเล่นง่ายไพเราะ จากบทความที่แล้วเรื่องการเล่นทำนองพร้อมคอร์ด ลองใส่จังหวะคอร์ดแทรกเข้าไปดูครับ ในสไตล์ของตัวเอง สนุกขึ้นอีกเยอะ

ไว้เจอกันใหม่ ขอให้มีความสุขกับการเล่นดนตรีครับ
สวัสดีครับ

Harmonica playing chords & melody together - เล่นคอร์ดพร้อมทำนองด้วยฮาร์โมนิก้าตัวเดียว

สวัสดีครับมาอย่างรวดเร็ว แบบฝึกหัดนี้จะเป็นการเล่นคอร์ดและทำนองด้วยฮาร์ปตัวเดียวคนเดียวเลย ไม่ต้องง้อใคร(ฮา) เทคนิคนี้ต่อเนื่องจากบทความที่แล้ว ถ้ายังไม่ฝึกให้ศึกษาก่อนนะครับ Tongue Blocking Harmonica - เทคนิคการเล่นโน้ตคู่ และใช้ความรู้เรื่องคอร์ดควบคู่ด้วย Harmonica Basic Chord Guide - แนะนำการเล่นคอร์ดเบื้องต้นของฮาร์โมนิก้า ให้ทำความเข้าใจสองอย่างนี้เป็นพื้นฐานก่อนครับเพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนจะทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น แล้วค่อยศึกษาบทความนี้นะครับ

จะมีเทคนิคการเล่นคอร์ดพร้อมทำนองอยู่ 2 แบบ
1. เป่าโน้ตและเป่าคอร์ดสลับกันแบบปกติ
วิธีนี้ง่ายครับ พอถึงช่วงใส่คอร์ดก็คลายปากเป่าคอร์ดเลย พอจะเล่นโน้ตก็ห่อปากกลับมาเล่นต่อเลย ไม่ต้องใช้เทคนิคอุดลิ้นแต่อย่างใด เล่นง่ายเพียงแต่ต้องจับจังหวะให้ถูก และกลับไปเล่นโน้ตต่อไปให้ทันและให้ถูกช่องด้วย
วิธีนี้ลองฝึกจากแบบฝึกหัดได้เลยครับ ไม่ต้องแนะนำวิธีการแล้ว เล่นง่ายๆได้ใจความ(ฮา) แต่วิธีนี้เล่นแล้วเสียงอาจจะไม่เนียนเท่าไหร่ และไม่สามารถลากเสียงโน้ตพร้อมเล่นจังหวะคอร์ดไปด้วยได้ครับ

2. ใช้เทคนิคอุดลิ้นเปิดๆปิดๆ
วิธีนี้ใช้วิธีการเล่นโน้ตเดี่ยวแบบอุดลิ้นนะครับ ลิ้นที่อุดไว้ 2 ช่อง หรือ 3 ช่องทางซ้ายนั้น เราจะเปิดๆปิดๆเป็นจังหวะเพื่อเล่นคอร์ด ในขณะที่ช่องทางขวาเล่นโน้ตทำนองไปพร้อมๆกัน

เทคนิคนี้ใช้รูปแบบนี้เป็นหลักครับ

ฟังดูเหมือนยาก เริ่มต้นให้ฝึกจากแบบฝึกหัดนี้เพื่อสร้างความคุ้นเคยกันก่อน

เป็นไงบ้างครับ ถึงช่วงคอร์ด(ที่มีโน้ตเยอะๆ)ให้เปิดลิ้น พอถึงช่วงโน้ตก็ปิดลิ้นอุดกลับเข้าไป 3ช่องเหมือนเดิม(จะเหลือเสียงโน้ตเดียว) พอจะเปิดปิดแยกจังหวะคอร์ดและโน้ตได้รึยังครับ ให้ฝึกจากช้าๆก่อนนะครับ แล้วลองเล่นเพลง หนูมาลี ตัวอย่างการแทรกคอร์ดอีกสักแบบฝึกหัดนึงครับ
เล่นเมโลดี้เปล่าๆให้จำจังหวะทำนองก่อน(เป่าโน้ตเดี่ยวแบบไหนก็ได้) แล้วลองเล่นตัวอย่างที่ใส่คอร์ดควบไว้ต่อเลยครับ

จะสังเกตุได้ว่าการแทรกคอร์ดนั้น มักจะแทรกช่วงระหว่างโน้ต, จังหวะยก, จังหวะ 1 และ 2, จังหวะ 2 และ 4, หรือไม่ก็เล่นควบโน้ตไปในคอร์ดด้วยเลยก็ได้ บางทีก็เล่นคอร์ดควบโน้ตแล้วใช้ลิ้นอุดคอร์ดกระทันหันเหลือไว้แต่โน้ตเพื่อเน้นความโดดเด่นของโน้ตก็เจ๋งไปอีกแบบ(เรียกว่าเทคนิค Tongue slapping - ลิ้นตบ) ตรงนี้เลือกแทรกคอร์ดได้ตามสะดวก เลือกจังหวะแทรกได้ตามแต่ต้องการครับ ไม่มีวิธีตายตัว ขอแค่ลงตัว แต่พื้นฐานหัดฝึกง่ายๆก็เป็นอย่างตัวอย่างที่ให้ให้ลองเล่นดู ทีนี้ลองนำไปเล่นกับเพลงที่เคยเล่นดูสิครับ แล้วลองคิดวิธีใส่คอร์ด หาช่วงจังหวะใส่คอร์ดในแบบของตัวเองดู ไม่ต้องยาก ขอให้เล่นแล้วชอบ เล่นแล้วสนุกก็พอครับ

ผมพยายามถ่ายทอดให้ง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ อาจจะงงๆหน่อย ดูคลิปท้ายบทความเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจครับ ถ้ามีโอกาสอยากให้ศึกษาทฤษฎีดนตรีเพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้นครับ

หากได้ประโยชน์จากบทความนี้

แล้วอยากจะเลี้ยงน้ำชา ข้าวผัด หรือมอบสินน้ำใจเป็นค่าครู

สามารถสนับสนุนได้ที่

ธนาคารกรุงไทย

9090619704

กนกเกียรติ หริรักษ์หรรษา

ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและกำลังใจนะครับ

ขอบคุณครับ🙏😇

บทความนี้เท่านี้ก่อน ไว้เจอกันบทความหน้า

ขอให้มีความสุขกับการเล่นดนตรีครับ
สวัสดีครับ

Tongue Blocking Harmonica - เทคนิคการเล่นโน้ตคู่

สวัสดีครับบทความฮาร์ปหายหน้าไปนาน วันนี้กลับมาพร้อมแบบฝึกหัด Tongue Blocking หรือเทคนิคการใช้ลิ้นอุดช่องฮาร์ปเพื่อเล่นโน้ต เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ฝึกไว้เพื่อใช้เล่นเสียงประสาน เล่นคอร์ดสลับโน้ต เล่นคู่เสียง หรืออื่นๆตามแต่จะประยุกต์ครับ มาดูแบบฝึกหัดพื้นฐานกันดีกว่า

การเล่นเทคนิค Tongue Blocking (ต่อไปจะเรียก ลิ้นอุด 555+) เบื้องต้นให้ลองฝึกเป่าโน้ตเดี่ยวแบบลิ้นอุดกันก่อน ด้วยการครอบปากไป 3-4 ช่อง แล้วแลบลิ้นมาอุดช่องทางซ้ายเอาไว้ให้หมด เหลือช่องเดียวทางขวา(ลองทำปากเปล่าก่อนก็ได้ครับ ให้ลมออกมุมปากทางขวา) แล้วลองเป่าให้ได้โน้ตเดี่ยวๆโดยไม่มีเสียงช่องอื่นปนออกมา ลองฝึกกันดูก่อนครับ แล้วค่อยไปแบบฝึกหัดต่อไป

วงกลมคือริมฝีปาก ช่องสีชมพูคือให้แลบลิ้นอุดไว้

ให้ปลายลิ้นชี้ลง ใช้ส่วนที่อยู่เหนือปลายลิ้นมาอุดไว้

เหมือนทุกครั้งต้องฝึกไล่บรรไดเสียงกันก่อน

ให้จำตำแหน่งได้

ทีนี้แบบฝึกหัดต่อไปมาฝึกเล่นโน้ตคู่เป็นการเล่นประสานคู่เสียง ก็ง่ายๆจากเทคนิคเดิมแต่ ครอบปากไป 4 ช่อง แต่คราวนี้อุดแค่สองช่องตรงกลาง เปิดช่องเสียงเฉพาะ ช่องซ้ายและขวา เท่านั้น(ดูรูปประกอบ) เทคนิคนี้ฝึกง่ายกว่าเทคนิคแรก แต่ต้องจำได้ว่าโน้ตที่เราเล่นคู่กันนั้นมีโน้ตอะไรบ้าง(คิดสองโน้ตพร้อมๆกัน) แล้วลองฝึกแบบฝึกหัดเบื้องต้นดูครับ

และก็มีเทคนิคโน้ตคู่การเล่นประสานคู่เสียงโน้ตอื่นๆอีก การเลือกใช้โน้ตอย่างไรลองเล่นและฟัง และลองศึกษาเรื่องคู่เสียงจากทฤษฏีโน้ตเพื่อเลือกใช้โน้ตประสานได้ลงตัวตาม ความเหมาะสม ลองฝึกแบบฝึกโน้ตคู่อื่นๆกันดูหน่อย

อุดช่องเดียวใช้ปลายลิ้นอุด

 

เทคนิคโน้ตคู่ทั้ง 3 แบบนี้สามารถเลือกใช้ผสมผสานกันได้ครับ หรือจะประยุกต์เปลี่ยนเป็นโน้ตอื่นก็ลองดูได้ การเลือกคู่เสียงที่ต้องการนั้นให้ลองศึกษาทฤษฎีดนตรีเรื่องคู่ประสานดูเพื่อจะได้มีทางเลือกและเข้าใจเทคนิคการใช้เสียงคู่ประสานต่อไปครับ
ทีนี้มาลองฝึกเป็นเพลงกันดูบ้าง เบสิคเลย "หนูมาลี" แบบคู่เสียงโดยใช้คู่ 8

 คลิกที่รูปเพื่อดูภาพใหญ่

บทความนี้เท่านี้ก่อน เด๋วบทความหน้าของฮาร์ปจะพบกันเรื่อง การเล่น คอร์ดสลับโน้ต เป็นอย่างไร ว่างๆให้ลองทบทวนเรื่องคอร์ดฮาร์ปด้วยรอไว้เลยครับ Harmonica Basic Chord Guide - แนะนำการเล่นคอร์ดเบื้องต้นของฮาร์โมนิก้า

หากได้ประโยชน์จากบทความนี้

แล้วอยากจะเลี้ยงน้ำชา ข้าวผัด หรือมอบสินน้ำใจเป็นค่าครู

สามารถสนับสนุนได้ที่

ธนาคารกรุงไทย

9090619704

กนกเกียรติ หริรักษ์หรรษา

ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและกำลังใจนะครับ

ขอบคุณครับ🙏😇

เจอกันบทความหน้า ขอให้มีความสุขกับการเล่นดนตรี
สวัสดีครับ ^^

แถม

อีกเทคนิคที่ใช้ร่วมกันกับ Tongue blocking ก็คือเทคนิค Tongue slapping (ลิ้นตบ) จะเล่นด้วยการเป่าคอร์ดพร้อมกับโน้ตแล้วฉับพลันในเสี้ยววินาทีก็เอาลิ้นอุดคอร์ดให้เหลือแต่เสียงโน้ตเพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับโน้ต เช่น เป่าช่อง 1234 แล้วใช้ลิ้นอุดช่อง 123 อย่างรวดเร็วให้เหลือเพียงเสียงโน้ตที่ต้องการคือช่องที่ 4 เป็นต้น

ศึกษาเพิ่มเติม

https://www.bluesharmonica.com/lessons/tongue_blocking_2

https://www.dummies.com/article/academics-the-arts/music/instruments/harmonica/how-to-reinforce-melody-notes-with-your-tongue-on-the-harmonica-146625/

Boxer bag DIY - กระเป๋านักมวยทำเองได้ง่ายจัง

Boxer bag กระเป๋านักมวย หรือถุงนักมวย ดูในภาพยนตร์ใครที่หิ้วกระเป๋าทรงกระสอบทรายพาดไหล่จะเป็นนักมวยเสมอ ไม่รู้ทำไมนะครับแหม่ จนกลายเป็นกระเป๋านักมวยไปโดยปริยาย เป็นกระเป๋าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริงๆ ครั้นค้นหาดูในอินเตอร์เน็ตก็ไม่มีใครทำกระเป๋าทรงนี้เลย มันอาจจะทำง่ายมากจนไม่จำเป็นต้องใส่ใจรึเปล่า? แต่ว่าพอค้นๆดูแล้วเจอกระเป๋านักมวยยี่ห้อหนึ่งเป็นหนังราคาถึง 3หมื่นบาท! คือหาแบบทั่วไปไม่เจอ เจออีกทีก็เป็นหมื่นเลย! และยังไม่เจอใครแนะนำวิธีการทำกระเป๋านักมวย จึงลองทำเอง ซึ่งทำง่ายและทำได้ในเวลาชั่วโมงกว่าเท่านั้นเองครับ เลยอยากจะมาแนะนำให้กับเพื่อนๆที่สนใจกระเป๋าทรงนี้ได้ลองทำเองดูบ้าง เป็นกิจกรรมในครอบครัวใช้เวลาว่างร่วมกัน หรืออาจจะเป็นรายได้เสริมได้อีกด้วยนะครับ

มาเริ่มที่อุปกรณ์แบบที่ผมใช้ทำกระเป๋าใบนี้กันก่อนเลย

1. ผ้ายีนส์ตามขนาด(ผืนผ้า60x40cm และ กลม ⌀15cm หรือเล็กกว่าจะได้กระเป๋ากลมขึ้น)
2. เข็ม และด้ายเย็บยีนส์เพื่อความทนทาน(สีส้มๆ)
3. เชือกเงือนลูกเสือสีขาว(เชือกโพลีเอสเตอร์ขนาดใหญ่ประมาณ 8mm)

เมื่อวัดและตัดผ้าได้ตามขนาดแล้วให้ใช้ผ้าผืนสี่เหลียมประกอบขอบเข้าด้วยกันและ เย็บเก็บขอบ ไปตลอดแนว 40cm เสร็จแล้วก็ตามด้วยการเย็บ ด้นถอยหลัง อีกชั้นหนึ่งใกล้แนวเดิมเพื่อความทนทาน
จากนั้นจะได้ผ้าเป็นรูปทรงกระบอก เอาผ้าทรงกลมมาเย็บติดกันตามขอบที่จะทำเป็นก้นกระเป๋าไปรอบด้วยวิธีเดิม เย็บเก็บขอบ และด้นถอยหลัง เพื่อให้เย็บง่ายใช้เข็มหมุด กลัดไว้ให้อยู่ทรงก่อนแล้วค่อยเย็บครับ แค่ใช้การเย็บพื้นฐานที่เคยเรียนสมัย ม.ต้น พลิกกลับด้านแค่นี้ทรงกระเป๋านักมวยก็เสร็จแล้ว เหลือแต่ทำช่องรอยเชือกเท่านั้นเองครับ
ผมทำช่องรอยเชือกไว้ 14 ช่อง ตามแบบที่เคยเห็นมา ใช้กรรไกรตัดให้ได้ช่องพอประมาณ วัดระยะห่างกันประมาณ 4cm ลองวัดให้สมมาตรดูนะครับ แล้วก็เก็บขอบทุกช่องด้วยการเย็บแบบเก็บขอบ หรือเย็บรังดุม เพื่อเพิ่มความทนทาน รอยเชือกเข้าไปก็เสร็จแล้วครับ กระเป๋านักมวย DIY ทำเองได้ง่ายจัง

ไซต์ขนาดนี้พอที่ใช้เป็นกระเป๋าไปออกกำลังกาย หรือใส่ชุดหิ้วไปเที่ยวได้สักคืนสองคืนกำลังดีเลย แม้จะมีชื่อว่ากระเป๋านักมวย แต่ว่าไม่เป็นนักมวยก็นำไปใช้ได้ครับ กระเป๋านักมวยทำเองง่ายๆ ลองประยุกต์ทำสายสะพายแล่ง หรืออะไรเพิ่มเติมดูก็จะได้สะดวกขึ้นและคงเจ๋งไม่น้อยเลยครับ

ไว้พบกันใหม่ครับ
สวัสดีครับ