Sponsor

29 เมษายน 2559

การติดตั้งโปรแกรม TeamSpeak3 บน Linux

โปรแกรม TeamSpeak3 เป็นโปรแกรมคอมที่ใช้พูดคุยคล้ายใช้วิทยุสื่อสารออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ตที่เป็นที่รู้จักกันดี คุยกันได้ทั้งเดี่ยวและกลุ่ม สำหรับฝั่ง Linux โปรแกรมนี้มีขั้นตอนในการติดตั้งนิดหน่อย

ขั้นตอนการติดตั้งมีดังนี้ครับ
  1. เข้าไปโหลด Client ของ Linux ให้ตรงตามระบบที่ใช้นะครับว่าเป็น 32-bit หรือ 64-bit ที่เว็บ https://www.teamspeak.com/downloads ควรโหลดไว้ใน home เพื่อสะดวกในการพิมพ์คำสั่งติดตั้ง
  2. เสร็จแล้วก็เปลี่ยนชื่อให้เป็น ts3.run เพื่อความง่ายในการพิมพ์คำสั่ง
  3. เข้า Terminal พิมพ์ chmod u+x ./ts3.run แล้ว enter
  4. จากนั้นให้เข้าไปที่ home แล้วดับเบิ้ลคลิกไฟล์ ts3.run เลือก Run in Terminal
  5. จะมีเงื่อนไขให้อ่าน เลื่อนลงมาจนสุด กด q แล้ว enter
  6. มันจะเปลี่ยนมาอีกหน้าหนึ่ง กด y แล้ว enter เพื่อตกลงที่จะติดตั้ง รอติดตั้งสักครู่
  7. ใน home จะมีโฟล์เดอร์ใหม่ชื่อว่า TeamSpeak3-Client-linux ให้ดับเบิ้ลคลิกเข้าไปครับ
  8. ดับเบิ้ลคลิกที่ ts3client_runscript.sh เลือก Run in Terminal เป็นอันเสร็จสิ้นครับ
ทีนี้ก็ขอ Server Address จากเพื่อนที่ต้องการติดต่อเพื่อ Connect ได้ตามปกติเหมือนที่เคยใช้ได้แล้วครับ ครั้งต่อไปก็สามารถเข้าโปรแกรมด้วยการดับเบิ้ลคลิกไฟล์ ts3client_runscript.sh แล้วเลือก Run in Terminal เหมือนเดิมครับ
TeamSpeak3 บน Linux Mint 17.3

28 เมษายน 2559

M.A.R.S. - a ridiculous shooter - สงครามยานอวกาศ


สงครามครั้งใหญ่ได้เริ่มขึ้นแล้ว!
M.A.R.S. - a ridiculous shooter หรือที่เรียกกันว่าเกม Mars shooter เป็นเกมฟรี มีทั้งบน Windows, Macintosh และ Linux สามารถโหลดมาเล่นได้ฟรีๆกันเลยครับที่นี่ http://mars-game.sourceforge.net/
ค้นหา marsshooter ใน software manager
ติดตั้งแล้วมีให้เลือกหลายภาษารวมถึงภาษาไทยด้วยครับ ส่วน Linux Mint สามารถค้นหาสะดวกๆได้เลยใน Software Manager ค้นว่า marsshooter ผมเองเล่นบน Linux Mint 17.3 ครับ

เป็นแนวบังคับยานอวกาศไล่ยิงยานลำอื่นๆครับ ในเกมมีทั้งรายละเอียดเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงและความโค้งงอของกาลอวกาศด้วย มีการกระเด็นด้วยแรงระเบิด หรือการขับยานไปชนดาวก็ทำให้เกิดความเสียหายกับยานได้ แต่เกมนี้เล่นง่าย ถ้าตายก็เกิดใหม่ได้เรื่อยๆครับ จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะสำเร็จภารกิจ
มีหลายภารกิจให้เลือกเล่น อย่างเช่น DeathMatch คือ ยิ่งกันเต็มที่ไม่มีใครเป็นฝ่ายใคร ซัดกันนัวเนีย จนกว่าจะยิงได้ตามจำนวนที่ตั้งไว้ หรืออย่าง Team-DeathMatch คือ เล่นทีมไปยิงถล่มอีกฝ่าย แต่แบบนี้ต้องระวังจะยิงโดนทีมเดียวกันด้วย เป็นต้น ยังมี SpaceBall, CannonKepp และ Grave-Ltation Pit ซึ่งในเกมจะแนะนำวิธีเล่นของแต่ละแบบเอาไว้แล้ว (DeathMatch เล่นง่ายสุดครับ 555+) และเกมนี้สามารถเล่นออนไลน์ได้ด้วยครับ

ตั้งค่าภาพกราฟิกสามแถบล่างยิ่งปรับไปทางขวาภาพยิ่งอลังการ
ก่อนเล่นแนะนำให้เข้าเมนูที่สองโหมด เริ่มการฝึกซ้อม นะครับ จะได้เรียนรู้รูปแบบการเล่น และปุ่มบังคับต่างๆ การเปลี่ยนปืนและพลังพิเศษ พอเข้าใจตรงนี้แล้วก็สามารถเล่นได้เติมที่แล้วครับ เป็นเกมที่เร็วมาก แต่ก็มันส์มากเช่นกัน

เป็นเกมเล็กๆที่ไม่ต้องใช้เสป็คคอมสูงๆแต่ก็อย่างใด ก็สามารถเล่นได้สนุกและมีภาพสวยมากเกมหนึ่งเลยล่ะครับ ขอให้มีความสุขกับ M.A.R.S. - a ridiculous shooter นะครับ


เพิ่มเติม
http://mars-game.sourceforge.net/


มาดูคลิปตัวอย่างมันส์ๆกันครับ

OpenRA - ระลึกความหลังกับเกม Red Alert - Opensource


Command & Conquer หรือ C&C เป็นเกมแนว Real-time strategy หรือที่เรียกกันง่ายๆว่าเป็นแนวสร้างฐานสร้างกองทัพมาสู้กัน เกมนี้เป็นเกมที่คลาสสิคที่สุดของค่าย Westwood Studios ในตำนาน โดยภาค Red Alert หรือ RA เป็นภาคบุกเบิกที่น่าจะดังที่สุดของ C&C เป็นเกมเก่าตั้งแต่ยุค MS-Dos และ Windows95 มีทั้งบนคอมพิวเตอร์และบนเครื่องเพลฯ1ด้วยครับ ตอนนี้กลับมาในรูปแบบ Opensource ใหม่ให้หายคิดถึง
OpenRA สามารถโหลดมาเล่นได้ฟรีครับที่ www.openra.net มีทั้งภาค Tiberian Dawn, Red Alert และ Dune 2000 ในหนึ่งเดียวให้เลือกเล่นได้ โหลดมาติดตั้งได้ทั้งบน Windows, Macintosh และ Linux ในการเปิดเล่นครั้งแรกจะต้องต่ออินเตอร์เน็ตเพื่อโหลด Mods ของเกมส์ก่อน ซาวด์อันคุ้นหู เพลงเดิมมาแบบจัดเต็มยกชุด สามารถระลึกความหลังแบบจัดเต็มกันได้เลย

สำหรับ Windows นั้นไม่เป็นปัญหาสามารถเข้าเล่นแล้วดาวโหลดอัตโนมัติได้เลย แต่สำหรับ Linux เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วอาจจะต้องใช้วิธีแมนนวลในการลง Mods ซึ่งผมก็เล่นบน Linux Mint 17.3 ครับ ตอนแรกก็งงๆว่าทำไมถึงออโต้โหลดไม่ผ่าน จนตอนนี้หาวิธีได้แล้ว จึงนำมาแบ่งปันให้กับเพื่อนๆชาว Linux กันครับ
ข้างล่างนี้จะแนะนำวิธีการติดตั้ง Mods สำหรับ Linux ครับ

  1. เมื่อติดตั้ง OpenRA เสร็จแล้วก็ให้เข้าลิงค์นี้ครับ http://openra.baxxster.no/openra/ แล้วทำการโหลดไฟล์ .zip ทั้งหมด
  2. เข้าไปที่ home คลิกขวาเลือกให้โชว์ไฟล์ที่ซ่อนอยู่(Show Hidden Files) แล้วเข้าไปที่โฟล์เดอร์ .openra
  3. สร้างโฟล์เดอร์ใหม่ชื่อว่า Content แล้วเข้าไปข้างใน
  4. ทีนี้ให้สร้างโฟล์เดอร์ขึ้นมา 4 อัน โดยตั้งชื่อว่า ra , ts , cnc และ d2k
  5. ทีนี้ก็แตกไฟล์ .zip ที่โหลดมาในตอนแรกใส่เข้าไปในแต่ละโฟลเตอร์ โดยให้ cnc-packages.zip ใส่ใน cnc และ ให้ไฟล์ของ ra-packages.zip ไว้ในโฟล์เดอร์ ra เป็นต้น ไฟล์อื่นๆก็ทำแบบเดียวกันครับ คือดูชื่อต้นของไฟล์ที่โหลดมา
  6. ส่วนที่เป็น music ก็ให้ใส่ทับลงไปทีหลัง โดยดูจากชื่อต้นของไฟล์ที่โหลดมาเช่นกัน

เป็นอันเสร็จแล้วครับ สามารถเล่นได้ละลึกความหลังกันได้แล้วครับชาว Linux ทั้งหลาย โย่ว!!!



Trailer


แถม
ตอนนี้บน Linux สามารถติดตั้งได้ง่ายๆผ่าน Software Manager แล้วนะครับ

ศึกษาเพิ่มเติม
www.openra.net
https://en.wikipedia.org/wiki/Command_%26_Conquer
https://en.wikipedia.org/wiki/Command_%26_Conquer:_Red_Alert

https://th.wikipedia.org/wiki/คอมมานด์_%26_คองเคอร์:_เรดอเลิร์ต

24 เมษายน 2559

Inuit snow goggles - แว่นกันแดดเอสกิโม

ช่วงนี้อากาศร้อนและแดดจัดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ออกข้างนอกแล้วแสบตามากมายทีเดียว ทำให้เริ่มมองหาแว่นกันแดดมาใส่บ้าง เกิดสงสัยขึ้นมาว่าสมัยโบราณเขามีแว่นกันแดดกันมั้ยนะ ค้นไปค้นมาได้ไปเจอกับแว่นกันแดดในประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่มากๆ คือแว่นกันแดดของชาวอินูอิทหรือชาวเอสกิโนครับ ซึ่งใช้ป้องกันดวงตาจากแสงสะท้อนของหิมะที่อาจทำให้ตาบอดได้เลย(เป็นต้อ) ชาวอินูอิทจะทำแว่นกันแดดจากกระดูกวอลลัสหรือไม้สน ด้วยการแกะเป็นช่องเล็กๆ แว่นนี้จะลดปริมาณแสงแดดที่จะเข้าสู่ดวงตา แต่ว่าไม่ได้ลดความเข้มของแสงนะครับ
 

Snow goggles DIY
ผมเลยลองทำดูว่ามันใช้เป็นแว่นกันแดดได้จริงมั้ย ผมทำจากพลาสสติกขวดแป้งครับ ตัดมาขนาด 1"x5" ช่องแสงกว้างไม่เกิน 1/8" ครับ (ใช้คัตเตอร์เจาะ)เป็นขนาดเดียวกับที่ชาวอินูอิททำเลยครับ เพราะถ้าช่องแสงกว้างกว่านี้มันจะไม่ช่วยกันแสงเท่าไหร่ ที่เหลือก็ทำสายคล้องครับ(ทาสีให้ดำด้วยปากกาเคมี)
 

และมันช่วยได้จริงครับ เหมือนหยีตาโดยไม่ต้องหยีตา(งงมั้ย? 555+) เนื่องจากแว่นอินูอิทนี้ป้องกันแสงอาทิตย์บนฟ้าและแสงสะท้อนจากหิมะที่อยู่บนพื้นด้วย ทำให้เมื่อใส่แว่นนี้แล้วจะมองข้างล่างไม่ค่อยเห็น(ข้างบนก็มองไม่เห็นแต่ช่วยบังแดดไว้ได้) คือจะมองตรงไปข้างหน้าได้อย่างเดียวครับ เลยไม่ค่อยสะดวกถ้าเอามาใช้ทั่วไป
แต่การทำแว่นอินูอิทนี้สำคัญในการ Survival เหมือนกันนะครับ เพราะหากไม่มีแว่นกันแดดแต่จำเป็นต้องใช้ สามารถทำแว่นอินูอิทนี้ได้จาก Duct tap ครับ คือใช้ Duct tap เอาด้านที่เป็นกาวมาแปะเข้าด้วยกัน แล้วก็กรีดร่องสันจมูกและช่องแสง เป็นอันเสร็จครับแว่นกันแดดฉุกเฉิน
 

แล้วคิดต่อไปว่าน่าจะทำช่องแสงด้านล่างเพิ่มอีกสัก 3-4 ช่อง จะได้มองเห็นข้างล่างตอนเดิน ก็ทำให้นึกถึงแว่น Shutter Shades ที่ได้ชื่อนี้มาก็เพราะมันเหมือนมูลี่บังแสงนั่นเองครับ น่าจะเคยเห็นกันในแฟชั่นฮิปฮอป เป็นแว่นที่ทำแบบแว่นอินูอิทเลย แต่มีหลายช่องกว่า ไม่รู้เหมือนกันว่าช่องแสงที่เพิ่มขึ้นมันจะยังช่วยลดปริมาณแสงที่เข้าตาอยู่รึเปล่า แต่ถ้ามันมีส่วนบังแสงก็น่าจะลดแสงลงบ้างล่ะหน่า
Shutter shades sunglasses

ถ้าแว่น Shutter Shades ช่วยลดแสงลงได้ก็น่าจะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบแว่นดำที่ใช้เลนส์ เพราะบางทีมันหลอกตา ยิ่งแว่นดำราคาถูกจะอันตรายเพราะสีเลนส์ที่มืดทึบจะทำให้ม่านตาขยาย แล้วถ้าไม่กันรังสียูวีมากพอ จะทำให้ยูวีเข้าสู่ม่านตาเต็มๆ อันตรายกว่าไม่ใส่แว่นดำซะอีกนะ(เขาว่างั้น) แว่นดำที่ใช้เลนส์ทึบจึงต้องซื้อของที่ดีหน่อยครับถึงจะไม่หลอกตาและกันยูวีได้ดี
ทีนี้ก็ต้องหามาลองกันครับว่ามันใช้กันแดดได้จริงตามชื่อมันรึเปล่า ผมก็ลองไปหามาลองดู ซึ่งแต่ละช่องนั้นมีระยะห่างพอๆกับแว่นอินูอิทเลยครับ ลองใส่แล้วมันพอจะลดแดดได้บ้าง แต่ถ้าจะให้ดีควรเอาเทปดำปิดสองช่องบน จะช่วยลดแสงจากท้องฟ้าได้มากขึ้น ส่วนช่องล่างๆนั้นก็ช่วยให้มองเห็นพื้นได้ง่ายขึ้นเวลาเดิน แต่แว่นนี้ใส่แล้วจะเห็นแถบดำๆพาดด้วยครับ เหมือนมู่ลี่หน้าต่างที่มีบางส่วนบังแสงกับบางส่วนที่แสงผ่านได้ 
สรุป มันเหมือนกับแว่นอินูอิทที่มีช่องมากขึ้นแบบที่ตั้งใจจะลองทำ ใส่แล้วเหมือนมองจากในที่ร่มครับ สามารถจะใช้เป็นแว่นกันแดดแบบไม่มีเลนส์ใส่เดินไปเดินมาได้ ลดแสงได้บ้างแต่ไม่ลดความเข้มแสง แต่ที่สำคัญคือคิดว่าไม่ควรใส่ขณะขับขี่ เพราะแถบคาดมันลดวิสัยทัศน์ครับ

วิธีทำแว่นอินูอิทฉุกเฉิน


ข้อมูลเพิ่มเติม
https://en.wikipedia.org/wiki/Snow_goggles
https://en.wikipedia.org/wiki/Sunglasses
https://en.wikipedia.org/wiki/Shutter_Shades

21 เมษายน 2559

แนะนำหนังสือชุดจากพระโอษฐ์

ชุดจากพระโอษฐ์ ถือเป็นการนำส่วนหนึ่งของพระไตรปิฎกที่นำแปลโดยท่านพระพุทธทาสภิขุ ที่รวบรวมเป็นหมวดหมู่แบบใหม่ ซึ่งนำคำสอนในเรื่องเดียวกันให้อยู่เล่มเดียวกัน โดยคัดสรรเฉพาะคำของพระพุทธเจ้าล้วนๆ(พุทธวจนะ) เพื่อให้ชาวพุทธได้สดับ(ศึกษา)ว่าพระพุทธเจ้าท่านได้เคยกล่าวแนะนำหลักคิดและหลักปฏิบัติอะไรไว้บ้างเกี่ยวกับโลกนี้และตัวเรา
สำนวนที่ใช้แปลผมว่าอ่านเข้าใจง่ายและร่วมสมัยกว่าหนังสือในแนวเดียวกันเล่มอื่นๆที่เคยเจอกันมา
ผมยกให้เป็นพุทธวจนะที่ควรอ่านและควรมีไว้อย่างยิ่ง

ทั้งชุดประกอบไปด้วยชุดที่แปลจากภาษาบาลี 5 เล่ม(ตามหลังด้วยคำว่า จากพระโอษฐ์) และที่ท่านพุทธทาสเขียนเองอีก 2 เล่ม สามารถคลิกที่ชื่อหนังสือเพื่อทดลองอ่านแบบ PDF ได้ครับ

อิทัปปัจจยตา
ปฏิจสมุปบาทจากพระโอษฐ์
อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคต้น
อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคปลาย
ขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์
พุทธประวัติจากพระโอษฐ์
ธรรมะกับการเมือง


ในการจัดหมวดหมู่พระไตรปิฎกนั้นสมัยก่อนก็มีการจัดหมวดอยู่มากมายหลายแบบ แต่ในปัจจุบันนิยมจัดเป็น 3 หมวด คือ พระวินัย พระสูตร และพระอภิธรรม แต่ในชุดนี้ท่านพุทธทาสนำมาจัดใหม่โดยแบ่งตามคำสอน ส่วนที่เป็นเรื่องเดียวกันก็นำมาอยู่ในเล่มเดียวกันทั้งหมด ผมเห็นว่าแบบนี้ง่ายต่อการศึกษา ทางสำนักพุทธวจน(วัดนาป่าพง)ก็ได้นำเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ไปใช้เป็นแม่บทในการสอนด้วยเช่นกันครับ
สำหรับคนที่ต้องการชุดรวมคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหมด(พุทธวจนะ)แค่ชุดนี้ก็เพียงพอแล้วครับสำหรับการเริ่มต้น เป็นหนังสือปกแข็ง เก็บกี่(เย็บด้วยเชือก) แน่นอนว่าทนทานมาก พื้นที่ที่ใช้ในการจัดเก็บประมาณกล่องพัสดุขนาด จ. หรือประมาณ 1 ช่วงศอก เท่านั้นครับ ตอนนี้ทางสำนักพิมพ์สุขภาพใจจัดพิมพ์อยู่

ส่วนตัวผมมีไอเดียอยากให้ทำชุดจากพระโอษฐ์ด้วยกระดาษบางพิเศษ แบบพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ในรูปเล่มที่เล็กกว่า A4 เย็บกี่ ใช้ฟอนต์เล็กลง และมีการแบ่งหน้าเป็น 2 คอลัมน์เพื่อช่วยให้อ่านง่ายขึ้น เป็นต้น
ด้วยกระดาษบางพิเศษน่าจะช่วยลดความหนาให้เหลือ 1/4 จากขนาดเดิม จะทำให้ลดจำนวนเล่มและลดพื้นที่การจัดเก็บลงได้อีก รวมถึงราคาที่ย่อมเยาว์ขึ้น ส่วนในการจัดพิมพ์ด้วยกระดาษบางพิเศษอาจต้องของคำแนะนำจากการพิมพ์พระคัมภีร์ไบเบิ้ลหรือดิกชันนารี 
ขอเสนอไว้เป็นไอเดียถ้าผมพร้อมพอที่จะทำได้เมื่อไหร่ก็อยากจะทำ หรือหากมีใครเห็นแล้วสนใจไอเดียนี้จะนำไปทำเลยก็เป็นการดีครับ

พระไตรปิฎกจะได้เป็นหนังสือประจำบ้านสำหรับชาวพุทธเฉกเช่นเดียวกับพระพุทธรูปประจำบ้านต่อไปครับ

สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ
การให้ธรรมย่อมชนะการให้ทั้งปวง

=======
แถม
อ่านออนไลน์หนังสือพุทธทาสภิกขุเล่มอื่นๆ https://cutt.ly/hEjhRvz

20 เมษายน 2559

ว่าด้วยหนังสือเกี่ยวกับ คาร์ล มาร์กซ์ เบื้องต้น

นิพนธ์พจน์ลัทธิมาร์กซ(คู่มือศึกษาค้นคว้าลัทธิมาร์กซพื้นฐาน) แม้ปกจะบอกว่าเป็นหนังสือพื้นฐาน แต่ผมคิดว่าเล่มนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่เริ่มศึกษาเท่าไหร่ ควรจะศึกษาจากเล่มอื่นมาก่อนที่จะอ่านเล่มนี้ หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่รวบรวมโวหารจากบทความต่างๆของผู้นำทางความคิดของลัทธิมาร์กซ โดยบทแรกจะเป็นบทความของเหมาเจ๋อตงที่เขียนยกย่องลัทธิมาร์กซ ส่วนที่เหลือก็เป็นโวหารของ คาร์ล มาร์กซ, เฟรเดอริค เองเกลส์, วลาดิมีร์ เลนิน, โจเซฟ สตาลิน ในความรู้สึกของผม โวหารของมาร์กซ์นั่นเฉียบคม ของเองเกลส์ลุ่มลึก ของเลนินเฉียบแหลม และของสตาลินห้าวหาญ ในภาคผนวกท้ายเล่มก็มีประวัติอย่างย่อของทั้งสี่ท่านนี้ด้วย

สรุปว่าเล่มนี้ไม่เหมาะกับผู้เริ่มต้นศึกษาที่อยากจะเข้าใจแนวคิดพื้นฐานของลัทธิมาร์กซนะครับ

หนังสือที่แนะนำให้อ่านก่อนคือ

รู้รากมาร์กซิสม์ (Introducing Marxism)
เป็นหนังสือแนะนำลัทธิมาร์กซในรูปแบบลายเส้นการ์ตูนที่เข้าใจง่าย เห็นภาพรวมที่ชัดเจน ผมแนะนำให้เป็นเล่มแรกที่ควรอ่านเพื่อเข้าใจที่มาของแนวคิดและทฤษฎีของมาร์กซ
 
ทำไมควรอ่าน คาร์ล มาร์กซ์ : Karl Marx
นอกจากแนะนำให้รู้จักมาร์กซและแนวคิดของเขาแล้ว ท้ายเล่มยังมีงานแปลบทความขนาดสั้นของมาร์กซ 2 บทความ คือ คำนำบทวิพากษ์เศรษฐศาสตร์การเมือง และ แรงงานรับจ้างและทุน

มาร์กซ : ความรู้ฉบับพกพา (Marx: A Very Short Introduction)
กล่าวถึงชีวประวัติมาร์กซและแนวคิดของมาร์กซอย่างต่อเนื่องช่วยให้เข้าใจบริบทของมาร์กซในยุคสมัยนั้นได้ดีขึ้น ปัจจุบันในฉบับภาษาอังกฤษหนังสือเล่มนี้จัดพิมพ์โดย Oxford University Press

ว่าด้วยทุน (ฉบับย่อ) คำบรรยายวิชาเศรษฐศาสตร์การเมือง เล่มนี้เป็นการย่องานเขียนที่ยิ่งใหญ่ของมาร์กซทั้งสามเล่ม Das Kapital ให้สั้นกระชับเข้าใจง่ายในเล่มเดียว เป็นหนังสือที่กล่าวถึงทุนนิยมในสมัยของมาร์กในรูปแบบของเศษรฐศาสตร์การเมือง
ฉบับเต็มของหนังสือเล่มนี้มีแปลออกมาแล้วโดยผู้แปลเดียวกัน จัดพิมพ์แล้ว 2 เล่ม ส่วนเล่มที่ 3 แปลไม่เสร็จสมบูรณ์(แต่แนบมาเป็นแผ่น CD ในเล่ม 2) แต่นับว่าค่อนข้างอ่านยากครับ ส่วนตัวแนะนำให้อ่านฉบับย่ออย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว นอกจากว่าจะอยากเก็บงานฉบับสมบูรณ์เอาไว้อ้างอิง

กล่าวโดยสั้นๆถึงแนวคิดและผลงานของมาร์กซ จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการวิจัยการทำงานของทุนนิยม เป็นเนื้อหาที่เจาะลึกถึงข้อดีข้อเสียของทุนนิยมในสมัยของมาร์กซ เกี่ยวกับเงินตรา แรงงาน และทุน ที่ยังคงอมตะมาจนถึงปัจจุบัน(ซึ่งทางคอมมิวนิสต์นำปรัชญาของมาร์กซมาใช้อีกที)

กลับมาที่หนังสือ นิพนธ์พจน์ลัทธิมาร์กซ ก็ควรมีไว้ประดับชั้นหนังสือด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากหลักการทฤษฎีที่ได้อ่านจากหนังสือเล่มอื่นๆแล้ว การได้ศึกษาโวหารของผู้นำลัทธิมาร์กซด้วยก็ทำให้เห็นอะไรได้มากขึ้น และเนื่องจากเป็นโวหารที่คัดย่อมาจากบทความต่างๆ ซึ่งบทความเหล่านั้นหาอ่านได้ยากอย่างยิ่งแล้วในฉบับแปลไทย(บางเล่มถูกจัดเป็นหนังสือต้องห้าม) ดังนั้นบทคัดย่อจากบทความต่างๆในหนังลืมเล่มนี้จึงควรค่าแก่การมีไว้อ่านด้วยเช่นกัน


รักประชาชน เชื่อประชาชน รับใช้ประชาชน
เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของประชาชน
ประชาชนฆ่าไม่ตายทำลายไม่สิ้น
ประชาชนจงเจริญ!


ในวิกิพีเดียภาษาไทยก็มีข้อมูลที่ละเอียดพอสมควรทีเดียว สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ครับ

18 เมษายน 2559

วงจรการกระทำและผู้นำสามประเภท

ในการทำสิ่งต่างๆของคนเราจะมีวงจรการกระทำที่แจกแจงได้ 3 อย่างคือ เริ่ม-ต่อเนื่อง-หยุด ตัวอย่างเช่น เมื่อต้องการจะย้ายเก้าอี้จากหน้าบ้านไปหลังบ้าน ทำด้วยการ เริ่มยกเก้าอี้ พาเก้าอีกไปตามทางอย่างต่อเนื่อง เมื่อถึงหลังบ้านก็วางลงและหยุด สิ่งนี้เรียกว่าวงจรการกระทำ ในการทำงานใดๆ ถ้าบุคคลมีสิทธิ์ที่จะ เริ่ม-ต่อเนื่อง-หยุด ในหน้าที่ของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่ถูกขัดจากการต้องขออนุญาติอยู่ตลอดเวลา งานก็จะออกมาอย่างดีที่สุด และเป็นความภาคภูมิใจของผู้ผลิตชิ้นงานนั้นอีกด้วย

แน่นอนว่าในชีวิตเมื่อคนเราจะทำอะไรก็ต้องทำครบทั้งสามอย่าง แต่หากพูดถึงในระดับสังคมแต่ละคนจะมีความโดดเด่นต่างกันไป
1. ประเภทเริ่ม เป็นคนที่ชอบคิดอะไรใหม่ๆ มักชอบทำอะไรด้วยตัวเอง คือคนประเภทศิลปิน ที่จะมีโครงการอะไรใหม่ๆมากมาย สิ่งที่คนประเภทนี้ต้องพัฒนาเพิ่มคือการทำให้ต่อเนื่องจนเสร็จ(หยุด)ได้
2. ประเภทต่อเนื่อง เป็นคนที่ชอบทำสิ่งที่มีอยู่แล้วให้อยู่ต่อไป คือคนที่ต้องการคงขนบเดิมๆเอาไว้อย่างเหนียวแน่นไม่ยอมปรับเปลี่ยนใดๆ สิ่งที่คนประเภทนี้ต้องพัฒนาก็คือต้องรู้จักเปิดรับสิ่งใหม่ๆ และใช้ให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม
3 ประเภทหยุด เป็นคนที่รู้ว่าอะไรไม่ควรทำหรือคนที่ค้านตลอด เป็นประเภทอาชีพตำรวจหรือทหาร ที่คอยหยุดคนที่ทำผิดกฏหมาย สิ่งที่คนประเภทนี้ต้องพัฒนาคือการริเริ่มและความต่อเนื่องของสิ่งต่างๆ

ในระดับสังคมหากว่าคนประเภทเริ่มเป็นผู้นำเบ็ดเสร็จ จะมีโครงการต่างๆมากมายแต่ทำไม่เคยเสร็จเลย หรือหากคนประเภทต่อเนื่องเป็นผู้นำเบ็ดเสร็จ จะไม่มีการริเริ่มอะไรใหม่ๆ จะมีแต่การนำขนบเก่าๆมาใช้ แม้บางเรื่องจะไม่เหมาะกับสถานการณ์แต่ก็ยังคงดันทุรังบังคับใช้ต่อไป หรือหากคนประเภทหยุดเป็นผู้นำเบ็ดเสร็จ ทุกสิ่งในสังคมจะหยุดนิ่ง และการหยุดก็จะนำมาซึ่งการทำลายด้วย คนประเภทหยุดนี้ร้ายแรงที่สุดหากเป็นผู้นำเบ็ดเสร็จเพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของอารยะธรรมนั้นๆ จะเห็นได้จากเผด็จการต่างๆในประวัติศาสตร์

ทางที่เหมาะสมที่สุดคือ ในสังคมควรให้คนทั้งสามประเภทนั้นทำงานรวมกัน ให้คนริเริ่มได้สำเสนอโครงการ ให้คนที่ต่อเนื่องรับสิ่งที่เหมาะสมมาทำและคงสิ่งเดิมไว้หากยังเหมาะสม หรือไม่ก็ผสมผสานไปเลย และให้คนประเภทหยุดคอยดูว่าสภาพแวดล้อมยังคงเหมาะสมหรือไม่ หากสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปแล้วก็ให้หยุด และส่งให้ริเริ่มได้นำเสนอใหม่ เป็นวงจรการกระทำแบบนี้จึงจะมีการเรียนรู้และลื่นไหลไปได้ อารยะธรรมของสังคมนั้นๆจึงจะพัฒนาขึ้นไปได้เรื่อยๆอย่างเข้มแข็ง

อ้างอิง Scientology

03 เมษายน 2559

การทำ Kombucha ตั้งแต่การทำวุ้น SCOBY จนเป็นเครื่องดื่ม

Kombucha หรือที่เรียกว่า กอบบูชา, คอมบูชา, คอมบูฉะ, หรือ ชาเห็ดแดง เป็นชาหมักชนิดหนึ่งครับ จากประวัติศาสตร์ว่ากันว่าเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปมานานนับ 2,000 กว่าปีแล้วที่ประเทศจีน ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดทั่วโลกในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และฮิตมากในรัสเซีย

น้ำ Kombucha คือ น้ำชา+น้ำตาล+จุลินทรีย์พันธ์ุดี (SCOBY = a Symbiotic Colony of Bacteria and Yeast)

เจ้าตัว SCOBY ที่เป็นโคโลนีของจุลินทรีย์ซึ่งมันจะทำการย่อยน้ำตาลให้กลายเป็นสารอาหารต่างๆที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จึงเป็นเป็นชาหมักที่อุดมไปด้วยวิตามินบี เกลือแร่ เอนไซม์ ยีสต์ และมีแบคทีเรีย Probiotic ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายช่วยปรับสมดุลระบบนิเวศในลำไส้ให้กับแบคทีเรียดีในร่างกาย และช่วยเรื่องระบบขับถ่าย

รสชาติที่ได้จะเป็นน้ำชาที่ออกเปรี้ยวๆหวานๆซ่าๆ(มีกลิ่นแอลกอฮอล์เล็กน้อย) เหมือน Apple Cider จริงๆแล้ว Apple Cider ก็คือการนำวิธีการทำ Kombucha ไปทำในแบบตะวันตกโดยใช้แอปเปิ้ลมาหมักแทนน้ำชานั่นเองครับ

ปกติแล้วการทำ Kombucha จะนิยมซื้อหัวเชื้อ SCOBY มาใส่ลงในน้ำชาหวานเพื่อหมักเลย จะช่วยย่นเวลาในการทำได้มากนับครึ่งปีเลยล่ะครับ แต่สำหรับใครที่หาแหล่งซื้อ SCOBY ไม่ได้ ก็สามารถหมักเองได้ตามวิธีการข้างล่าง
มาเริ่มกันเลยครับ!

การทำหัวเชื้อ SCOBY

วัตถุดิบในการหมักหัวเชื้อ

1. ผลไม้เปรี้ยว (เช่น มะเฟืองหั่นชิ้น มะยม ฯลฯ) 3 ส่วน
2. น้ำตาล 1 ส่วน
3. น้ำ ไม่เกิน 10 ส่วน

ผสมเข้าด้วยกัน หมักไว้ในที่ร่ม 1-2 เดือน เมื่อครบให้กรองกากออกเหลือแต่น้ำ แล้วหมักต่อไปอีก 3-6 เดือน จะได้วุ้น SCOBY
จากนั้นก็ได้เวลาของน้ำชา

ส่วนผสมน้ำชา
1. น้ำชาที่ต้มแล้วกรองเอาแต่น้ำ 4 ลิตร (ชาดำจะให้รสที่ดีที่สุด)
2. น้ำตาล 1 กิโลกรัม
(สัดส่วน คือ 4:1)

นำน้ำตาลมาผสมกับน้ำชาที่ต้มและกรองใบชาออกแล้ว(ต้มน้ำชาในน้ำเดือดเพื่อสกัดสารอาหาร และแร่ธาตุต่างๆ ออกมา) เทน้ำชาหวานใส่ลงในโหล ปล่อยให้เย็น จากนั้นนำเอา SCOBY ที่เตรียมไว้แล้วหย่อนใส่ลงไปในโหลน้ำชา แล้วใช้ผ้าหรือทิชชูแผ่นใหญ่ห่อปิดปากโหลไว้ ครอบไว้กันฝุ่นและให้อากาศเข้าออกได้เพื่อให้ SCOBY ได้หายใจ ตั้งไว้ในที่ร่มอย่างน้อย 7 วัน ก็เริ่มนำมาดื่มได้ครับ
เมื่อน้ำคอมบูชาใกล้หมด ก็ให้ทำเหมือนเดิม คือ ชงชาหวานๆมาเติมลงไป โดยให้เหลือน้ำในโหลไว้สักหน่อย แล้วก็รอประมาณ 7 วันเหมือนเดิม ถ้าหัวเชื้อมันหนาขึ้นมากสามารถลอกออกแบ่งไปหมักเพิ่มกับโหลใหม่ได้อีกเรื่อยๆ
ในทุกขั้นตอนทั้งหมดต้องรักษาความสะอาดให้มากๆเลยนะครับ

ดูคลิปประกอบการทำข้างล่างได้เลยครับ 


http://www.marthajjohnston.com/artful-vegan.html

แถม
ขวดโหลที่จะนำมาหมักคอมบูชาควรทำความสะอาดและลวกหรือต้มในน้ำร้อนก่อน เพื่อฆ่าเชื้อโรคอื่นๆที่อาจติดอยู่ออกไป พักให้เย็น จึงจะนำมาใส่น้ำชาและหัวเชื้อเพื่อหมักคอมบูชาได้

ตัววุ้นหัวเชื้อ SCOBY สามารถนำมากินได้ มันเป็นเหมือนวุ้นมะพร้าว

ถ้าหมักแล้วขึ้นราขาวสามารถหมักต่อได้ไม่เป็นไร แต่ถ้าขึ้นราเขียวหรือราดำคือเสีย ต้องเททิ้งทั้งหมดครับ

ถ้าหมักทิ้งไว้นานมันจะเปรี้ยวมากๆเลย สามารถนำมาเจือจางกับน้ำเปล่าเพื่อดื่มได้ หรือถ้าไม่อยากดื่มก็สามารถใช้เป็นน้ำส้มสายชูทำอาหารได้ หรือจะนำมาใช้ทำความสะอาดก็ได้ คือประยุกต์ใช้อื่นๆเสมือนเป็นน้ำส้มสายชูหรือน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ได้เลยครับ

ยาแก้ไอทำเองได้ที่บ้าน สูตรเปรี้ยว
น้ำคอมบูชาที่หมักจนเปรี้ยวหนึ่งช้อนชา+เกลือปลายช้อนชา+น้ำเปล่าเล็กน้อยปริมาณพอเหมาะเพื่อเจือจางหากความเปรี้ยวมากเกินไป นำมาจิบ แก้ไอได้ชะงัก ละลายเสมหะดีนักแล
จิบเรื่อยๆด้วยหลอดจะดีที่สุด เพราะความเปรี้ยวโดนฟันมากจะไม่ดี มันกัดกร่อน
จากที่ทดลองด้วยตัวเอง ถ้าไอแบบมีเสมหะเคลือบอยู่ในคอ ใช้ยาแก้ไอสูตรเปรี้ยว(ทำเอง)ได้ผลดีกว่ายาแก้ไอสูตรหวานอย่างเห็นได้ชัดเลย ดังนั้น บางทีถ้าไอเสมหะอาจเหมาะกับสูตรเปรี้ยว ถ้าไอแห้งอาจเหมาะกับสูตรหวานก็ได้นะ