Sponsor

28 พฤษภาคม 2566

การติดตั้งเครื่องปริ้น HP Laser 107a บน Linux Zorin OS 16.2 Lite


Linux กับเครื่องปริ้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาแต่ไหนแต่ไร ๕๕๕บวก คือมันติดตั้งยากครับ ไดร์เวอร์ก็มักไม่ค่อยซับพอร์ตอย่างเป็นเรื่องเป็นราวสักเท่าไหร่ ต้องใช้กำลังภายในสูงมากในการติดตั้งใช้งาน และต้องใช้วิธีการเฉพาะของแต่ละเครื่องซึ่งไม่เหมือนกัน บางเครื่องต่อปุ๊บอาจใช้งานได้ทันที แต่บางเครื่องต้องใช้กำลังภายใน อย่างเช่น HP Laser 107a เมื่อนำมาต่อกับ Linux Zorin OS 16.2 Lite ก็ใช้ไม่ได้ในทันทีครับ แต่ตอนนี้ผมเจอวิธีทำให้มันใช้ได้แล้ว ซึ่งคิดว่า Linux ที่เป็นมาจาก Ubuntu ก็น่าจะใช้ได้เหมือนกัน ก็มาแบ่งปันไว้ ณ ที่นี้ มาเริ่มกันเลยครับ

อันดับแรก ติดตั้งและเปิดปริ้นเตอร์เสียบ USB เข้าคอมฯให้เรียบร้อย
จากนั้น เปิด Terminal แล้วใส่คำสั่ง

sudo apt update

เพื่ออัพเดทรายการให้เป็นปัจจุบันก่อน จากนั้นใส่คำสั่ง

sudo apt purge ippusbxd
sudo apt purge ipp-usb

คำสั่งนี้เป็นการลบระบบเชื่อมต่อ USB บางระบบ ไม่ขออธิบายมาก แต่ถ้าไม่ลบออกมันจะมองไม่เห็นเครื่องปริ้นนี้ แต่ไม่ต้องกังวัลครับ หากต้องการติดตั้งกลับคืน สามารถใช้คำสั่ง sudo apt install ippusbxd และ sudo apt install ipp-usb ได้ในภายหลัง

จากนั้นเข้าเว็บไปโหลดไดเวอร์ HP Laser 107a จากเว็บของ HP โดยตรงได้ที่ https://support.hp.com/us-en/drivers/selfservice/hp-laser-100-printer-series/24494339/model/24494340 หรือ https://ftp.hp.com/pub/softlib/software13/printers/CLP150/uld-hp_V1.00.39.12_00.15.tar.gz

เมื่อโหลดเสร็จแล้วก็แตกไฟล์ลงใน Home จะได้โฟลเดอร์ชื่อ uld จากนั้นใช้ Terminal เข้าไปในโฟลเดอร์ที่แตกมาด้วยคำสั่ง

cd uld

เมื่อเข้ามาแล้วก็ทำการติดตั้งไดเวอร์ด้วยคำสั่ง

sudo ./install.sh

จากนั้นทำตามขั้นไปเรื่อยๆและรอจนเสร็จสิ้น
แล้วลองใส่คำสั่ง

sudo /usr/lib/cups/backend/usb

ถ้าปกติดีก็จะไม่มีปัญหา มันจะขึ้นชื่อเครื่องปริ้นตามปกติ ไม่มี Error หรือ Failed ใดใด

ทีนี้ให้เข้าไปใน Setting แล้วเลือกที่ Printers จากนั้นกด Additional Printer Settings... แล้วกด Add จากนั้นแถบข้างซ้ายจะมีชื่อปริ้นเตอร์ขึ้นมาว่า HP Laser 103 107 108 คลิกตรงนั้นแล้วกด Forward ไปต่อ จากนั้นก็เลือก HP แล้วไปต่อ เลือกรุ่นชื่อ Laser 10x แล้วทำตามขั้นตอนไปจนเสร็จกระบวนความก็เป็นอันเรียบร้อยครับ
มันอาจจะมีปัญหาอะไรนิดหน่อยตอนกด Forward ครั้งแรก เช่น อาจไม่ขึ้นอะไรมาให้เลือกให้ ให้ลองทำซ้ำๆและสังเกตว่ามันขึ้นเตือนอะไรบ้าง แล้วลองกดเข้าไปดู มันอาจจะนำไปสู่ขั้นตอนถัดไปได้ครับ

อ้างอิงและศึกษาเพิมเติม

23 พฤษภาคม 2566

สรุปบทเรียนจาก The Kite Rider - เด็กชายผู้ขี่ว่าว

ในสังคมที่สอนว่าต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่อย่างไม่ลืมหูลืมตานั้น เราควรจะมีสามัญสำนึกและมีลิมิตในการทำตามคำสั่ง โดยเฉพาะกับผู้ใหญ่ที่ตั้งใจหลอกใช้และเอาเปรียบเด็ก โดยเอาตรงจุดนี้มาเป็นข้ออ้าง "เป็นเด็กดีก็ต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่" คำสอนนี้ใช้ได้หากกล่าวโดยคนที่หวังดี แต่ใช้ไม่ได้เลยหากกล่าวโดยคนที่หวังร้าย ในการเชื่อฟังจำเป็นต้องมีสามัญสำนึกที่รู้ผิดชอบชั่วดีรวมอยู่ด้วย การสั่งสอนให้เชื่อฟังโดยไม่รวมสามัญสำนึกเอาไว้นั้น คือความไม่หวังดีตั้งแต่ต้น
นี่คือข้อคิดหนึ่งที่ผมได้จากการอ่านเรื่องราวการผจญภัยของเหาโหย่วในวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง The Kite Rider - เด็กชายผู้ขี่ว่าว เรื่องนี้เป็นธีมประเทศจีนโบราณที่เขียนโดยนักเขียนชาวต่างชาติมือรางวัลคุณ Geraldine McCaughrean เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่น่าอ่าน ถ่ายทอดเป็นภาษาไทยโดยคุณ สุวัฒน์ หลีเหม ของสำนักพิมพฝ์ Bear Publishing
ยังมีมุมมองให้ขบคิดอีกมากในหนังสือเล่มนี้กับการผจญภัยของเหาโหย่ว เด็กชายผู้ขี่ว่าว เด็กน้อยผู้ได้เห็นโลกในมุมมองที่สูงเสียดฟ้า เขาได้เจออะไรบนท้องฟ้าและเขาได้เจออะไรบนพื้นดิน คงต้องติดตามอ่านได้ครับกับวรรณกรรมเล่มนี้

22 พฤษภาคม 2566

10 รหัสฉุกเฉินที่พบบ่อย - Emergency Codes


เราอาจจะเคยได้ยินในภาพยนต์ที่ตัวเอกตะโกนขอความช่วยเหลือเป็นชื่อรหัส เช่น Code Red! Code Red! (รหัสแดง! รหัสแดง!) หรือ Code Blue! (รหัสน้ำเงิน) ฯลฯ ได้ยินอย่างนี้แล้วก็สงสัยว่ารหัสเหล่านี้หมายถึงอะไร และมันคืออะไร มา เรามาทำความรู้จักไปด้วยกันครับ

รหัสเหล่านี้เรียกกันว่า Hospital Emergency Codes หรือ รหัสฉุกเฉินของโรงพยาบาล ซึ่งในแต่ละที่อาจจะมีความหมายแตกต่างกันไปตามสถานที่และบริบท ในที่นี้จะนำเสนอความหมายทั่วไปของ 10 รหัสฉุกเฉิน
  1. Code Red - รหัสแดง: แจ้งเตือนภัยคุกคามความปลอดภัยต่อชีวิตหรือทรัพย์สิน เช่น ไฟไหม้
  2. Code Blue - รหัสน้ำเงิน: แจ้งว่าต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์
  3. Code Yellow - รหัสเหลือง: แจ้งเตือนโรคระบาดหรือภัยพิบัติ
  4. Code Gray - รหัสเทา: ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเนื่องจากมีผู้รุกรานหรือก่อเหตุรุนแรง
  5. Code Silver - รหัสเงิน: แจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ว่ามีผู้ก่อการร้ายที่มีอาวุธ มีปืน หรือมีการจับตัวประกัน
  6. Code Pink - รหัสชมพู: แจ้งว่าทารกถูกลักพาตัว
  7. Code Orange - รหัสส้ม: แจ้งว่ามีสารเคมีรั่วไหล
  8. Code Black - รหัสดำ: แจ้งว่ามีการขู่วางระเบิด
  9. Code Purple - รหัสม่วง: แจ้งว่ามีเด็กถูกลักพาตัว
  10. Code Green - รหัสเขียว: แจ้งว่าเริ่มใช้แผนปฏิบัติการฉุกเฉินเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น ภัยพิบัติ อุบัติเหตุ โรคระบาด หรืออาจซ้อมหนีไฟ เป็นต้น หรือหมายถึง ทุกอย่างเรียบร้อยดี ให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ
เหล่านี้เป็นรหัสฉุกเฉินที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ซึ่งมักจะตามมาด้วยการอพยพหรือเรียกให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาจัดการอย่างทันที

อ้างอิงและศึกษาเพิ่มเติม
https://www.campussafetymagazine.com/hospital/hospital-emergency-codes-meanings/
https://medical-dictionary.thefreedictionary.com/Code+Green

19 พฤษภาคม 2566

ประโยชน์ของการเล่น CDDA ในชีวิตประจำวัน

เราอาจจะสงสัยว่าการเล่นเกมโร๊คไลท์มีประโยชน์อย่างไรในชีวิตประจำวัน? คุณอาจจะมองว่ามันเป็นเพียงเกมที่เราตายซ้ำๆซากๆ แต่สิ่งที่คุณอาจไม่รู้คือ การเล่น Cataclysm: Dark Days Ahead นั้นมีประโยชน์แบบที่เราไม่ควรพลาด!
  1. การเตรียมความพร้อมในสถานการณ์ฉุกเฉิน: เมื่อเราต้องเผชิญหน้ากับซอมบี้และสิ่งต่างๆ ใน CDDA คุณจะได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของการเตรียมตัวก่อนเข้าสู่สถานการณ์ที่ยากลำบาก มันจะเป็นการทดสอบความคิดสร้างสรรค์และการวางแผนการรับมือกับปัญหาในชีวิตจริง!
  2. การจัดสรรทรัพยากร: เพื่อเอาตัวรอดจากการโจมตีของซอมบี้และการเดินทางในยุคโลกาวินาศ คุณต้องเรียนรู้การจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การค้นหาอาหารและแหล่งน้ำดื่ม จัดการอาวุธและอุปกรณ์ และการสร้างฐานที่ปลอดภัย เพียงแค่รู้จักสต็อกน้ำในห้องน้ำก็อาจจะเป็นความรู้ที่มีประโยชน์ในชีวิตจริง!
  3. เพิ่มสมาธิและการตัดสินใจ: การเล่น CDDA ต้องตัดสินใจในสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว คุณต้องใช้สมาธิและการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตัดสินใจในการกระทำต่างๆ เช่น การต่อสู้หรือการเลือกเส้นทางการเดินทาง สิ่งเหล่านี้ช่วยปรับปรุงการตัดสินใจในชีวิตจริง!
  4. ความรู้และความสนุก: CDDA เต็มไปด้วยภูมิปัญญาและความสนุก คุณสามารถได้รับความรู้เกี่ยวกับการเอาชนะอุปสรรคและวิธีการรอดชีวิตในสถานการณ์ที่หลากหลาย พร้อมทั้งเพลิดเพลินกับการสร้างเส้นเรื่องและสร้างโลกในแบบของตนเอง!
  5. รียนรู้และแบ่งปันความรู้: โลกของ CDDA เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเรียนรู้และแบ่งปันความรู้กับผู้เล่นคนอื่น คุณอาจจะค้นพบเคล็ดลับที่น่าตื่นเต้นในการเอาชนะสถานการณ์ที่ยากลำบาก และสามารถแลกเปลี่ยนความรู้เหล่านั้นกับเพื่อนๆในชีวิตจริงเพื่อเป็นประโยชน์กันและกัน!
ดังนั้น อย่าเสียใจถ้าคุณตายบ่อยๆในโลกของ CDDA (รวมถึง NetHack ด้วย) ให้มองว่ามันเป็นโอกาสในการเรียนรู้และเติมเต็มประสบการณ์ในชีวิตจริง มาลุยไปกับการเล่น CDDA และเตรียมตัวสู่การผจญภัยอันหนาวเหน็บในธีมสยองขวัญนี้ไปด้วยกันเถอะ!"

17 พฤษภาคม 2566

มาเคลียร์กองดองด้วยการแบ่งเวลาในการอ่านหนังสือกันเถอะ


บทความก่อนได้แนะนำเรื่องเทคนิคการอ่านเร็วไปแล้ว มาครั้งนี้เรามาแบ่งเวลาในการอ่านหนังสือกันด้วยดีกว่า สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการทำงานด้วยก็ได้นะ

The Pomodoro Technique เทคนิคมะเขือเทศที่จะช่วยในการอ่านและซึมซับอย่างเป็นระบบ

1. ให้ตั้งเป้าหมายว่าจะอ่านถึงไหน
2. จับเวลา 25 นาที
3. อ่านอย่างตั้งใจ
4. หยุดเมื่อหมดเวลา พัก 5 นาที ให้สมองได้ซึมซับและผ่อนคลาย
5. ย้อนกลับไปเริ่มข้อ 2
6. เมื่อจับเวลาครบ 4 รอบ (4 Pomodoro) ให้พัก 15-30 นาที เพื่อผ่อนคลาย และย้อนกลับไปเริ่มข้อ 1

การตั้งเป้าในข้อแรกสำคัญนะครับ มันจะทำให้เรามุ่งมั่นและจดจ่ออยู่กับการอ่านมากขึ้น เพราะรู้ว่าเรากำลังทำไปเพื่ออะไรนั่นเองครับ
เทคนิคนี้เราใช้อ้างอิงได้ด้วยว่า หนังสือเล่มนี้เราอ่านจบในกี่ Pomodoro อีกด้วยนะ หรือเพื่อความสะดวกอาจใช้แอป Pomodoro timer lite ก็ได้ ตัวแอปจัดการขั้นตอนทั้งหมดไว้แล้ว หรือ อีกแอปที่น่าสนใจ Forest: Stay Focused นอกจากจับเวลาให้เราแล้ว ยังช่วยให้เราตั้งใจมากขึ้นเพราะแอปนี้จะไม่ให้เราเล่นมือถือ เพราะต้นไม้ในแอปของเราจะตาย(นิยมใช้เป็นแอปแก้การติดมือถือ) และยังสามารถบันทึกผลรายการอ่านวันต่อวันได้ด้วยว่าวันนี้อ่านไปแล้วกี่ต้น หรือบนคอมฯจะจับเวลา Pomodoro ผ่านเว็บไซต์ก็ได้ครับที่ https://www.tomatotimers.com/

ปล. Pomodoro แปลว่ามะเขือเทศในภาษาอิตาเลียน ชื่อนี้ได้มาจากตัวจับเวลาที่ดีไซน์เป็นมะเขือเทศ ซึ่งจับเวลาได้สูงสุด 25 นาทีนั่นเอง

นอกจากการจับเวลาแบบโพโมโดโร่แล้ว ยังมีการจับเวลาแบบอื่นอีก เช่น
  • เทคนิค 52/17 Rule : จับเวลาทำงาน 52 นาที แล้วพัก 17 นาที เหมาะกับงานสร้างสรรค์ที่ต้องการความสดใหม่ของความคิดและไม่ต้องการการกดดันหรือเคร่งเครียดเกินไป
  • เทคนิค 90-Minute : จับเวลาทำงาน 90 นาที แล้วพัก 20 นาที เหมาะกับงานที่ยากและซับซ้อนที่ต้องใช้เวลามาก จะได้มีเวลาพักยืดเส้นยืดสายระหว่างการทำงาน
ก็สามารถนำไปปรับใช้ตามความต้องการได้เลยครับ

13 พฤษภาคม 2566

Briar แอปแชทความปลอดภัยสูง ใช้ได้แม้ไมมีอินเตอร์เน็ต

Briar ใช้การเชื่อมต่อโดยตรงที่เข้ารหัสระหว่างผู้ใช้เพื่อป้องกันการเฝ้าระวังและการเซ็นเซอร์

บางครั้ง เมื่ออยู่ในสถานที่ที่ไม่มีสัญญานอินเตอร์เน็ต(เน็ตหมด!) หรืออยู่ในที่ชุมนุมจนสัญญาณอินเตอร์เน็ตไม่พอใช้ หรือไฟดับไร้สัญญาณโทรศัพท์ ฯลฯ ทำให้ไม่อาจโทรศัพท์หรือส่งข้อความหากันได้ โดยเฉพาะ ถ้าอยู่ในงานรับปริญญา หรืออยู่ในงานนิทรรศการต่างๆ ฯลฯ ติดต่อกันไม่ได้ก็คงลำบากแย่เลย ถ้ามีแอปส่งข้อความแบบไม่ต้องใช้อินเตอร์เน็ตก็คงจะดี เราได้ลองมาหลายแอป แต่จากที่ได้ลองส่งโดยไร้อินเตอร์เน็ต หลายแอปทำงานได้บ้างไม่ได้บ้าง ไม่เสถียร แต่แอปที่นำเสนอนี้มีความเสถียรที่สุด

แอป Briar (ไบรเออร์) เป็นแอปฟรี Opensource ไร้โฆษณา ใช้ส่งข้อความหรือรูปภาพผ่านระบบบลูทูธ(Bluetooth) ไม่ต้องใช้อินเตอร์เน็ต เพียงเปิดบลูธูทก็แชทได้เลยในระยะประมาณ 100 เมตร หรือ Wi-Fi Direct ประมาณ 200 เมตร (แบบไม่มีสิ่งกีดขวาง หรือขึ้นอยู่กับอุปกรณ์และสภาพแวดล้อม) หรือจะแชทผ่านอินเตอร์เน็ตเหมือนแอปทั่วไปก็ทำได้เช่นกัน
Briar เป็นแอปส่งข้อความที่ออกแบบมาสำหรับนักเคลื่อนไหว นักข่าว และใครก็ตามที่ต้องการวิธีสื่อสารที่ปลอดภัย ง่าย และมีประสิทธิภาพ Briar ไม่เหมือนกับแอปส่งข้อความแบบเดิมตรงที่ Briar ไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ส่วนกลาง ข้อความจะซิงโครไนซ์ระหว่างอุปกรณ์ของผู้ใช้โดยตรง หากอินเทอร์เน็ตล่ม Briar สามารถซิงค์ผ่านบลูทูธหรือ Wi-Fi ทำให้ข้อมูลยังส่งต่อได้ในช่วงวิกฤต หากอินเทอร์เน็ตใช้งานได้ Briar สามารถซิงค์ผ่านเครือข่าย Tor ปกป้องผู้ใช้และความสัมพันธ์ของพวกเขาจากการสอดแนม

ก่อนอื่นต้องติดตั้ง Briar ลงเครื่องก่อนจาก Store เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว ก็ให้ตั้งค่าตามต้องการ แอปนี้ไม่ต้องการเบอร์โทรหรืออีเมล์หรือการลงทะเบียนใดใด แค่ตั้งชื่อผู้ใช้และรหัสเข้าแอพเท่านั้น(ซึ่งจะเข้ารหัสไว้ในเครื่อง) ใช้การสื่อสารแบบ p2p คือไม่ใช้ Server กลางในการรับส่ง เป็นการส่งแบบเครื่องต่อเครื่องโดยตรง เข้ารหัสด้วยระบบของ Tor จึงปลอดภัยสูง แอปนี้ออกแบบมาเพื่อไม่ให้ทำการสอดแนมหรือเซ็นเซอร์ได้ ไม่ว่าจะโดยผู้ไม่หวังดี รัฐบาล หรือเจ้าของเครื่อข่ายอินเตอร์เน็ต เป็นแอปสำหรับเสรีชนโดยแท้จริง

แอปส่งข้อความทั่วไปอาศัยเซิร์ฟเวอร์ส่วนกลางและเปิดเผยข้อความและความสัมพันธ์ต่อการเฝ้าระวัง

หากคนในกลุ่มจำเป็นต้องใช้แอปนี้แต่อินเตอร์เน็ตล่มพอดีและยังไม่ได้ติดตั้งแอปเอาไว้จะทำยังไง? แอปนี้ได้คิดถึงปัญหานี้เอาไว้แล้วครับ คุณสามารถแชร์แอป Briar ให้เพื่อนติดตั้งได้โดยไม่ต้องใช้อินเตอร์เน็ต ด้วยคำสั่ง Share this app offline ใน Settings เพื่อนก็สามารถโหลดและติดตั้งแอปโดยตรงผ่าน Wi-Fi hotspot ของคุณโดยไม่ต้องใช้อินเตอร์เน็ต
เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว ต้องทำการเพิ่มเพื่อนด้วยการแสกน QR Code ของกันและกันผ่านแอป หรือสามารถแลก ID ของแอปผ่านอินเตอร์เน็ตก็ได้ เมื่อทำตรงนี้เสร็จแล้วก็สามารถใช้แชทได้ตามปกติ สามารถแชทส่วนตัวหรือตั้งแชทกลุ่มก็ได้ และยังมีอีกการส่งข่าวสารอีกหลายแบบในแอป
ควรมีติดเครื่องและตั้งค่าเตรียมพร้อมเอาไว้ โดยเฉพาะสำหรับคนในครอบครัว เมื่อใดที่ระบบอินเตอร์เน็ตล่ม หรือไม่มีสัญญาณ ก็ยังสามารถสื่อสารกันได้ หรือแม้โทรศัพท์ไม่มีซิมส์ ก็ยังใช้สื่อสารได้ด้วยแอปนี้

สรุป
ข้อดีของแอปนี้คือ ไม่มีอินเตอร์เน็ตก็สามารถส่งข้อความได้ และมีการเข้ารหัสความปลอดภัยขั้นสูง เป็นเสมือนเป็นแอปแชทส่วนตัวของเราเองเลยทีเดียว ซึ่งส่งผ่านบลูธูทได้ไกลสุดประมาณ 100 เมตร หรือ Wi-Fi Direct ประมาณ 200 เมตร ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์และสภาพแวดล้อม หรือสามารถแชทตามปกติผ่านอินเตอร์เน็ตก็ได้ด้วยเช่นกัน
ข้อเสียก็มีอยู่บ้างคือ ต้องแอดกันก่อนถึงจะแชทกันได้ ไม่สามารถสุ่มคุยกับคนอื่นๆและไม่สามารถแอดผ่านเบอร์โทรได้ เพราะแอปจะไม่ยุ่งกับความเป็นส่วนตัวเหล่านี้เลย และต้องพิมพ์รหัสก่อนเข้าแอปทุกครั้ง มีความปลอดภัยสูงก็แลกกับความไม่สะดวกหน่อยๆ และระยะเฉลี่ยของการใช้งานแบบบลูธูทในสภาพแวดล้อมจริงที่เสถียรที่สุดอยู่ที่ประมาณ 10-50 เมตรเท่านั้น
แต่ถ้าใช้เป็นแอปเฉพาะกิจนอกสถานที่เป็นครั้งๆคราวๆไปก็คงไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้ครับ

ให้คะแนนสักหน่อย
เมื่อประมวลจากข้อดีข้อเสียแล้วให้ 3/5 แต่ถ้าใช้เป็นแอปส่วนตัวเฉพาะกิจก็ต้องให้ 4/5 เนื่องจากมีความเสถียร เชื่อถือได้ แม้ไม่มีอินเตอร์เน็ต แต่ระยะใช้จริงไม่ไกลมากเท่าไหร่

เป็นแอปที่ควรมีติดเครื่องให้กับทุกคนในครอบครัวครับ ทำการแอดกันให้เรียบร้อย เมื่อต้องใช้ก็จะสามารถใช้ได้ทันทีที่เปิดแอป Briar และบลูธูท(หรือ Wi-Fi Direct หรือ Wi-Fi hotspot หากใช้เป็นกลุ่ม แต่บลูธูทจะมีความเข้มของสัญญาณมากกว่า)

Briar สามารถแบ่งปันข้อมูลผ่าน Wi-Fi, Bluetooth และอินเทอร์เน็ต

แถม




แย่แล้ว ทางการตัดเน็ต แต่ฉันมี Briar นี่นา ฉันไม่ยอมพลาดรูปแมวหรอกนะ

อ้างอิงและศึกษาเพิ่มเติม