สวัสดีครับ ช่วงปีหลังๆมานี้แดดแรงมากทีเดียว เราเลยต้องมองหาแว่นกันแดดสักอัน
ก่อนหน้านี้เคยเขียนถึงแว่นกันแดดแบบโบราณกันมาแล้ว Inuit snow goggles - แว่นกันแดดเอสกิโม คลิ๊กเข้าไปอ่านได้ตามลิงค์เลยจ้า(ทำเองได้ด้วยนะ) ส่วนคราวนี้เราจะมาคุยกันถึงเรื่องแว่นกันแดดแบบปัจจุบันกันบ้างว่าแบบไหนน่าสนใจ มาลองดูไปด้วยกันนะครับ ;)
อันดับแรกมาคุยกัน
เรื่องสี เลนส์แว่นกันแดดจะมีอยู่
3 สีหลักๆ คือ เทา น้ำตาล เขียว สีแต่ละแบบมีคุณสมบัติต่างกันไป
- สีเทา ช่วยลดแสงจ้าได้มากสุด ให้บรรยากาศเหมือนเมฆครึ้มๆ ข้อดีคือสีที่เห็นจะไม่เพี้ยน(หรือเพี้ยนน้อย สีเท่านี้ก็คือแว่นดำนั่นเอง)
- สีน้ำตาล ลดแสงได้ดี ดูเป็นธรรมชาติ ช่วยให้เห็นภาพคมขึ้น แต่สีจะเพี้ยน
- สีเขียว ช่วยกรองแสงเป็นสีที่สบายตาที่สุด เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง แต่สีจะเพี้ยนมาก
ถ้าตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาสีไหน เราแนะนำว่าเป็น สีเทา ดีที่สุดนะ ใช้ได้ในทุกสถานการณ์และเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบสีเพี้ยน จริงๆสีเลนส์กันแดดมีมากกว่านี้อีก แต่ออกไปทางสีแฟชั่น
อันดับต่อมาเรามาคุย
เรื่องรูปทรง แว่นกันแดดที่ดีควรเป็นแว่นที่มีหน้าเลนส์ใหญ่หน่อยจะช่วยกันแดดได้ดีครับ แต่ก็ควรเลือกให้เหมาะกับใบหน้าของแต่ละคนด้วย ซึ่งขอยกมากล่าวคราวๆไว้ตรงนี้นะครับ เพราะเว็บอื่นมีลงเรื่องนี้ไว้อย่างละเอียดแล้ว
(การดูรูปทรงใบหน้า คือ ดูจากไรผมไปรอบๆหน้าจนถึงคาง)
- หน้ากลม ได้ทุกทรง ยกเว้นทรงกลม
- หน้าสามเหลื่ยม, รูปหัวใจ, เพชร ได้ทุกทรง โดยเฉพาะทรงกลม ยกเว้นทรงหยดน้ำบางทรง
- หน้ายาว ทรงแนวขวางออกข้าง เช่น สี่เหลี่ยม หรือ วงรี
- หน้ารูปสี่เหลี่ยม ได้ทุกทรง ยกเว้นทรงเหลี่ยม แต่ถ้าชอบทรงเหลี่ยมจริงๆควรเลือกแบบมุมมน
- หน้ารูปไข่ ได้ทุกทรง (แจ่มจริงๆ)
เพิ่มเติมอีกหน่อยว่าคนที่หางตายาวหรือหางตาชี้ขึ้นไม่ควรใช้แว่นกลมเพราะมันจะทำให้หางตาดูชี้สูงไปอีกครับ ถ้าชอบทรงกลมๆจริงๆให้เลี่ยงไปใช้ทรงหยดน้ำแทนนะครับ
อันดับต่อมา
เรื่องขนาดของแว่น แว่นจะมีขนาดอยู่ครับ
ส่วนใหญ่จะเป็นขนาด 47mm และ 50mm ควรเลือกให้เหมาะขมับของเรา เพราะถ้าเลือกเล็กไปจะดูบีบและอาจหนีบขมับด้วยครับ และไม่ควรเลือกแบบที่โค้งมากเกินไป เพราะจะให้ภาพที่บิดเบี้ยวจนมึนหัวได้
(มันดูเท่ห์นะ แต่มึนอ่ะ ใครไม่มึนก็ถือว่าโชคดีครับ 555+) จะเคลือบปรอทให้เหมือนกระจกเงาหรือไม่ก็แล้วแต่ความชอบเลยครับ ไม่มีผลในการกันแดด
เรื่อง
แว่นกันแดดสำเร็จรูปก็มีประเด็นให้คุยกันประมาณนี้ครับ
อ๋อ อีกอย่างก็เป็นราคาและคุณภาพในการกัน UV ซึ่งเรื่องนี้คงต้องดูที่มีคุณภาพหน่อยครับ เพราะถ้าเป็นแว่นราคาถูกอาจจะไม่กัน UV หรือกันไม่ได้ไม่ดี
เราเองเคยซื้อแว่นกันแดดราคาถูกมาใส่แล้ว เราใส่ขับรถมอเตอร์ไซด์ไม่กี่นาทีมันจะแสบตาน้ำตาไหล เหมือนจะลืมตาไม่ขึ้นเลยนะ ดังนั้นเรื่องนี้จึงอยากนำมาแบ่งปันกันครับ ควรเลือกที่มีคุณภาพหน่อยครับ
ให้จำไว้ว่าสีเข้มหรืออ่อนไม่เกี่ยวกับการกัน UV นะครับ มันอยู่ที่วัสดุที่นำมาทำหรือสารเคลือบครับ
|
Ray-Ban Round Metal Gold ทรงหยดน้ำคลาสสิค |
นอกจากแว่นกันแดดสำเร็จรูป ยังมีแว่นกันแดดสั่งตัดที่ตัดจากร้านแว่นด้วยนะ แบบนี้จะเลือกกรอบและเลนส์ได้ตามใจเรา และอาจจะได้ราคาถูกกว่าและคุณภาพดีกว่าแว่นสำเร็จรูปแบรนด์เนมซะอีกนะ
เพราะมีเลนส์ดีๆให้เลือก เช่น เลนส์ออโต้ ที่จะเปลี่ยนสีเข้มขึ้นเมื่อออกแดดและใสเมื่อเข้าที่ร่ม ส่วนใหญ่เลนส์แบบนี้จะปรับสีตามความเข้มของ UV
แต่ถ้าใส่ในรถยนต์มันจะไม่เปลี่ยนสีนะครับ(ยกเว้นรุ่นเข้มพิเศษ แต่แพงมากครับ) ราคาตั้งแต่ 1,500-2,500 บาท ครับ
ราคาก็จะเกี่ยวข้องกับ ความใส ความเร็วในการเปลี่ยนสี คุณภาพของสารเคลือบ และอายุการใช้งาน ได้ยินมาว่าเลนส์ออโต้ที่ราคาถูกในที่ร่มจะทึมๆนิดๆ
(สีตกค้าง ~20%) เปลี่ยนสีช้า และเมื่อผ่านไป 1 ปี สีจะเข้มขึ้นทีละนิดและจะไม่กลับมาใสอีก
(กลายเป็นแว่นกันแดดธรรมดาไป) ส่วนเลนส์ราคาแพงหน่อยก็จะมีอายุการใช้งานมากกว่า เร็วกว่า เข้มกว่า และใสกว่า
ซึ่งความเข้มสุดของเลนส์ออโต้คุณภาพดีจากที่สังเกตุประมาณได้ 70% ก็นับว่าเป็นความเข้มมาตราฐานของแว่นกันแดด และเมื่อใสจะมีสีตกค้างอยู่ประมาณ 5% ถ้าไม่สังเกตุก็จะไม่ค่อยเห็นครับ
(ในโฆษณาโม้ว่าใสเหมือนเลนส์ใส) เนื่องจากเลนส์พวกนี้มันจะเปลี่ยนความเข้มอ่อนตาม UV อย่างที่ได้บอกไว้ข้างต้น ทำให้ช่วยปรับความเข้มได้ตามสภาพแวดล้อมนั้นเองครับ ด้วยเลนส์ที่กระจายแสงได้ดีสามารถใส่ขับรถได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ซึ่งช่วยให้ได้ภาพที่ดีที่สุดในทุกสภาวะแสง
เลนส์ออโต้ตัดสำหรับคนที่มีค่าสายตาแล้วอยากใส่ค่าสายตาลงไปด้วยก็ได้ครับ จะได้เป็นทั้งแว่นสายตาและแว่นกันแดด
แต่สำหรับคนที่มีค่าสายตา -0.25D ไม่แนะนำให้ตัดเป็นเลนส์สายตานะครับ (ความเห็นส่วนตัว)เพราะค่าสายตาที่น้อยมากขนาดนี้ถือว่าปกติครับ ควรตัดเป็น 0.0D จะดีที่สุดครับ เพื่อไม่ให้ภาพมันตึงตาเกินไป เพราะตัวเลนส์มันก็มีกำลังขยายอยู่เล็กน้อยอยู่แล้วครับ ค่าสายตาที่วัดได้จากเครื่องบอกว่า -0.25D แต่ในความจริงอาจจะไม่ถึงก็ได้ ถ้าตัดเป็นค่าสายตาเต็มไปจะทำให้ตึงตามึนหัวได้นะครับ ลองคิดดูนะครับว่าคนที่มีค่าสายตามักลดค่าสายตาลงมาเสต็ปนึง(-0.25D)เพื่อให้สบายตา ไม่ชัดจนเกินไป เช่น คนที่มีค่าสายตา -1.50D ส่วนใหญ่มักตัดแว่นที่ -1.25D จะเห็นว่าเหลือไว้ -0.25D
(ความเห็นส่วนตัว)ค่าสายตาที่วัดได้ -0.25D จริงๆอาจจะไม่เท่านั้นเป๊ะๆก็ได้ คุณอาจมีค่าสายตา -0.20D หรือ -0.10D ก็ได้ ถ้าใส่เลนส์เต็ม ค่าสายตาเกินแน่นอนครับ
สำหรับคนที่ค่าสายตาสั้น 25 เราแนะนำให้ตัดเป็น 0.0D ดีกว่านะ ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ชัดเพราะยังไงเลนส์ 0.0D ก็มีค่าสายตาเล็กน้อยอยู่แล้ว(ด้วยความเป็นเลนส์) และมันช่วยให้ภาพชัดขึ้นเล็กน้อย อาจพอดีค่าสายตาที่แท้จริงก็ได้
และอีกอย่างคือค่าสายตาแค่นี้ถ้ากินอาหารดีๆ ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงหน่อย พักผ่อนให้เพียงพอก็กลับมาเป็นสายตาปกติได้ครับ ไม่จำเป็นต้องพึ่งเลนส์สายตาแต่อย่างใด
ที่สำคัญ การทำแว่นตัด ควรให้ช่างวัดค่า PD อย่างละเอียด คือ
ตำแหน่งม่านตาดำทั้งสองข้าง และ ความสูงของม่านตาดำจากกรอบแว่นด้วย เพื่อให้ได้แว่นที่สบายตาที่สุดครับ
สำคัญมากนะ ตัดทั้งทีแล้วต้องให้เข้ากับเราที่สุดเลย
ย้ำเลยนะครับว่าสำคัญมาก ไม่งั้นอาจมึนหัวได้
(สำหรับคนที่มีค่าสายตา)
คุยถึงเรื่องแว่นกันแสงคอมพิวเตอร์สักหน่อย
(แว่นตัดสามารถเคลือบกันคอมฯได้) มีการพูดถึงแสงสีฟ้ากันมาก ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่ามีอันตรายจริงหรือเปล่านะครับ อาจเป็นแค่เรื่องการตลาด? ยังไม่ทราบได้ แต่แว่นกันคอมฯยุค LED จะไม่เหมือนกับแว่นกันคอมฯสมัยก่อนที่เคลือบใส เพราะแว่นกันคอมฯเดี๋ยวนี้เป็นสีเหลืองอ่อนนะครับ
(คือตัดแสงสีฟ้าออกไป)ถ้ามองจอขาวๆแล้วจะเหมือนอ่านหนังสือจากกระดาษถนอมสายตาที่สีออกเหลืองอ่อนๆหน่อย
ปัญหาคือสีที่เห็นจะเพี้ยนครับ มองทิวทัศน์ทั่วไปก็ออกเหลืองๆ ใครไม่ชอบสีเพี้ยนไม่ควรเคลือบกันคอมฯ และถ้าทำงานทางกราฟฟิคคือไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง
(ที่สำคัญค่าเคลือบแพงมาก)
|
Flat lenses หรือ เลนส์เรียบ |
ถึงตรงนี้ก็น่าจะหมดเรื่องแว่นกันแดดแล้วครับ ชอบแบบไหน สำเร็จรูปหรือสั่งตัด ก็ลองตัดสินใจกันดูครับ ตอนนี้มีแว่นให้เลือกมากมาย หลายที่ หลายแบบหลายยี่ห้อ หลายราคา ทั้งเลนส์โค้ง เลนส์เรียบ ฯลฯ
ช่วงนี้แดดแรงจริงๆ มาเลือกแว่นกันแดดไว้ถนอมดวงตาคู่นี้ไปนานๆกันเถอะ ;)
ขอให้มีความสุขกับแว่นกันแดดของคุณนะครับ
|
Ray-Ban Aviator รุ่นยอดนิยมตลอดกาล |