Sponsor

09 กันยายน 2568

สมาธิเต๋า - เน่ยตัน (內丹) การหลอมโอสถอายุวัฒนะภายใน


ฟ้าเบื้องบนไม่มีเทพเซียนที่ไร้คุณธรรม.
ก่อนบำเพ็ญวิถีเซียน, บำเพ็ญวิถีมนุษย์ให้ได้เสียก่อน.
คุณธรรม(เต๋อ)คือรากฐานแห่งวิถี(เต๋า).

เฉินจื้อซวีในยุคราชวงศ์หยวนได้กล่าวไว้ในคัมภีร์จินตันต้าเหยา (แก่นแท้แห่งโอสถทองคำ) ม้วนสี่ว่า: "ทั้งหมดนี้ล้วนไม่พ้นสามสิ่ง เสิน (神), ชี่ (氣) และ จิง (精), เมื่อสามสิ่งนี้มีปฏิสัมพันธ์กัน, หากไหลตามปกติก็จะกลายเป็นคน, หากย้อนกลับก็จะก่อเกิดโอสถอายุวัฒนะ. อะไรคือไหลตามปกติ? หนึ่งเกิดสอง, สองเกิดสาม, สามเกิดสรรพสิ่ง, ดังนั้นความว่าง (虛) จึงแปรเป็นเสิน, เสินแปรเป็นชี่, ชี่แปรเป็นจิง, จิงแปรเป็นรูป, รูปก็กลายเป็นคน. อะไรคือย้อนกลับ? สรรพสิ่งล้วนมีสาม, สามกลับคืนสอง, สองกลับคืนหนึ่ง, ผู้ที่รู้วิถีนี้จะสงบเสินรักษารูป, หล่อเลี้ยงรูปเพื่อกลั่นจิง, สะสมจิงเพื่อแปรเป็นชี่, หลอมชี่เพื่อรวมกับเสิน, กลั่นเสินกลับสู่ความว่าง, โอสถทองคำก็สำเร็จ"


เน่ยตัน (內丹) การหลอมโอสถอายุวัฒนะภายใน
กนกเกียรติ หริรักษ์หรรษา - แปล
*หากผิดพลาดขาดตกบกพร่องประการใด ข้าพเจ้าต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

หลอมจิงแปรเป็นชี่ (煉精化氣)

ลัทธิเต๋าเชื่อในการยืดอายุและบรรลุเป็นเซียน โดยใช้การฝึกฝน จิง (精), ชี่ (氣), และ เสิน (神) เป็นพื้นฐาน ในมุมมองของนักพรตเต๋า ในช่วงแรกเริ่มของมนุษย์ จิง, ชี่, และ เสิน เป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมด ดังนั้นสภาวะของทารกจึงถือเป็นอุดมคติ แต่เมื่อเวลาผ่านไป มนุษย์ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ทำให้ จิง, ชี่, และ เสิน แยกออกจากกันเป็นสามส่วน และหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป สุดท้ายก็จะนำไปสู่ความตาย เพื่อหลีกเลี่ยงจุดจบดังกล่าว นักพรตเต๋าจึงคิดถึงการย้อนกลับของกาลเวลา ในแง่ของการบำเพ็ญตน นั่นคือการ "กลับคืนสู่" สภาวะทารก แล้วจะ "กลับคืน" ได้อย่างไร? นั่นคือการนำ จิง, ชี่, และ เสิน ที่แยกจากกันกลับมารวมกันใหม่ ขั้นตอนแรกของการรวมกันคือ "หลอมจิงแปรเป็นชี่" ซึ่งหมายถึง "รวมสามให้เป็นสอง" (收三歸二) โดย "สาม" ในที่นี้คือ จิง, ชี่, และเสิน ส่วน "สอง" คือ ชี่ กับ เสิน เมื่อ "จิง" ถูกหลอมกลายเป็นชี่แล้ว "จิง" ก็จะไร้รูป คงเหลือเพียง "ชี่" และ "เสิน" ตามปกติแล้วการหลอมจิงให้เป็นชี่ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งร้อยวัน จึงเรียกว่า "ด่านร้อยวัน" (百日關) เนื่องจากเป็นขั้นตอนแรกในการฝึกฝนจิงชี่เสิน จึงเรียกว่า "ด่านแรก" (初關) ตามลำดับการฝึกฝน การหลอมจิงให้เป็นชี่ถือเป็นทักษะ "มีการกระทำ" (有為) คำว่า "มีการกระทำ" หมายถึงการต้องทำตามขั้นตอนที่กำหนดอย่างต่อเนื่อง โดยขั้นตอนเหล่านี้ได้แก่: เก็บสมุนไพร (採藥), ปิดผนึก (封固), กลั่นหลอม (烹煉), และ หยุดไฟ (止火) สี่ขั้นตอนใหญ่นี้เป็นการเปรียบเทียบกับการหลอมโอสถภายนอก (เว่ยตัน, 外丹) ความหมายโดยรวมคือการนั่งสมาธิ (靜坐) เพื่อให้หยวนชี่ (元氣) ที่มีมาแต่กำเนิดทำงานขึ้น จากนั้นส่งพลังงานนี้ไปเก็บไว้ที่ตันเถียนล่าง (下丹田) แล้วใช้เจตจำนง (意念) ของตนเองเฝ้ารับรู้ เพื่อกระตุ้นให้สารจิงกลายเป็นชี่ และหมุนเวียนไปตามเส้นลมปรานเญิ่น-ตู (壬督之脈) เมื่อเสินและชี่รวมตัวกัน ก็จำเป็นต้องหยุดไฟ นั่นคือการบรรลุผลของการหลอมจิงให้เป็นชี่

หลอมชี่แปรเป็นเสิน (煉氣化神)

เมื่อการฝึกฝน "ด่านแรก" หรือ "การหลอมจิงแปรเป็นชี่" บรรลุผลแล้ว ก็สามารถก้าวไปสู่การฝึกฝน "การหลอมชี่แปรเป็นเสิน" ได้ "การหลอมชี่แปรเป็นเสิน" จัดอยู่ใน "ด่านกลาง" (中關) ของ "การฝึกสามขั้น" (三步功) เนื่องจากต้องใช้เวลาถึงสิบเดือน จึงเรียกอีกอย่างว่า "ด่านสิบเดือน" (十月關) หากการหลอมจิงแปรเป็นชี่เป็นการเปิดทางให้หยวนชี่ (元氣) หมุนเวียนใน "เสี่ยวโจวเทียน" (小周天) (เส้นลมปราณเญิ่น-ตู) แล้ว การหลอมชี่แปรเป็นเสินก็เป็นการฝึกฝนแบบ "ต้าโจวเทียน" (大周天) คำว่า "ต้าโจวเทียน" หมายถึงการที่หยวนชี่หมุนเวียนไปทั่วทั้งสิบสองเส้นลมปราณ ไม่จำกัดอยู่แค่เส้นลมปรานเญิ่น-ตูอีกต่อไป เมื่อเทียบกับการหลอมจิงแปรเป็นชี่ที่เป็นการ "รวมสามให้เป็นสอง" (收三歸二) แล้ว "การหลอมชี่แปรเป็นเสิน" คือกระบวนการ "รวมสองให้เป็นหนึ่ง" (由二歸一) ซึ่งก็คือการหลอมรวม "ชี่" และ "เสิน" เข้าด้วยกัน นักพรตเต๋าเรียกผลลัพธ์ของการรวม "เสิน" กับ "ชี่" เป็นหนึ่งเดียวว่า "ครรภ์ศักดิ์สิทธิ์" (聖胎) และหากใช้คำศัพท์จากวิชาหลอมโอสถภายนอกก็จะเรียกว่า "โอสถใหญ่ประสูติ" (大藥產) นี่คือช่วงเปลี่ยนผ่านจากวิธี "มีการกระทำ" (有為) ไปสู่วิธี "ไร้การกระทำ" (無為) โดยใช้ตันเถียนล่าง (下丹田) เป็นเตา และใช้หวงถิง (黃庭 หรือตันเถียนกลาง) เป็นหม้อหลอม ให้หยวนชี่ควบแน่นกันอยู่ที่ตันเถียนล่าง (หนึ่งชุ่นสามเฟินใต้สะดือ) และตันเถียนกลาง (ระหว่างหัวนมทั้งสองข้าง) หมุนเวียนไปมา ฝึกบำรุงครรภ์เป็นเวลาสิบเดือน เพื่อให้บรรลุถึงการรวมกันอันมหัศจรรย์ของ "ฟ้ากับดิน" (乾坤交媾) โดยการเปิดและปิดหนึ่งครั้ง การหายใจเข้าและออกหนึ่งครั้ง ก็สามารถช่วงชิงการรังสรรค์ของฟ้าดิน และเป็นหนึ่งเดียวกับความลับสวรรค์แห่งหนึ่งปีได้แล้ว

หลอมเสินกลับสู่ความว่าง (ซวี) (煉神還虛)

เมื่อการฝึกฝน "ด่านกลาง" (中關) หรือ "การหลอมชี่แปรเป็นเสิน" (煉氣化神) บรรลุผลแล้ว ก็สามารถก้าวไปสู่การฝึกฝน "การหลอมเสินกลับสู่ความว่าง" (煉神還虛) ได้ "การหลอมเสินกลับสู่ความว่าง" จัดอยู่ใน "ด่านบน" (上關) ของ "การฝึกสามขั้น" (三步功) ตามธรรมเนียมโบราณ "การหลอมเสินกลับสู่ความว่าง" ใช้เวลาฝึกฝนจนบรรลุผลเป็นเวลาเก้าปี จึงเรียกอีกชื่อว่า "ด่านเก้าปี" (九年關) ในทางปฏิบัติแล้ว "เก้าปี" ไม่ใช่ตัวเลขที่ตายตัว แต่เป็นเพียงเวลาอ้างอิง ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น คุณสมบัติที่มีมาแต่กำเนิด, คโบราณวามเข้าใจส่วนบุคคล, และสภาพแวดล้อมภายนอกของผู้ฝึกฝน "การหลอมเสินกลับสู่ความว่าง" คือขั้นตอนขั้นสูงของการฝึกฝนในวิชาหลอมโอสถภายใน และยังเป็นอุดมคติของสภาวะที่จิตวิญญาณหลุดพ้นอีกด้วย หาก "การหลอมจิงแปรเป็นชี่" คือการ "รวมสามให้เป็นสอง" และ "การหลอมชี่แปรเป็นเสิน" คือการ "รวมสองให้เป็นหนึ่ง" แล้ว "การหลอมเสินกลับสู่ความว่าง" คือกระบวนการที่ปล่อยให้เสินก้าวไปสู่สภาวะความว่างอย่างถึงที่สุด ต่างจากการฝึกฝน "ด่านแรก" ที่เป็นแบบ "มีการกระทำ" (有為) และ "ด่านกลาง" ที่เป็นแบบ "กึ่งมีกึ่งไร้" (若有若無) การฝึกฝนใน "ด่านบน" เป็นทักษะแบบ "ไร้การกระทำ" (無為) โดยสมบูรณ์ คำว่า "ไร้การระทำ" คือสภาวะตามธรรมชาติของเต๋ามหามรรคา (大道) ซึ่งไม่อาจอธิบายด้วยคำพูดได้ นักพรตเต๋าจึงมักใช้สัญลักษณ์รูปวงกลม "O" เพื่อแสดงถึงสภาวะนี้ วงกลมนี้สื่อถึงทั้งสภาวะที่จิตวิญญาณก้าวไปสู่ความว่าง และยังสื่อถึงคุณสมบัติของการหมุนเวียนพลังภายในที่สมบูรณ์ "วงกลม" มาจากรูปลักษณ์ของพระจันทร์ ซึ่งเมื่อพระจันทร์เต็มดวงก็คือความสว่างอันยิ่งใหญ่ เป็นการรวมกันของสัญลักษณ์หยินหยางของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ส่วนสาเหตุที่ทักษะในระดับนี้ถูกเรียกว่า "ด่านเก้าปี" นั้น เป็นไปตามหลักการของการย้อนกลับจากสภาวะหลังกำเนิด (後天) ไปสู่สภาวะก่อนกำเนิด (先天) จากสภาวะหลังกำเนิดแล้วเป็นสภาวะก่อนกำเนิด ทำให้เกิดหยินหยางในกว้าขั่น (坎) และ หลี (離) ประสานกันแล้วกลายเป็นแก่นกว้าเชี๋ยน (乾) ซึ่งมีเลข "เก้า" เป็นเลขสูงสุดของหยาง เก้าเก้าจำนวนครบถ้วน (เมื่อหยางบรรลุถึงขีดสุดอย่างสมบูรณ์แล้ว) ก็จะกลายเป็นหยางบริสุทธิ์และมีอายุยืนยาว นี่คือเหตุผลที่หลี่ว์ต้งปิน (呂洞賓) ตั้งฉายาตัวเองว่า "บุตรแห่งหยางบริสุทธิ์" (純陽子) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของขอบเขตอันลึกซึ้งของการหลอมโอสถภายในในวิชา "การหลอมเสินกลับสู่ความว่าง" นั่นเอง


หลอมความว่างรวมกับเต๋า (煉虛合道)

นี่คือวิชาขั้นสูงสุดของการฝึกฝนในวิชาหลอมโอสถภายในของลัทธิเต๋า การฝึกฝน "หลอมความว่างรวมกับเต๋า" ยังเป็นการแสดงออกถึงแนวคิดการคิดแบบย้อนกลับและการ "ทำลายความยึดติด" ของนักพรตเต๋าด้วย จากการหลอมจิงแปรเป็นชี่ไปสู่การหลอมชี่แปรเป็นเสิน และจากการหลอมชี่แปรเป็นเสินไปสู่การหลอมเสินกลับสู่ความว่าง ทั้งหมดนี้เป็นไปตามแบบแผนการคิดแบบการฟื้นฟูแลหวนคืน ลัทธิเต๋าเชื่อว่า เมื่อเข้าสู่สภาวะความว่างเปล่าแล้ว หากยังคงมีความยึดติดในใจอยู่ ก็ยังไม่หลุดพ้นจากกฎของวิธี "มีการกระทำ" (有為) ควรทำลายความยึดติดในใจนั้นต่อไป แม้กระทั่งลืมสภาวะความว่างเปล่าจนไร้ร่องรอย จึงจะสามารถรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเต๋ามหามรรคา (大道) ซึ่งเป็นรากฐานที่แท้จริงได้ในที่สุด นับตั้งแต่สำนักเต๋าสายจงหลี่ว์ (鍾呂道脈) ในสมัยราชวงศ์ถัง จนถึงนักหลอมโอสถเต๋าทุกคนในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง ต่างก็ย้ำถึงแก่นสารของ "การหลอมความว่างรวมกับเต๋า" อย่างต่อเนื่อง หนึ่งใน "เจ็ดผู้บรรลุ" (七真) ของสำนักเฉวียนเจิน ชิวฉู่จี (丘處機) ได้อธิบายไว้อย่างชัดเจนในหนังสือต้าตันจื๋อจื่อ (大丹直指) และหลี่ว์เต้าฉุน (李道純) ได้เรียกสภาวะนี้ว่า "การทำลายความว่าง" (打破虛空) ที่เรียกว่า "ทำลายความว่าง" ก็คือการลืมความยึดติดในใจที่มีการกระทำทั้งหมด เพื่อให้ตัวตนก้าวข้ามทั้งวัตถุภายนอกและก้าวข้ามตัวตนของตนเองในที่สุด

ต้นฉบับจาก
https://kknews.cc/zh-mo/culture/9x9qvx8.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น